X

อนาคตใหม่เดินหน้าการเมืองด้วยคนรุ่นใหม่ เปิดนโยบายรัฐสวัสดิการ ไม่สนนักการเมืองเก๋า

สถานการณ์ทางการเมืองในจังหวัดแพร่ ก่อนสิ้นปี 2561 มีกระแสคึกคักทั้งนักการเมืองใหม่และนักการเมืองหน้าเก่า และ กลุ่มนักการเมืองที่ข้อนข้างเก๋าเกมส์ เป็น ส.ส.มาหลายสมัย ต่างออกหาเสียงลงพื้นที่พบประชาชนได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งแนวทางการหาเสียงคือการเข้าไปใกล้ชิดประชาชนในทุกรูปแบบ ซึ่งนักการเมืองที่มีประสบการณ์และเป็นอดีต ส.ส.เก่า ใช้แนวทางการหาเสียงด้วยหัวคะแนนในเขตเลือกตั้งของตนเอง และนำภาพของการหาเสียงออกมาเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียร์ เป็นการสื่อสารและสร้างความนิยมให้กับตัวเองเพิ่มขึ้น


กลุ่มการเมืองในจังหวัดแพร่ ที่ลงพื้นที่อย่างเข้มข้นในขณะนี้ มี พรรคประชาธิปัตย์, พรรคไทยรักษาชาติและพรรคเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งทั้งสองพรรคถือเป็นกลุ่มการเมืองเดิมที่ได้ตำแหน่ง ส.ส.ในพื้นที่หรือแชมป์เก่านั่นเอง ส่วนอีกพรรคที่เป็นน้องใหม่และเปิดตัวคนรุ่นใหม่ลงพื้นที่อย่างเข้มข้นด้วยเช่นกันคือพรรคอนาคตใหม่

นำโดยนายเอกการ ซื่อทรงธรรม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 และนายกฤติดนัย สันแก้ว ว่าที่ผู้สมัครลง ส.ส.เขต 2 ลงพื้นที่อย่างเข้มข้น แม้ว่าทั้งสองคนยังไม่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ จากคณะกรรมการบริหารพรรคก็ตาม โดยทางพรรคอนาคตใหม่ยังไม่มีการรับรองผู้สมัคร ส.ส.เขต ทั่วประเทศ


นายเอกการ ซื่อทรงธรรม บุตรชายของนายพิพัฒน์ ซื่อทรงธรรม ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ยังคงใช้พื้นที่ทางวัฒนธรรมเดินเข้าทำความรู้จักกับประชาชน ล่าสุดในวันที่ 31 ธันวาคม ได้ไปร่วมทำบุญที่วัดแม่ยางโพธิ์ ต.ร้องกวาง อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ลงพบปะแนะนำตัวกับประชาชนที่มาร่วมทำบุญสร้างหอระฆัง โดยมีนายพิพัฒน์ ซื่อทรงธรรม ประธานสภา อบจ.แพร่ บิดา ร่วมประกบไปด้วยเพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นฐานเสียงสำคัญของนายพิพัฒน์นั่นเอง

นายเอกการ กล่าวว่า การตัดสินใจลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. เขต 1เป็นครั้งแรกในชีวิต สังกัดพรรคอนาคตใหม่ครั้งนี้เพราะถูกใจแนวทางของพรรค โดยเฉพาะนโยบาย 3 ป. คือ เปิดโอกาส, ปรับโครงสร้าง และ ปลดล็อค เป็นการปรับโครงสร้างการปกครองการบริหารประเทศใหม่ และปลดล็อคข้อจำกัดที่มีอยู่โดยเฉพาะระบบราชการในหลายๆ ด้าน อีกทั้งสิ่งสำคัญคือการสร้างโอกาสให้กับคนไทยทุกคนได้เข้าถึงสิทธิ์และการทำงาน ในท้องถิ่นโดยเฉพาะจังหวัดแพร่

จะมีคลื่นลูกใหม่หรือคนรุ่นใหม่เข้ามาพัฒนาเมือง รวมไปถึงการพัฒนาเรื่องสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเฉพาะในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศจะมีจำนวนประชากรที่อยู่ในวัยสูงอายุมากขึ้น การจัดสวัสดิการ เบี้ยยังชีพหรือบำนาญคนชราจึงมีความสำคัญมาก นโยบายของพรรคอนาคตใหม่เปลี่ยนจากเดือนละ 600 บาท เป็น 2,000 บาท เยาวชนที่อายุ 0-6 ปี จะมีการช่วยเหลือเดือนละ 2,000 บาท เยาวชนที่อายุ 18-22 ปีมีเงินสนับสนุนให้เดือนละ 2,000 บาท

สิ่งเหล่านี้ถือเป็นนโยบาย รัฐสวัสดิการ ต้องมีกระบวนบริหารจัดการในหลายด้านที่จะทำให้การจัดการแบบรัฐสวัสดิการเดินไปได้ ต้องเร่งในการพัฒนาเศรษฐกิจ ทั้งภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว ที่ทันสมัยสร้างรายได้ให้กับประชาชนเพิ่มขึ้นพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง เร่งฟื้นฟูเกษตรอุตสาหกรรม พัฒนาภูมิปัญญาสู่นวัตกรรม ในจังหวัดแพร่ เน้นชัด คือ เรื่องของ สุรากลั่นพื้นบ้าน

เรื่องของการจัดการป่าอนุรักษ์ ความหลากหลายทางชีวภาพ ไม้สวนป่าไปจนถึงการแปรรูปที่ได้มาตรฐานทันสมัยเพิ่มมูลค่า ซึ่งการจัดการพืชเกษตรที่สำคัญเช่น ข้าว ข้าวโพด ยางพารา ปาล์ม ฯลฯ ให้เกิดประสิทธิภาพในการผลิตแปรรูป ซึ่งปัจจัยการผลิตที่ต้องคำนึงและเร่งแก้ก่อนคือปัญหาที่ดินทำกันประชาชนต้องมีกรรมสิทธิ์และตกอยู่ในมือของเกษตรกรอย่างเป็นธรรมแหล่งน้ำและการเข้าถึงแหล่งทุน

นายเอกการ กล่าวอีกว่า การหาเสียงของผู้สมัครพรรคอนาตตใหม่ เน้นสร้างความเข้าใจและข้อเสนอที่ดีเพื่อให้ประชาชนได้พิจารณา ไม่เกี่ยวกับพรรคอื่นๆ ที่จะโจมตีกันอย่างไร พรรคอนาคตใหม่ขอเปิดมิติใหม่ทางการเมืองในต่างจังหวัดให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ในสังคมประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน