นำเรื่องสู่การพิจารณา ประเด็นบกพร่องในธรรมาภิบาลจนเกิดทุจริต สตง.ตรวจสอบแล้วพร้อมชี้มูลให้ลงโทษผู้กระทำผิดแต่เรื่องทำไมถูกดองกว่า 10 ปี ชี้เร่งบังคับใช้กฎหมายทำความจริงให้ปรากฏไม่เพิกเฉยต่อการทุจริตถือเป็นกรณีศึกษาให้ท้องถิ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดแพร่ วันที่ 16 กรกฎาคม ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบทุจริตในองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น โดยภาคประชาชน พบว่า มีหน่วยราชการโดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวนมากกระทำการทุจริตโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายเพราะถ้าพบความผิดก็สามารถหยุดกระบวนการยุติธรรมได้
ล่าสุดธรรมาภิบาลจังหวัดแพร่ นำโดยว่าที่ ร้อยตรีภาคิน ชมพูพันธ์ รองประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดแพร่วันที่ 15 กรกฏาคม นำคณะ ออกสุ่มตรวจโครงการพัฒนาในจังหวัดแพร่ ด้วยงบประมาณของภาครัฐในหน่วยงาน พัฒนาชุมชนโครงการการจัดการหมู่บ้านท่องเที่ยวที่บ้านนาคูหา ทางหลวงชนบทโครงการการสร้างถนนเข้าศูนย์ราชการแห่งใหม่ อุตสาหกรรมจังหวัดแพร่ โครงการการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าหม้อห้อม และ ดูรถดับเพลิงที่บรรทุกน้ำได้ 4,000 ลิตร ที่จัดซื้อด้วยมติสภาฯ 5,000 ลิตร เป็นการจัดซื้อไม่ตรงตามสเป็ค ของเทศบาลตำบลทุ่งกวาว อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ซึ่ง สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบพบจึงมีข้อเสนอให้ดำเนินการเอาผิดผู้กระทำผิดและเปลี่ยนรถดับเพลิงให้ตรงตามมติสภาท้องถิ่นด้วย แต่เรื่องก็เงียบหายไปกว่า 10 ปี
เวลา 13.00 น.วันเดียวกันได้นำเรื่องร้องเรียนทุจริตรถดับเพลิงเทศบาลตำบลทุ่งกวางเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อพิจารณารับเรื่องร้องเรียนสู่การแก้ปัญหานี้ ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดแพร่ ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ ให้นำเรื่องร้องเรียนทุจริตรถดับเพลิงดังกล่าวเข้าสู่การแก้ปัญหาในแนวทางธรรมาภิบาลต่อไป
ว่าที่ ร้อยตรีภาคิน ชมพูพันธ์ ประธานในที่ประชุมกล่าวว่า เรื่องนี้มีการกระทำทุจริตโดยที่ไม่ต้องตีความเพราะผ่านการตรวจสอบของ สตง.มาแล้ว พูดง่ายๆ คือ จัดซื้อรถดับเพลิงตามมติสภาท้องถิ่นให้จัดซื้อรถบรรทุกน้ำดับเพลิงความจุ 5,000 ลิตร ตั้งราคาตามกรมบัญชีกลาง แต่ได้รถจุน้ำ 4,000 ลิตร ซึ่งกรรมการตรวจรับยังตรวจรับว่าได้รถบรรทุกน้ำ 5,000 ลิตรผ่านการตรวจรับอีกด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้ สตง.ได้มีหนังสือให้นายกท้องถิ่นแห่งนี้ ดำเนินการเอาผิดผู้กระทำผิด ทำการเปลี่ยนรถให้ได้รถที่ถูกต้องตามมติสภาฯ แต่หนังสือ สตง.ที่ส่งมากลับไม่มีคำสั่งของนายกท้องถิ่นเพื่อดำเนินการต่อ ให้เป็นไปตามกฎหมาย หนังสือถูกเก็บหนังสือเงียบ เวลาล่วงเลยมานานกว่า 10 ปี การกระทำเช่นนี้ไม่ใช่หลักธรรมาภิบาลแน่นอน ทางคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดแพร่ มีมติเอกฉันท์ให้ดำเนินการสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชี้แจงและให้เร่งรัดบังคับใช้กฎหมายโดยเร็วต่อไป ซึ่งน่าจะเป็นตัวอย่างเป็นกรณีศึกษาให้กับ อปท.ทั่วประเทศที่กระทำการโดยไม่สนใจกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริตและระเบียบราชการที่ทำให้เกิดการทำงานอย่างโปร่งใสซึ่งข้าราชการในส่วนนี้ไม่นำมาใช้ ขอยืนยันว่า การทุจริตกรณีนี้จะไม่ล่าช้าอีกต่อไป
ธรรมาภิบาลจังหวัดแพร่ มีนางสาวปภัสมน อัมราลิขิต ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเขตตรวจราชการที่ 6 เป็นประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดแพร่ ส่วนว่าที่ ร้อยตรีภาคิน ชมพูพันธ์ อาชีพทนายความในจังหวัดแพร่ เป็นรองประธานฯ มีสมาชิกเป็นราชการในสำนักงานจังหวัดแพร่ 1 นอกนั้นเป็นตัวแทนภาคท้องถิ่น (อบจ. เทศบาล และ อบต. ) จำนวน 3 คน ภาคเอกชนจำนวน 3 คนภาคประชาสังคม 7 คนและที่ปรึกษาอีก 3 คน รวมทั้งคณะมีจำนวน 17 คน เน้นการกำกับดูแลการทำงานของภาคราชการให้เป็นไปตามหลักการธรรมาภิบาลสร้างระบบราชการที่ดี ทำงานให้ได้ประโยชน์ต่อประชาชนและราชการอย่างเหมาะสมเป็นธรรมโปร่งใส ซึ่งพบว่าในระยะหลังๆ การทุจริตใน อปท.มีอัตราเพิ่มมากขึ้น
