หลังรัฐบาลประกาศ พระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน ป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด 19 มีผลบังคับใช้วันที่ 26 มีนาคม เป็นต้นไป นางกานต์เปรมปรีย์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ได้สั่งการสนธิกำลังตำรวจพลเรือน โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดแพร่ร่วมตรวจหาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด19 พร้อมบันทึกการเดินทางของรถยนต์ข้ามจังหวัดเป็นการเก็บสถิติของการเคลื่อนตัวของประชาชนที่ยังมีความจำเป็นต้องเดินทาง เป็นวิธีการสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคระดับหนึ่งที่ยังไม่ถึงมาตรการเข้มงวด. โดยจังหวัดแพร่ตั้งจุดสกัดไวรัสโควิด ที่บ้านร่องเข็ม อ.ร้องกวาง ผ่านไปจังหวัดน่าน และพะเยา จุดที่ 2 ที่บ้านแม่แขม ต.บ่อเหล็กลอง อ.ลอง จ.แพร่ เส้นทางผ่านไปจ.ลำปาง. และจุดตรวจที่ประตูสู่ล้านนา ข้างวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีแพร่. ต.แม่จั๊วะ อ.เด่นชัย จ.แพร่เส้นทางเข้าจ.อุตรดิตถ์
ซึ่งจนถึงเวลา 14.00 น. ยังไม่มีผู้ต้องสงสัยหรืออาการมีไข้ความร้อนสูงผิดปกติแต่อย่างใด
เพื่อความปลอดภัยร่วมกัน ชมรมผู้ประการร้านอาหารและแผงลอย เขตเทศบาลเมืองแพร่ สนองนโยบายรัฐบาล “สั่งเข้ม” ให้สมาชิก ทำตามประกาศของจังหวัดแพร่ เพื่อหยุดยั้ง โควิด-19
นายเฉลิมพันธ์ เหล่าสุขสมบรูณ์ ประธานชมรมผู้ประการร้านอาหารและแผงลอย เขตเทศบาลเมืองแพร่ ได้แจ้งสมาชิกในทางไลน์กลุ่มให้ปฏิบัติตามประกาศของจังหวัดแพร่ คือ 1.ให้ผู้ประกอบการจัดให้มีเจลล้างมือ วัดอุณภูมิผู้มารับบริการ ผู้มารับบริการต้องใส่หน้ากาดอนามัยทุกคน 2.ต้องจัดทำเป็นประกาศที่ชัดเจน..ติดไว้หน้าสถานประกอบการ 3.ร้านอาหารจัดบริการซื้อไปกินที่บ้าน..หรือหากบริการที่นั่งรับประทานต้องจัดโต๊ะที่นั่งห่างกันไม่น้อยกว่า 1 เมตร
ทั้งนี้ให้ทุกร้านปฏิบัติตามประกาศของจังหวัดแพร่ด้วย จะมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจทุกวัน อย่างไรก็ตามการเข้มงวดร้านค้าผู้ประกอบการในเมืองและจุดสกัดตามเส้นทางสายต่างๆ ยังปฏิบัติการอย่างเข้มข้น และเชื่อว่าสถานการณ์ดังกล่าวยังคงเฝ้าระวังไปอีกหลายวันกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย. ในขณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการอยู่ .มีการบริจาคสิ่งของจำเป็น เงิน เพื่อการหนุนเสริมการทำงานที่ยังไม่มีกำหนดหยุดลงง่ายๆ
