สาธารณสุขแพร่ มั่นใจเหตุผู้ใหญ่บ้านเสียชีวิตไม่กระทบการฉีดวัคซีน

รถแทรกเตอร์คันนี้ เป็นเครื่องมือการเกษตรสุดท้ายที่ นายอุดร เย็นจิตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.ห้วยม้า อ.เมือง จ.แพร่ ใช้ทำงานอาสาปรับที่ดินให้กับชาวบ้านตลอดทั้งวันของวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ได้เพียงวันเดียวเท่านั้น และต่อมานายอุดร เสียชีวิตในคืนวันที่ 18 พฤษภาคมจนกลายเป็นสาเหตุให้ชาวบ้านเชื่อว่า การเสียชีวิตเกิดจากการฉีดวัคซีนในครั้งนี้ ภายในบ้านของนายอุดร มีเพียงชาวบ้านไม่กี่คนและกำนันตำบลห้วยม้า ที่มาเตรียมจัดบ้านเพื่อบำเพ็ญกุศลถ้าศพมาถึงบ้านอย่างเงียบเหงา

คณะแพทย์โรงพยาบาลแพร่ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ ได้นำร่างของผู้ใหญ่อุดร ไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี กทม. เพื่อให้ทราบผลแน่ชัดว่าเกิดจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ ศพของนายอุดรผ่านการผ่าพิสูจน์เรียบร้อยแล้ว ส่งมาถึงจังหวัดแพร่ เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 20 พฤษภาคม โดยทางญาติๆ และนายมนู มหิงสา กำนันตำบลห้วยม้า จะไปรับศพกลับมาบำเพ็ญกุศลใน เวลา 09.00 น.วันที่ 21 พฤษภาคมนี้
ผลของการตรวจพิสูจน์ อย่างไม่เป็นทางการทราบว่าไม่ได้เกิดจากการฉีดวัคซีน แต่จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการของสาธารณสุขจังหวัดแพร่ต่อไป อย่างไรก็ตาม นายมนู มหิงสา กำนัน ตำบลห้วยม้า กล่าวว่า วันที่ 17 พฤษภาคม ตนเดินทางไปฉีดวัคซีนพร้อมกับผู้ใหญ่อุดร ไปรถคันเดียวกันขากลับได้มาส่งถึงบ้าน ตามหลักแพทย์ที่ดูแลการฉีดวัคซีน ระบุให้ผักผ่อนราว 2 วันก่อนจะไปทำงานหนัก แต่เพียงวันเดียวผู้ใหญ่อุดรที่เป็นคนขยัน ได้นำรถแทรกเตอร์ของตนเองออกไปช่วยชาวบ้านปรับดิน ตลอดทั้งวัน พอเข้านอนตกกลางคืนเกิดอาการป่วยฉุกเฉิน ได้นำส่งโรงพยาบาลแต่ก็ช่วยไว้ไม่ทัน ความจริงแล้วผู้ใหญ่อุดรมีโรคประจำตัวคือโรคไทรอยด์ ที่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อยู่แล้วแต่ไม่อยู่ในโรคที่ห้ามฉีดวัคซีน คิดว่าการเสียชีวิตเกิดจากโรคประจำตัวแต่วัคซีนก็มีส่วนที่หลังฉีดผู้ใหญ่ไม่พักผ่อนอย่างเพียงพอจึงเป็นสาเหตุให้เสียชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสการเสียชีวิตของผู้ใหญ่อุดร หลังฉีดวัคซีนได้เพียง 48 ชั่วโมง เป็นสาเหตุให้มีการกล่าวถึงวัคซีนกันอย่างกว้างขวางทั้งจังหวัด มีคนไม่กล้าที่จะมาฉีดวัคซีนแต่พบว่า สถิติของการเข้ารับการฉีดวัคซีนของจังหวัดแพร่ ดำเนินไปได้อย่างน่าพอใจ

เภสัชกรเด่น ปัญญานันท์ รองสาธารณสุขจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นทางโรงพยาบาลและ สาธารณสุขจังหวัดแพร่มิได้นิ่งนอนใจ จึงได้ส่งผู้เสียชีวิตไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี กทม. เพื่อความชัดเจน ซึ่งผลการพิสูจน์ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของผู้เชี่ยวชาญ จะมีการรายงานให้ทราบสาเหตุการเสียชีวิตเมื่อได้ข้อสรุปชัดเจน อย่างไรก็ตามสถิติของการฉีดวัคซีน ยังคงเดินหน้าต่อไป มีผู้ให้ความสนใจฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างน่าพอใจ ทาง สสจ.ตั้งเป้าไว้ 100,000 รายที่จะฉีดในเดือนมิถุนายน ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวใน 7 โรค ขณะนี้มีลงทะเบียนไว้แล้ว 70,000 ราย ซึ่งกระแสการฉีดวัคซีนประชาชนยังให้ความมั่นใจในการใช้วัคซีนและความปลอดภัยของการใช้วัคซีน ส่วนสถานการณ์ของการระบาดขณะนี้ ไม่มีผู้ติดเชื้อติดต่อกัน ณ วันที่ 21 พฤาภาค ในจังหวัดแพร่ ไม่มีผู้ติดเชื้อติดต่อกันเป็นวันที 6 แล้ว สถิติผู้ป่วยสะสมจำนวน 82 ราย ขณะนี้เหลือยังรักษาตัวอยู่อีกเพียง 2 รายเท่านั้น การฉีดวัคซีนจะทำให้สถานการณ์ความปลอดภัยจะกลับมาเร็วขี้นและช่วยกันนับถอยหลังให้จังหวัดแพร่ปลอดผู้ติดเชื้อให้ได้ 30 วัน จะทำให้แพร่เข้าสู่สภาวะปกติ