X

คนพื้นเมือง อมก๋อย –ฮอด โวยรัฐปกปิดข้อมูลสร้างอุโมงค์ยักษ์สาละวิน-เจ้าพระยา


ชาวบ้านแฉไม่มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น สำรวจผลกระทบสิ่งแวดล้อม แถมหวั่นเผชิญชะตากรรมจากผลกระทบรุนแรง วอนรัฐเปิดข้อมูล สร้างการรับรู้ร่วมกันในแนวสร้างอุโมงค์ยักษ์ยาวเกือบ 64 กม. ใช้งบประมาณ 70,700 ล้านบาท


เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำยวม เงา เมย สาละวิน นำเยาวชนในพื้นที่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการสื่อสารอย่างไม่เป็นธรรม เข้าร่วมอบรมการทำสื่อสร้างสรรค์ปลอดภัยและนำสื่อมวลชนกระแสหลักร่วมพัฒนาประเด็นในกรณีข้อมูลข่าวสารที่มีปัญหาการสื่อสารสาธารณะจนส่งผลให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบ โดยได้เข้าไปยังพื้นที่โครงการคือชุมชนที่อยู่ปลายอุโมงค์คือ ชุมชนบ้านแม่งูด ต.นาคอเรือ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ จุดกลางอุโมงค์ที่บ้านกะเบอะดิน ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดทิ้งดินในพื้นที่ทำกิน และ จุดกักน้ำผันน้ำแม่ยวม คือจุดสร้างเขื่อนน้ำยวม จุดสูบน้ำในอ่างเก็บน้ำยวม อยู่ที่บริเวณสบเงา บริเวณอุทยานแห่งชาติแม่เงา จ.แม่ฮ่องสอน


การเข้าพื้นที่ทั้ง 3 จุดพบว่า โครงการผันน้ำจากแม่น้ำยวม ลุ่มน้ำสาละวิน ไปยัง บ้านแม่งูด ปล่อยน้ำลงอ่างเก็บน้ำในเขื่อนภูมิพล เพื่อส่งน้ำเข้าลุ่มน้ำเจ้าพระยา อุโมงค์มีความยาว 63.47 กม.ผ่านชุมชนต่างๆ ใน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน อ.ฮอดและอ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ผ่านหมู่บ้านทั้งหมด 36 หมู่บ้าน พบว่าประชาชนที่อยู่ในแนวก่อสร้างส่วนใหญ่เป็นชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ไม่ได้รับสิทธิ์ตามกฎหมาย


นายศักดิ์ชัย เยมู อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 6 ต.นาคอเรือ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่กล่าวว่า ชุมชนบ้านแม่งูด เคยได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนภูมิพลมาก่อนแล้วทำให้มีที่ทำกินน้อย จากเอกสารโครงการทราบว่า บริเวณหมู่บ้านเป็นที่กองวัสดุหรือทิ้งดินที่ขุดออกมาจากอุโมงค์ ที่ดินทำกินของชาวบ้านก็คงหมดไป ส่วนชาวบ้านกะเบอะดิน ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ต่างพากันมาให้ข้อมูลว่าพื้นที่หมู่บ้านกะเบอะดิน จะกลายเป็นที่ทิ้งดินที่ขุดออกจากอุโมงค์จุดที่ 4 ชาวบ้านไม่มีส่วนได้แสดงความคิดเห็นหรือตัดสินใจแต่อย่างใด
นายพงษ์ศักดิ์ ต้นน้ำเพชร อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97 หมู่ 1 บ้านบางกลอย ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่า หมู่บ้านของตนก็ถูกคุกคามจากกฎหมายและอำนาจของรัฐจนส่งผลให้ “บิลลี่ นักเคลื่อนไหวในชุมชนถูกฆาตรกรรม มาจากการปกปิดข้อมูลและรัฐไม่ต้องการสร้างความเข้าใจให้กับชุมชนชายขอบ กรณีที่มาเห็นโครงการนี้ใน จ.แม่ฮ่องสอน และ จ.เชียงใหม่ ก็พบว่าไม่แตกต่างกัน การสื่อสารระหว่างรัฐกับประชาชน ยังเป็นสิ่งที่คลุมเครือและรวบรัดไม่เป็นไปตามกฎหมาย การมาอบรมครั้งนี้ได้เรียนรู้ถึงการพัฒนาโครงการของรัฐต้องการปกปิดข้อมูลมากกว่าการเปิดเวทีพัฒนาร่วมกัน ไม่เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ดังนั้นการสื่อสารของชุมชนต่อสาธารณะจึงมีความจำเป็นมากในการพัฒนางานสื่อให้เกิดความปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการดังกล่าว คือโครงการผันน้ำโขง และสาละวินสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีโครงการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520 แล้ว ล่าสุดข้อมูลช่วงเวลาต้นเดือนมีนาคม 2563 มีระบุแนวส่งน้ำ 2 แนวคือ แนวทางผันน้ำจากแม่น้ำยวม –แม่น้ำเงา และแนวทางผันน้ำจากแม่น้ำเมย บริเวณแนวพรมแดนไทย –พม่า คณะกรรมการนโยบายน้ำแห่งชาติ (กนช.) ได้จัดสรรงบประมาณเร่งด่วนเมื่อปี พ.ศ. 2559 มีการศึกษาน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพลศึกษาแนวทางส่งน้ำที่เหมาะสม พร้อมศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2562 สรุปผลการศึกษาของกรมชลประทานว่าแนวส่งน้ำยวม –อ่างเก็บน้ำภูมิพล มีความเหมาะสมในการพัฒนาเป็นลำดับแรก ในโครงการนี้ มีโครงการก่อสร้าง เขื่อนน้ำยวม สถานีสูบน้ำบ้านสบเงา ระบบอุโมงค์และถังพักน้ำ จุดทิ้งดินหรือจุดกองวัสดุจำนวน 6 จุด ในแนวพัฒนาโครงการเหล่านี้ประชาชนส่วนใหญ่ยังยืนยันว่า ยังไม่มีการรับฟังความคิดเห็นหรือการให้ข้อมูลต่อประชาชนพื้นที่ผลกระทบได้รับทราบ เพียงมีการเชิญผู้นำไปชี้แจงและทำความเข้าใจเท่านั้น

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน