วัดฝีมือเด็กไทยเมืองชัยภูมิ ได้มีโอกาสออกไปสู่การพัฒนาเป็นนักกีฬามืออาชีพในระดับชาติ-สากลมายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ
ขณะที่จ.ชัยภูมิ นายณรงค์ วุ้นซิ้ว ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ ได้เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬานักเรียนมัธยมศึกษา “โซนหุบเขา” ประจำปี 2560 ครั้งที่/ปีที่ 42 สุดคึกคักโดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องโรงเรียนกว่า 63 แห่งทั่วทั้งจังหวัดเข้าร่วมพิธีเปิดงานเป็นจำนวนมากอย่างเป็นทางการแล้วในปีนี้
โดยนายณรงค์ วุ้นซิ้ว ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ กล่าวว่า ต้องขอชื่นชมจังหวัดชัยภูมิ ที่ได้จัดการแข่งขันกีฬานักเรียนในระดับมัธยมศึกษา หรือ กีฬานักเรียนโซนหุบเขา ที่มีการถือปฏิบัติกันมาอย่างยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 42 หรือก้าวเข้าสู่ปีที่ 42 แล้วในปีนี้โดยผู้บริหารด้านการศึกษาระดับจังหวัดได้ให้ความสำคัญในการจัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬา ดังพระราชดำรัสในหลวง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช บรมนาถบพิตร รัชการที่ 9 ความตอนหนึ่งว่า “ กีฬามีความสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับชีวิตแต่ละคน และชีวิตของบ้านเมือง” จึงขอให้ทุกท่านน้อมนำพระราชดำรัชนี้ ใส่เกล้าใส่กระหม่อม เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติตนให้เหมาะสมต่อไป
สำหรับนักกีฬาก็ให้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ ตามกฎ กติกา และระเบียบของการแข่งขันมีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย และส่วนสำหรับคณะกรรมการตัดสินและเจ้าหน้าที่ก็ขอให้ร่วมกันดำเนินการและตัดสินด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม แก่ทุกฝ่ายที่จะช่วยกันสร้างการมีน้ำใจนักกีฬาไปสู่สากลนานาชาติให้มากยิ่งขึ้น
และถือว่าเวทีการจัดแข่งขันกีฬาโซนหุบเขาของจ.ชัยภูมิ ได้ใช้เป็นเวทีคัดช้างเผือกนักกีฬาที่ไปสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดชัยภูมิมายาวนานหลายร้อยคน โดยเฉพาะนักฟุตบอลทีมชาติในอดีตที่ผ่านมากว่าครึ่งศตวรรษ กว่า 42 ปีที่ผ่านมา ได้เกิดจากเวีทีการจัดการแข่งขันกีฬาโซนหุบเขาที่จ.ชัยภูมิ มาได้เป็นอย่างดีมาตลอดจนปัจจุบัน
ขณะที่ด้าน ดร.อุดมชัย ชัยจุฑาภัค ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 30 (ชัยภูมิ) กล่าวว่า การแข่งขันกีฬานักเรียนมัธยมศึกษาจังหวัดชัยภูมิ ได้จัดต่อเนื่องมาแล้วกว่า 40 ปี และครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 42 ประจำปี 2560 การจัดการแข่งขันทุกครั้งจะเน้นนักเรียนกีฬาทุกประเภทให้มีคุณภาพมีน้ำใจนักกีฬาให้มีคุณภาพออกไปสู่ระดับสากลนานาชาติเป็นจำนวนมาก
และถือเป็นการพัฒนาบุคลากรทั้งผู้บริหาร ครูผู้สอนและตัวนักเรียน เป็นการบูรณาการด้านการจัดการผู้บริหาร การจัดการเรียนรู้ รวมทั้งการแสวงหาความร่วมมือไปยังผู้ปกครอง ชุมชน หน่วยงานภาครัฐ เอกชนและรัฐวิสาหกิจ ให้ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็กเยาวชนไทยสร้างช้างเผือกให้กับเด็กชัยภูมิได้รับการยอมรับจากนานาชาติได้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ซึ่ง กีฬานักเรียนโซนหุบเขา ได้จัดขึ้นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2519 เนื่องจากผู้บริหารโรงเรียนต่างๆ ของฝั่งหุบเขา ซึ่งประกอบด้วย โรงเรียนภูเขียว , โรงเรียนคอนสวรรค์ , โรงเรียนแก้งคร้อวิทยา , โรงเรียนบ้านแท่นวิทยา ,โรงเรียนหนองบัวแดงวิทยา ,โรงเรียนเกษตรสมบูรณ์วิทยาคม ,โรงเรียนคอนสารวิทยาคม จำนวน 8 โรงเรียน โดยผู้บริหารโรงเรียนในขณะนั้นได้เกิดแนวความคิดร่วมกันว่าจะหาวิธีใดที่จะส่งเสริมให้โรงเรียนมัธยมศึกษาตามชนบทหุบเขาได้มีโอกาสพัฒนาตนเองได้มากขึ้น
โดยการวางเงื่อนไข ที่เป็นตัวกระตุ้นทั้งทางตรง และทางอ้อม พร้อมกับประชาชนในท้องถิ่น เข้ามามีบทบาทช่วยพัฒนาโรงเรียน ทั้งทางด้านอาคาร สนามกีฬา วัสดุ อุปกรณ์ และพัฒนาด้านจิตใจ จนต่อมามีได้รับการยอมรับในการคัดเลือกตัวแทนนักกีฬาในจังหวัดที่มีคูรภาพออกไปสู่สากลในระดับชาติและโซนเอเชียได้มาต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก ทางด้านผู้บริหารโรงเรียนรุ่นต่อๆมา จึงได้ช่วยกันสืบทอดเจตนาอันดีที่เป็นจุดเริ่มในครั้งนั้นมาด้วยการจัดกีฬาโซนหุบเขาผ่านมาด้วยดีอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลานานเกือบ 50 ปีจนปัจจุบัน
พร้อมทั้งในอีกหลายๆโรงเรียนในพื้นที่ให้การยอมรับ ได้ขยายวงกว้างมากขึ้น มีโรงเรียนต่างๆในจังหวัดชัยภูมิ เข้าร่วมการแข่งขันเป็นจำนวนมากในปัจจุบันรวมกว่า 63 โรงเรียน จนกลายเป็นการแข่งขันกีฬานักเรียนมัธยมศึกษาระดับจังหวัดในที่สุด ในครั้งที่ 15 มาตั้งแต่ช่วงพ.ศ 2533 โรงเรียนมัธยมศึกษาทุกโรงเรียนในจังหวัดชัยภูมิจึงได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพอย่างครอบคลุมทุกพื้นที่ในจังหวัดชัยภูมิ จนมาปัจจุบันถึง
ทางโรงเรียนมัธยมศึกษาทุกโรงเรียนในจังหวัดชัยภูมิได้ออกมาร่วมกันเป็นเจ้าภาพ และได้เปลี่ยนชื่อจาก “กีฬานักเรียนโซนหุบเขา” เป็น “กีฬาสถาบันการศึกษาแห่งชาติ จังหวัดชัยภูมิ (กีฬานักเรียนโซนหุบเขา )” ถือได้ว่าเป็นมหกรรมกีฬาสถาบันการศึกษาจังหวัดชัยภูมิที่ได้รับการยอมรับในระดับภาคและประเทศไทยมาตลอด
และในการแข่งขันครั้งที่ 37 – 38 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “กีฬา สพม.ชัยภูมิ เกมส์ (กีฬานักเรียนโซนหุบเขา )” ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2529 กำหนดให้ วันที่ 16 ธันวาคม ของทุกปีเป็น วันกีฬาแห่งชาติ เพื่อรำลึกถึงวันสำคัญแห่งประวัติศาสตร์การกีฬา ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่ได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญรางวัลจากสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เนื่องจากทรงชนะเลิศการแข่งขันกีฬาเรือใบ ในการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 14 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2510 และรัฐบาลได้ประกาศนโยบายดังกล่าว เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการจัดการแข่งขันกีฬาในระดับจังหวัด ระดับเยาวชน ระดับชาติ และเฉลิมฉลองวันกีฬาแห่งชาติตามนโยบายของรัฐบาลของประเทศไทยมาต่อเนื่องยาวนานมาจนปัจจุบัน
ต่อมาปี พ.ศ.2559 นับว่าเป็นครั้งที่ 41 ที่ทางคณะผู้บริหารโรงเรียนสังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 30 ได้มีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2559 ให้เปลี่ยนชื่อการแข่งขันเป็น “กีฬานักเรียนมัธยมศึกษาจังหวัดชัยภูมิ (กีฬานักเรียนโซนหุบเขา)” กลับมาเป็นชื่อเดิมของการเริ่มต้นที่จะให้ความสำคัญในการมีส่วนร่วมกับคนในท้องถิ่นได้มากขึ้นโดยมีนักเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 30 และโรงเรียนในสังกัดอื่นๆ ทั้งเอกชนและท้องถิ่น
จนมาถึงครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 42 ประจำปี 2560 จังหวัดชัยภูมิ โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 30 ได้กำหนดจัดการแข่งขันฯ ในระหว่างวันที่ 10-16 ธันวาคม 2560 ณ สนามกีฬากลางจังหวัดชัยภูมิ และสนามกีฬาในโรงเรียนต่างๆ รวม 10 สนาม ใน 16 ชนิดกีฬา ได้แก่ ฟุตบอล ชาย 18 ปี ฟุตบอลชาย 16 ปี ฟุตบอล ชาย 14 ปี – หญิง 18 ปี บาสเก็ตบอล ชาย-หญิง ฟุตซอล ชาย 16 ปี ฟุตซอล ชาย 18 ปี ฟุตซอล ชาย-หญิง 14 ปี มวยไทย มวยสากล วอลเลย์บอลในร่ม เซปักตะกร้อ แบดมินตัน ยกน้ำหนัก เทเบิลเทนนิส แฮนด์บอล และว่ายน้ำ
ซึ่งได้จัดพิธีเปิดงานอย่างยิ่งใหญ่ในวันนี้ วันที่ 11 ธันวาคม 2560 ณ สนามกีฬากลางจังหวัดชัยภูมิ ( สนาม อบจ.ชัยภูมิ) โดยผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว เป็นประธานในพิธี มีขบวนพาเหรด ที่ทุกกสถาบันการศึกษาในจังหวัดชัยภูมิได้ร่วมกันจัดอย่างยิ่งใหญ่ ให้สมกับเมืองชัยภูมิ เป็นเมืองกีฬา ที่มีนักกีฬาทีมชาติไทยมากมายหลายคน อย่างเช่น นายชูเกียรติ หนูสลุง ซึ่งอดีตเป็นนักกีฬาฟุตบอลของทีมชาติไทย เคยเป็นนักเรียนกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล ที่ผ่านการคว้าแชมป์ฟุตบอลชาย ในการแข่งขันกีฬาโซนหุบเขา มาแล้วเมื่อหลายปีก่อน และอีกหลายๆคนที่มีนักเตะออกจากเวทีการแข่งขันกีฬาโซนหุบเขาของจ.ชัยภูมิ ไปค้าแข้งมืออาชีพในระดับชาติและต่างประเทศอีกเป็นจำนวนมากไม่น้อยกว่า 200 คนในตลอดระยะเวลากว่า 42 ปีที่ผ่านมาจนปัจจุบัน
ซึ่งวัตถุประสงค์หลักอีกประการก็คือ ต้องการสร้างเยาวชนให้เก่งด้านการเล่นกีฬา ที่อยากจะเข้าไปสู่นักกีฬาระดับอาชีพให้มากขึ้นได้อีกทางด้วย และ พร้อมที่จะก้าวไปสู่เวทีการแข่งขันระดับภาคและระดับชาติ หรือสู่อาชีพ ต่อไป ได้ไม่ยากอย่างเช่นรุ่นๆพี่ๆที่ผ่านอย่างน่าภาคภูมิใจของชาวชัยภูมิ มาตลอดซึ่งถือเป็นเวทีสร้างช้างเผือกให้กับเด็กเยาวชนชัยภูมิ ได้อย่างมีคุณภาพอย่างยั่งยืนมาตลอดยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษอย่างน่าภาคภูมิใจของชาวชัยภูมิมาตลอดด้วยเช่นกัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: