แพร่นำร่องประชาสังคมต่อต้านโกงภาครัฐ

ทุจริตเต็มเมือง ประชาสังคมแพร่ร่วมงานป้องปรามทุจริตในวงราชการ เปิดศูนย์ประสานงาน ปปท.ประชาสังคมแห่งแรกของประเทศ
ประเทศไทยถูกจัดอันดับความโปร่งใสอยู่ที่ 99 จากเดิมอยู่ที่อันดับ 96 ของโลก ได้คะแนนความโปร่งใสเพียง 36 คะแนนจาก 100 คะแนน สภาพปัญหาคอร์รัปชั่นไม่ดีขึ้นแม้ว่า รัฐบาลพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา ที่เข้ามาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศว่าจะปราบปรามคอร์รัปชั่นให้หมดไป ในขณะที่ประเทศเวียดนามมีอันดับที่ดีขึ้นแซงไทยมาอยู่อันดับที่ 98 และอันดับ 5 ในระดับอาเซี่ยนส่วนไทยตกไปอยู่อันดับ 6

เมื่อการประเมินการคอร์รัปชั่นในภาครัฐ ระดับโลกชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยยังคงมีพฤติกรรมทุจริตในวงราชการไม่เปลี่ยนแปลงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) จึงมีแนวคิดในการพัฒนากลไกการป้องกันและปราบปรามภายใต้การมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมให้เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยจังหวัดแพร่ถือเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมเป็นจังหวัดนำร่องเป็นจังหวัดแรกที่มีศูนย์ประสานงานเครือข่ายต่อต้านการทุจริตในภาครัฐเป็นแห่งแรก
นายกฤษณ์ กระแสเวส ผอ.ปปท. เขต 5 มีนโยบายจัดให้มีเครือข่ายภาคประชาสังคมในการเฝ้าระวังการทุจริต โดยเปิดอบรมเสริมสร้างความรู้กฎหมาย และวิธีการปัองกันและปราบปรามทุจริตในภาครัฐแก่ประชาชนให้มีความรู้ความเข้าใจและพร้อมเข้ามามีส่วนร่วมเฝ้าระวังการทุจริตในท้องถิ่น โดยเปิดอบรมหลักสูตรเสริมสร้างเครือข่ายภาคประชาสังคมในการป้องกันการทุจริต ซึ่งอบรมมาแล้วเป็นรุ่นที่ 2 และหลักสูตรเครือข่ายประชาสังคมในการเฝ้าระวังการทุจริต เป็นรุ่นแรก ที่จังหวัดแพร่ โดยผู้ผ่านการอบรมเหล่านี้จำนวน 50 คน ได้ก่อตั้งเป็นองค์กรภาคประชาสังคมเฝ้าระวังแบบมีส่วนร่วมทำงานร่วมกับ ปปท.ภาค 5

นายกฤษณ์ กระแสเวส ผอ.ปปท. เขต 5 กล่าวว่า ถือเป็นโอกาสดีที่ประชาชนในจังหวัดแพร่ ให้ความสนใจในการร่วมกับ ปปท. ประชาสังคมที่ผ่านการฝึกอบรมมีความสามารถพร้อมปฏิบัติการในพื้นที่ ในขณะที่ ปปท.ไม่มีหน่วยงานในระดับจังหวัด แต่ถือเป็นความร่วมมือที่ดี สำนักงานยุติธรรมจังหวัดแพร่ ได้เปิดพื้นที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดแพร่ ตั้งอยู่ถนนช่อแฮ อ.เมืองแพร่ (ตรงข้ามโรงพยาบาลแพร่) ให้ใช้อาคารเป็นศูนย์ประสานงานเครือข่ายต่อต้านการทุจริตในภาครัฐจังหวัดแพร่ ขึ้น โดยท่านเจ้าคุณ พระโกศัยเจติยารักษ์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุช่อแฮ วรวิหาร พระอารามหลวง ร่วมประกอบพิธีเปิดป้ายอย่างเป็นทางการเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 18 มิถุนายนท่านมา และ พระโกศัยเจติยารักษ์ยังให้ความร่วมมือเผยแพร่อุดมการณ์ป้องกันปราบปรามการทุจริตภาครัฐไปปลูกฝังในกลุ่มเยาวชนอีกด้วย นายกฤษณ์กล่าวด้วยว่า กระบวนการมีส่วนร่วมภาคประชาสังคมถือเป็นมิติใหม่เป็นความก้าวหน้าในการแก้ปัญหา ซึ่งที่จังหวัดแพร่ มีทั้งอาสาสมัครที่เข้ามาทำงานร่วมกันถึง 50 คน และมีสำนักงานศูนย์ประสานงาน ถือเป็นจังหวัดแรกของประเทศที่มีกลไกนี้เกิดขึ้นขึ้น ถือเป็นความหวังของพลเอกประยุทธ จันทร์อาชา นายกรัฐมนตรีในการแก้ปัญหาการทุจริตอย่างเป็นรูปธรรมโดยตั้งเป้าหมายลดการทุจริตในภาครัฐได้ด้วยมือของประชาชนร่วมตรวจสอบ

นายรัฐพล แสงดอก ประธานเครือข่ายต่อต้านการทุจริตในภาครัฐจังหวัดแพร่ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่นาภาคภูมิใจที่ ปปท.เขต 5 ได้ให้เกียรติกับภาคประชาสังคมในจังหวัดแพร่ สร้างกลไก เสริมความรู้และตั้งศูนย์ประสานงาน ซึ่งการเสริมความรู้นั้น ปปท.ภาค 5 ได้จัดให้อาสาสมัครลงพื้นที่จริงดูการทำงานตรวจสอบการทำงานของหน่วยราชการจริง ทำให้หน่วยราชการตื่นตัว และได้รับความอนุเคราะห์จากยุติธรรมจังหวัดแพร่อำนวยความสะดวกในการใช้อาคารเป็นศูนย์ประสานงาน ซึ่งได้กลายเป็นศูนย์ประสานงานเครือข่ายต่อต้านการทุจรติแห่งแรกในประเทศไทยอีกด้วย