X

อ่วมหนักพิษโควิด ปชช.ถังแตกตกงานแห่จำนำของมีค่าหมดตัวชิ้นสุดท้ายพุ่ง (คลิป)

ชัยภูมิ – สูงเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่มีการตั้งโรงรับจำนำมา แห่ใช้บริการล้นกว่าวันละกว่า 300 คน ชาวบ้านหลายรายต้องตัดสินใจนำเครื่องมือประกอบอาชีพทางการเกษตร มรดกผ้าไหมเก่าเก็บที่ตกทอดมอบต่อกันมาจากปู่ ย่า ตา ยาย กันมายาวนานหลายชั่วคน ซึ่งเป็นของมีค่าชิ้นสุดท้ายของชีวิตที่เหลืออยู่ เพื่อนำมาจำนำถึงจะได้ราคาไม่มากกว่ารายละ 500 – 1,000 บาท ก็ยอมเพื่อพอได้มีเงินกลับไปใช้จ่ายในครอบครัวให้ได้ก่อนในช่วงนี้ที่โควิด -19 ยังระบาดหนัก!!

( 15 เม.ย.63 ) ที่ จ.ชัยภูมิ ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด -19 ยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลายลงง่ายๆ ในทั่วประเทศ พิษโรคระบาดเชื้อไวรัสโควิด -19 ก็ยังส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจโดยรวมในหลายพื้นที่หนักเพิ่มขึ้นตามมาอีกด้านต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนตกงานไม่มีรายได้มาใช้จ่ายภายในครอบครัวได้ในช่วงนี้กันจำนวนมาก

และความหวังเป็นที่พึ่งสุดท้าย อย่างโรงรับจำนำ หรือโรงตึ้ง ในแต่ละพื้นที่ ทำให้บรรยากาศโรงรับจำนำ ที่ จ.ชัยภูมิ ล่าสุด ประชาชนที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินเร่งด่วน ก็เริ่มพากันนำสิ่งของมีค่า ที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือทำมาหากิน ใช้ประกอบอาชีพทางการเกษตร ผ้าไหมเก่าเก็บที่เป็นมรดกตกทอดมอบเป็นของมีค่าให้เก็บรักษาไว้จากปู่ ย่า ตา ยาย ที่ตกทอดกันมายาวนานหลายชั่วคนจนปัจจุบัน ล่าสุดก็ต้องตัดสินใจพากันนำออกมาใช้บริการโรงรับจำนำกันต่อเนื่องจำนวนมาก

โดยที่สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองชัยภูมิ ก็ยอมรับว่าสถานการณ์การเช่นนี้ ก็ยังไม่เคยพบเป็นมาก่อนตั้งแต่มีการตั้งโรงรับจำนำในพื้นที่มาด้วยเช่นกัน ซึ่งครั้งนี้ที่ จ.ชัยภูมิ ได้มีการเตรียมเงินไว้สำรองช่วยเหลือไว้ครั้งนี้เพิ่มขึ้นอีกรวมทั้งหมดกว่า 150 ล้านบาท โดยจะคิดดอกเบี้ยต่ำสุดเพียงร้อยละ .125 สตางค์ต่อเดือน หรือไม่เกินครึ่งสลึงต่อเดือน หากจำนำในวงเงินไม่เกิน 5,000 บาท

ซึ่งขณะนี้ส่งผลให้คนตกงานไม่มีงานทำจำนวนมากในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ  ที่หลังได้มีการไปแจ้งลงทะเบียนขอรับการช่วยเหลือจากรัฐบาลเดือนละ 5,000 บาทต่อเดือน แต่ไม่ผ่าน ด้าน นายทวีศักดิ์  วงศ์ช่วย ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองชัยภูมิ เปิดเผยว่า ขณะนี้ก็เริ่มมีบรรยากาศได้มีชาวบ้านชาวชัยภูมิ ซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัว ทั้งพ่อ แม่ และผู้ที่ไม่มีเงินในกระเป๋า ได้มีการนำสิ่งของมีค่า แปลกๆ มากขึ้น เพื่อนำมาใช้บริการจำนำกันต่อเนื่องไม่ขาดสายกันเป็นจำนวนมาก ต่อวันเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 150-300 รายขึ้นไป

ซึ่งสิ่งของที่เคยนำมาจำนำมากสุดจะเป็นทองคำรูปพรรณไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ หรือแหวน ที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ทราบว่าในตั้งแต่วันนี้( 15 เม.ย.63 )  ราคาทองคำเริ่มปรับราคาสูงขึ้น ส่วนหนึ่งที่เคยนำทองคำมาจำนำไว้ ก็มีการรีบไปขอยืมเงินญาติพี่น้องมาเพื่อมาขอไถ่ถอนทองคำที่จำนำไว้คืนไป เพื่อจะนำไปขายขาดต่อให้กับร้านทองเลย เพื่อที่จะได้เงินส่วนต่างเก็บไว้ใช้ได้ และนำไปใช้หนี้คืน ทำให้สถิติการมาไถ่ทองคำที่จำนำเพิ่มมากขึ้น เพื่อนำไปขายขาดให้กับร้านทองตามมาเป็นจำนวนมาก

แต่พบเป็นที่น่าแปลกใจมากยิ่งขึ้น เมื่อมีผู้นำเครื่องมือทำมาหากิน อุปกรณ์ประกอบอาชีพทำการเกษตรจำพวกรถไถนา เครื่องสูบน้ำ เครื่องมือช่าง จำนวนมาก รวมถึงภาชนะเครื่องทองเหลือง เข็มขัดเงิน เครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวี หม้อหุงข้าว รวมทั้งผ้าไหมเก่าเก็บ ที่เป็นสิ่งของมีค่าของจิตใจและครอบครัวซึ่งมีการมอบให้เป็นมรดกตกทอดจากปู่ ย่า ตา ยาย ให้เก็บไว้สืบทอดต่อกันมายาวนานหลายชั่วคน มีทั้งผ้าซิ่น ผ้าโสร่ง ผ้าไหม ต่างก็พากันนำมาจำนำเพิ่มมากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเช่นกัน

ที่ถึงแม้เครื่องมือ ของมีค่าเก็บไว้ประกอบอาชีพชิ้นสุดท้ายของครอบครัว หรือของมีค่าประเภทนี้มีราคาจำนำได้ไม่มาก อยู่ระหว่างไม่เกิน 500 – 1,000 บาท ชาวบ้านที่มาจำนำก็ยอมนำมาจำ ซึ่งทราบว่าตั้งใจนำมาจำนำแล้ว ก็ขอให้มีเงินติดตัวกัลับบ้านไปใช้จ่ายในครอบครัวให้ได้ก่อนในช่วงนี้

และบางรายยังมีการนำตั๋วจำนำเดิมที่จำนำไว้ราคาไม่เต็ม ได้นำตั๋วจำนำมาขอเพิ่มวงเงินจำนำเพิ่ม เพื่อนำเงินไปใช้สอยในครอบครัวเพิ่มเติม ที่ช่วงนี้ต่างก็บอกว่าตกงาน ไม่มีงานทำ จะทำให้มีเงินมาจากไหนได้ เพื่อนำมาใช้สอยในครอบครัวต่อไปได้จากนี้ไปด้วย ซึ่งทางสถานธนานุบาลก็พร้อมช่วยเหลือประชาชนและเห็นใจมากในช่วงนี้ ที่จะต้องฝ่าวิกฤตโควิด -19 ระบาดครั้งนี้ร่วมกันต่อไปให้ได้

ซึ่งในช่วงผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด –19 ในช่วงนี้ ทางโรงจำนำจะคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษสุดอย่างไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่มีการตั้งโรงจำนำมาด้วยเช่นกัน เพียงร้อยละ .125 สตางค์ต่อเดือน ในวงเงินจำนำไม่เกิน 5 พันบาท หรือร้อยละครึ่งสลึง หากวงเงินเกิน 5 พันบาทขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยร้อยจะอยู่ที่ร้อยละ 1 บาทต่อเดือน และมีขยายระยะเวลาไถ่ถอนเพิ่มขึ้นอีกจาก 4 เดือน เป็น 5 เดือน ซึ่งทองคำรูปพรรณส่วนใหญ่จำนำเต็มราคาเท่าที่จะจำนำได้ ที่ขณะนี้รับจำนำทองคำรูปพรรณได้อยู่ที่บาทละ 18,000 บาท  และเตรียมวงเงินไว้รองรับในสถานการณ์โควิด -19 ระบาดไว้เพิ่มขึ้นอีกในช่วงนี้กว่า 100 ล้านบาท รวมเงินสำรองเดิมอีกกว่า 50 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการจำนำของประชาชนไว้ให้ต่อเนื่องในขณะนี้ได้ต่อไปจนกว่าสถานการณ์การการแพร่ระบาดจะคลี่คลายได้

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

น้อมรับการทำหน้าที่สื่อเพื่อประชาชนมายาวนานกว่า25ปีเพื่อชาวชัยภูมิพร้อมเป็นเครือข่ายการทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีในนามสมาคมนักข่าวจังหวัดชัยภูมิและชมรมสื่อมวลชนชัยภูมิพร้อมรับใช้ชาวชัยภูมิและเป็นเวทีให้กับประชาชนทุกท่านตลอดไปมีอะไรเดือดเนื้อร้อนใจติดต่อมาที่ทีมงาน77ข่าวเด็ดชัยภูมิเราได้หรือที่[email protected]