เหยื่อสรรพสามิตเข้าห้องผ่าตัดปลอดภัย นายอำเภอให้กำลังใจขณะคดียังนิ่ง

เหยื่อสรรพสามิตเข้าห้องผ่าตัดปลอดภัย นายอำเภอให้กำลังใจขณะคดียังนิ่ง ขณะสรรพสามิตมั่นใจจับชอบธรรม  ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดแพร่ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกรณีที่เจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่แพร่ ปฏิบัติการจับกุมผู้ผลิตสุรากลั่นในเขต อ.เมือง จ.แพร่ ที่มีพฤติกรรมรุนแรง เกินกว่าเหตุจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายหัก สะโพกหลุด อาการสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริเวณถนนสายพระธาตุช่อแฮ-บ้านนาตอง ตรงหมู่ที่ 6 ต.ช่อแฮ อ.เมือง จ.แพร่ ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในการนำผู้ป่วยเข้าสู่กระบวนการของกฎหมายและเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอย่างถูกวิธี

ล่าสุดวันที่ 24 กุมภาพันธ์ แพทย์จากโรงพยาบาลแพร่ นำนายสมบัติ แผ่นทอง ผู้ประสบภัยจากการจับกุมเกินกว่าเหตุของสรรพสามิต เข้าทำการผ่าตัดกระดูกและออกจากห้องผ่าตัดแล้วในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแพร่ แล้วกว่า 10 วัน แพทย์ยังไม่เริ่มกายภาพบำบัดในการฟื้นฟูการเดินของนายสมบัติรอให้แผลผ่าตัดและการต่อเชื่อมของกระดูกเข้าสู่สภาวะที่ดีขึ้นก่อน

ในด้านการช่วยเหลือครอบครัวของนายสมบัติ และนางสายพิณ แผ่นทอง ที่ต้องประสบชะตากรรมจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สรรพสามิตอย่างรุนแรงในการปราบปรามการลักลอบขนสุราเถื่อนเท่านั้น ทำให้นายติรานนท์ เวียงธรรม ทนายความอาสาให้ความสนใจเข้าช่วยเหลือ โดยทนายได้เข้าพบผู้ป่วยเพื่อให้กำลังใจและสอบถามข้อเท็จจริง ทนายติรานนท์ กล่าวว่า การจับกุมของสรรพสามิตถือว่ารุนแรงและมีข้อระเมิดกฏหมายและสิทธิของประชาชนหลายประการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือพนักงานสอบสวน สภ.ช่อแฮ ต้องวางตัวเป็นผู้ปฏิบัติกฎหมาย การจับกุมเหล้าเถื่อนเป็นกรณีหนึ่ง และการปฏิบัติการที่ระเมิดสิทธิ์ประชาชนและระเมิดกฎหมายก็คดีหนึ่ง ไม่ใช่จะมาช่วยเหลือกัน ล่าสุดทราบว่า พนักงานสอบสวนยังไม่ดำเนินการใดใด หลังจากผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว ซึ่งมีการแจ้งกับผู้เสียหายว่า รอให้แผลหายก่อนจึงจะดำเนินคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดหลังตกเป็นข่าว นายสมศักดิ์ สุขประเสริฐ นายอำเภอเมืองแพร่ ได้เข้าเยี่ยมผู้ป่วยนำกระเช้าไปให้กำลังใจและแจ้งว่าถ้ามีปัญหาติดขัดอะไรให้รายงานมาได้ ทางอำเภอจะให้ความเป็นธรรม ซึ่งล่าสุดวารสารของกรมสรรพสามิตได้ออกมาปรากฏว่า ยังคงยืนยันว่าการจับกุมครั้งนี้เป็นไปด้วยความชอบธรรม และ ทำตามระเบียบทุกประการ สภาพของผู้ต้องหาและผู้บาดเจ็บถือว่ายังเป็นหน้าที่ของสรรพสามิตที่ต้องดำเนินการ