ชุมชนสบเติ๋มยึดหน้าศาลากลางลำปางจี้ผู้ว่าฯคืนพื้นที่ป่าไล่วัดถ้ำเทพอุดมมงคลออก

ส่อผิดถึงสำนักพุทธฯลำปาง ใช้เอกสารเท็จออกใบอนุญาตตั้งวัดถ้ำเทพอุดมมงคล ที่สบเติ๋น
วันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา กลุ่มประชาสังคม แกนนำชาวบ้านสบเติ๋น ต.สบป้าด อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ถือป้ายเข้าประท้วงการจัดตั้งวัดถ้ำเทพอุดมมงคล ที่เข้าครอบครองพื้นที่ถ้ำ และป่าชุมชนบ้านสบเติ๋น ตั้งเป็นสำนักสงฆ์และกำลังขออนุญาตตั้งเป็นวัดโดยใช้เอกสารประชาคมเท็จเข้ายื่นขอใบอนุญาต ชาวสบเติ๋น จำนวน 100 คน ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง โดยมีนางกมลรัตน์ ทองจิบ ผอ.ฝ่ายกิจการคณะสงฆ์ จังหวัดลำปาง ตัวแทนจากสำนักพุทธศาสนาจังหวัดลำปาง เข้ามารับหนังสือร้องเรียนของชาวสบเติ๋น โดยมีนายสุรพล บุรินทราพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายคมกฤช เจริญพัฒนสมบัติ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำปาง ร่วมรับหนังสือด้วย
ชาวสบเติ๋น ยื่นหนังสือเพื่อให้ผู้รับผิดชอบการอนุญาตตั้งวัดดำเนินการตามกฎหมาย ในสาระของจดหมายร้องเรียนระบุถึงการขออนุญาตไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากมีการทำบันทึกประชาคมเท็จ โดยนำเอารายชื่อประชาชนที่มีการประชุมประจำเดือนมาดัดแปลงเติมข้อความเท็จเป็นวาระขอความเห็นชอบประชาชนในพื้นที่ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับการขออนุญาตตั้งวัด แม้ว่า มีการร้องเรียนต่อเนื่อง พร้อมทั้งมีการแจ้งความไว้ที่ สภ.แม่เมาะ แต่ศูนย์ดำรงค์ธรรมจังหวัดลำปางเพิกเฉยต่อการตรวจสอบ
ข้อเสนอของประชาชนชาวสบเติ๋น เรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และ สำนักพูทธศาสนาจังหวัดลำปาง ตรวจสอบเพื่อเอาผิดทางกฎหมายกลุ่มบุคคลที่ทำเอกสารเท็จในการขอยกสถานะสำนักสงฆ์ถ้ำเทพอุดมมงคลเป็นวัด และให้เพิกถอนสำนักสงฆ์ดังกล่าวออกจากป่าชุมชนและถ้ำแม่เติ๋น ยุติการสร้างวัดที่ทำลายสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างพร้อมทั้งทางราชการร่วมมือกับชุมชนฟื้นฟูป่าไม้ในบริเวณดังกล่าวซึ่งมีความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศน์ของจังหวัดลำปาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขออนุญาตจัดตั้งวัดถ้ำเทพอุดมมงคล มีการดำเนินการผ่านไปหลายระดับจนถึงจุดประกาศจัดตั้งเป็นวัด ซึ่งในกระบวนการทำงานที่ใช้เอกสารเท็จโดยมีผู้ทักท้วงแล้วแต่ส่วนราชการที่รับผิดชอบไม่ฟังทำให้เกิดปัญหาระเมิดกฎหมายดังกล่าวซึ่งหน่วยงานที่ออกใบอนุญาตตั้งวัดเข้าข่ายความผิดประพฤติมิชอบในระบบราชการ ซึ่งการยื่นหนังสือครั้งนี้ทำให้สำนักพุทธศาสนาจังหวัดลำปาง ได้ออกคำสั่งระงับการออกใบอนุญาตไปก่อนและรับข้อเสนอจากประชาชนสบเติ๋นในการสอบสวนข้อเท็จจริง ทำให้ผู้ประท้วงพอใจต่างแยกกันเดินทางกลับเมื่อเวลา 12.00 น.วันเดียวกัน