ชัยภูมิ – ความคืบหน้ากรณี พบคุณลุงวัย 66 ปี ถูกพามาปล่อยทิ้งให้รอที่ศาลาข้างทาง จนลุงป่วยกินข้าวไม่ได้มานานกว่า 5 วัน จนผอมโซ นอนซมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก อย่างน่าเวทนา และมีพลเมืองดีมาพบช่วยนำตัวส่ง รพ. ประกาศช่วยตามหาญาติ ที่ล่าสุดทราบว่ามีญาติออกมาเปิดเผยสุดสลด!!
( 13 พ.ค.63 ) หลังจากกรณีเมื่อวันที่ 12 พ.ค.63 ที่ผ่านมา ได้มีชาวบ้านพลเมืองดีในจังหวัดนครราชสีมา ไปพบชายวัย 66 ปี ถูกทิ้งอยู่ที่ศาลาริมทาง ถนนสีคิ้ว-ชัยภูมิ อยู่ข้างบริเวณกำแพงวัดหนองบัวโคก ระหว่างรอยต่อของ ต.หนองบัวโคก อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ กับ ต.บ้านแปรง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสรมา พบคุณลุงวัย 66 ปี รายนี้ มีสภาพร่างกายนอนซมไร้เรี่ยวแรง ผอมซูบจนเห็นซี่โครง มีกองเสื้อผ้า หม้อข้าว กระทะวางอยู่ข้างๆ จากการสอบถามชายชรา ที่ยังพอพูดได้กระท่อนกระแท่นบอกว่า ตนเคยมีภรรยาอยู่ที่บ้านหนองสาร ต.สระจระเข้ อ.ด่านขุนทด เคย ที่อยู่ด้วยกันมานานกว่า 25 ปี
และสาเหตุที่มานอนอยู่จุดดังกล่าว เพราะมีคนขับรถมาส่ง แต่จำไม่ได้ว่ามาจากไหน คนที่พามาบอกว่าจะพาไปอยู่บ้านสงเคราะห์คนชรา และได้พาขับรถวนไปวนมา ก่อนพามามาจอดให้ลงรถรออยู่ตรงนี้ บอกว่าอีก 3 วันจะมารับ แต่ผ่านไปกว่า 5 วันแล้ว ก็ยังไร้วี่แววว่าจะมีใครมารับ ขณะที่ พระศราวุฒิ ภู่ประกิจ พระลูกวัด วัดหนองบัวโคก ที่เห็นชายดังกล่าว เล่าว่า เมื่อช่วง 5 วันก่อน ได้สังเกตุเห็นชายชราคนนี้มานั่งที่ศาลาริมทางแห่งนี้ จึงสอบถามจนทราบว่าชื่อ นายวิชัย ชัยประเสริฐ อายุ 66 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 400 ต.บ้านโคกกุง อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ซึ่งได้มาขอข้าววัดกินด้วยความหิว จึงนำอาหารที่เหลือจากที่พระในวัดฉันแล้ว นำมาให้กินทุกวัน แต่เมื่อหลายวันเริ่มกินน้อยลงเพราะน่าจะมีอาการป่วย จนร่างกายผอมโซอย่างที่เห็น ซึ่งก่อนหน้านี้ยังลุกนั่ง ยืน เดิน ได้ แต่คงเป็นเพราะคิดมาก จนกินไม่ได้ จนร่างกายป่วยผอมโซและนอนอยู่กับที่อย่างที่เห็น ก่อนที่จะมีคนช่วยนำตัวส่งไปรักษาที่ รพ.ด่านขุดทด จ.นครราชสีมา และประกาศตามหาญาติอยู่ในขณะนี้
ซึ่งความคืบหน้าล่าสุด ( 13พ.ค.63 ) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านที่ชายรายนี้อ้างว่ามีภูมิลำเนาอยู่ที่ต.โคกกุง อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ โดยมีผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ช่วยค้นหาข้อมูลตามที่อยู่ที่ของชายรายนี้คือนายวิชัย บอกคือบ้านเลขที่ 400 หมู่ที่ 11 ต.บลโคกกุง อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ จากการตรวจสอบพบว่านายวิชัย วัย 66 ปี เคยอาศัยและมีครอบครัวอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้แต่ประมาณต้นปี 2562 นายวิชัยฯ ได้แจ้งย้ายออกไปจากชุมชนแห่งนี้แต่ไม่ทราบที่อยู่ใหม่
ซึ่งได้พบกับนางจินดา โสภา อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นอดีตภรรยาเก่า ของชายรายนี้ที่ถูกคนนำไปปล่อยทิ้งศาลาริมทางฯดังกล่าว จึงเล่าว่า เคยอยู่กินกับนายวิชัย ชัยประเสริฐและมีลูกชายด้วยกัน 1 คน เมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งนายวิชัยฯ มีอาชีพรับจ้างทั่วไปตระเวนรับจ้างทำงานไปทั่วตนเองเลี้ยงลูกอยู่บ้านเพียงลำพัง ซึ่งนานๆ ครั้งสามีจะกลับบ้านครั้งหนึ่ง จนกระทั่งนายวิชัยหายไปไม่มีการติดต่อและไม่ส่งเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวเลย จนต่อมาทราบว่านายวิชัยไปมีภรรยาใหม่ ที่ไม่ทราบว่าอยู่จังหวัดไหน จนกระทั่งเมื่อต้นปี 2562 นายวิชัยได้กลับมาทำเรื่องย้ายทะเบียนบ้าน ขอแยกทางกันไปอยู่กับภรรยาใหม่ และตั้งแต่บัดนั้นก็ไม่เคยได้ข่าวของอดีตสามีรายนี้อีกเลย
จนมีผู้สื่อข่าวมาถามวันนี้ ถึงรู้ว่าถูกคนนำไปปล่อยทิ้งดังกล่าว และทางผู้สื่อข่าวถามว่าจะไปเยี่ยมอดีตสามีที่โรงพยาบาลหรือไม่ ซึ่งอดีตภรรยาเก่า ก็ตอบยืนยันว่าจะไม่ไปและไม่อยากเจออีกพอแล้วในชีวิตนี้ เพราะเคยทำให้ตนเองเสียใจกินข้าวไม่ได้ นอนไม่หลับ ต้องนั่งน้ำตาตกเลี้ยงดูลูกคนเดียวมาตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมานานกว่า 20 ปีแล้ว และไม่เคยดูแลครอบครัวตนเองเลย และเหตุการณ์ครั้งนี้ตนเองคิดว่าคงเป็นเวรกรรมของแต่ละคนที่ทำไว้เอง
ขณะที่ทางด้าน นางสมยงค์ ภูมิลุน อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นหลานสาวของนายวิชัยกล่าวทั้งน้ำตาว่า หลังทราบข่าวว่า นายวิชัยถูกคนนำมาปล่อยทิ้งไว้ที่ศาลาริมทางก็รู้สึกสงสาร ซึ่งยอมรับว่าไม่เจอกันมานานหลายปีมากแล้วตั้งแต่มาขอแยกทางกับอดีตภรรยาที่นี่ไปมีครอบครัวใหม่อยู่ที่จังหวัดอื่น และอยากฝากบอกคนที่เอานายวิชัยไปปล่อยทิ้ง ไม่น่าจะทำแบบนั้น ถ้าไม่เลี้ยงหรือหมดความสำคัญก็น่าจะติดต่อญาติให้รับรู้ และตนเองอยากให้ ทาง จนท. สืบหาคนที่นำนายวิชัยมาทิ้งข้างทาง อยากจะรู้ว่าทำไปเพื่ออะไร ซึ่งหลังจากนี้ทางญาติบางส่วนก็จะเดินทางไปเยี่ยมนายวิชัยที่โรงพยาบาลด่านขุนทดต่อไป อย่างน้อยๆ ก็ได้ไปพอดูใจกันว่าตกทุกข์ได้ยากกันอย่างไรบ้าง ส่วนตัวป้าอดีตภรรยา เองก็เป็นที่น่าเห็นใจ ที่ยังคงจะรับไม่ได้ต่อกรณีที่ถูกนายวิชัยทิ้งเธอกับลูกไปมีภรรยาใหม่ ที่เขาเองก็เคยทำกับไว้กับอดีตภรรยาหนักมากไม่แพ้กัน
