ชัยภูมิ – เจ้าของกิจการตู้เติมเงินโทรศัพท์ที่นำไปติดตั้งวางไว้ประจำสถานที่ต่างๆ เพื่อบริการประชาชนในทั่วเมือง โอดเริ่มได้รับผลกระทบพิษเศรษฐกิจตกต่ำจากปัญหาโควิด 19 ระบาด ทำคนเริ่มตกงานเพิ่มมากขึ้น หลังพบโจรมือใหม่ตระเวณลงมือก่อเหตุงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์พังเสียหายหลายแห่งไปทั่วเมืองเพิ่มมากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน พังเสียหายไปแล้วกว่า 5 จุด/ตู้!
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 19 มี.ค.63 นางกัณฑิลา สุขขี อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 293 – 294 หมู่ 6 บ้านหนองสังข์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.สุเมธ เสนากร รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ และพาเดินทางไปตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุมีโจรใช้เครื่องมืองัดแงะ เครื่องให้บริการตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือ ที่ตั้งอยู่หน้าร้านซักผ้า ของตนเองเลขที่ 379/297 ถ.โนนม่วง ในซอยวิทยานารี .ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
โดยผู้สียหาย นางกัณฑิลา สุขขี บอกว่า ประกอบธุรกิจการนำเครื่องเติมเงินโทรศัพท์มือถืออัตโนมัติไปฝากติดตั้งไว้ตามหน้าร้านต่าง ๆ ทั่วทั้งตัวเมืองชัยภูมิ และในตอนเช้าวันนี้ (19มี.ค.63) เจ้าของร้านซักผ้าที่ตนเองนำเครื่องเติมเงินโทรศัพท์มือถืออัตโนมัติไปฝากติดตั้งไว้ตามหน้าร้าน ได้โทรแจ้งว่าเครื่องเติมเงินฯถูกคนร้ายงัดตู้ และขโมยเงินไป
จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบตู้มีร่องร่อยถูกงัดแงะได้รับความเสียหาย และเปิดออกตรวจสอบภายในช่องเก็บเงิน ถูกขโมยเงินหายไปครั้งนี้ไม่น้อยกว่า 5,000 บาท จากการตรวจในระบบของเครื่องเวลา 04.00น วันนี้ (19 มี.ค.63) ตรวจสอบระบบเครื่องยังใช้ได้อยู่ ซึ่งมีสัญญาณให้บริการเติมเงินของเครื่องขัดข้องหายไป และคาดว่าคนร้ายน่าจะลงมือก่อเหตุในช่วงเวลาประมาณ 04.30น.วันนี้ (19 มี.ค.63)
ซึ่งนางกัณฑิลา ผู้เสียหายเจ้าของเครื่องฯ บอกอีกว่าที่ผ่านมา เครื่องให้บริการตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือของตนเองที่ฝากไว้ตามหน้าร้านต่าง ๆ เพื่อไว้คอ่ยบริการประชาชนที่ต้องการในทั่วตัวเมืองชัยภูมิ ที่ในช่วงนี้ที่เกิดปัญหาโควิด 19 ระบาดและเร่มมีการเลิกจ้างงาน ทำให้คนตกงานตามมาเป็นจำนวนมากในขณะนี้นั้น ก็น่าจะเป็นสาเหตุหลักในช่วงนี้ที่ได้เกิดมีเครื่องเติมเงินโทรศัพท์มือถือของตนเองถูกคนร้ายงัดตู้ฯ ขโมยเงินได้รับความเสียหายมาต่อเนื่องบ่อยครั้ง ไม่น้อยกว่า 5 ครั้ง ทั้งที่ได้แจ้งความไว้ และในรายที่ตู้เงินหายไปน้อยไม่กี่บาทก็ไม่ได้แจ้งความ
สำหรับตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือที่ถูกงัดแงะและขโมยเงินไปในครั้งนี้ จากการดูร่องรอยความเสียหายของตู้แล้วน่าจะเป็นฝีมือของคนก่อเหตุมือสมัครเล่นหรือโจรมือใหม่ที่ไม่เคยก่อเหตุมาก่อน ซึ่งน่าไม่ใช่มืออาชีพ ซึ่งในยุคการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ประชาชนทำมาหากินลำบากอยู่แล้ว อยากให้ตำรวจช่วยติดตามค้นร้ายให้ได้โดยเร็ว เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุที่อื่นอีก
ด้าน ร.ต.อ.สุเมธ เสนากร รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ภายหลังได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าพฤติการณ์การก่อเหตุของคนร้ายคล้ายกับการงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถืออีกหลายแห่ง เชื่อว่าน่าจะเป็นกลุ่มคนร้ายเดียวกัน ที่เคยทำมาแล้วและหย่ามใจมาก่อเหตุในอีกหลายจุด ซึ่งจะมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงหาตัวได้ไม่ยาก เพื่อเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วต่อไป
