ผู้ว่าหญิงเมืองแพร่ เจรจาเครือข่ายรักประชาธิปไตยจังหวัดแพร่ “วิ่งไล่ลุง”อยู่ในกรอบของกฎหมาย
ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ใช้ผลการทำงานหนักอุทิศตัวให้ชาวแพร่เต็มที่จนเป็นที่ประจักษ์ขอร้องเครือข่ายรักประชาธิปไตย จ.แพร่ ชุมนุมทางการเมืองอยู่ในขอบเขต ไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่ราชการขอให้งดกิจกรรมวิ่ง จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในที่ที่เหมาะสมในพื้นที่ที่ดูแลได้เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กิจกรรมทางการเมืองวิ่งไล่ลุง ซึ่งจะจัดขึ้นทั่วประเทศในวันที่ 12 มกราคม ในจังหวัดแพร่มีประชาชนที่สนใจการเมืองและจากสมาชิกพรรคการเมืองฝ่ายค้านคือ พรรคอนาคตใหม่และพรรคสามัญชน รวมตัวตั้งชื่อกลุ่มเครือข่ายรักประชาธิปไตยจังหวัดแพร่ เตรียมออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยเมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา ได้ทำเป็นเอกสารเข้าแจ้งเพื่อทราบต่อหน่วยงานรักษาความปลอดภัยโดยแกนนำ ว่าที่ร.ต.ประเสริฐ หงวนสุวรรณ ประธานเครือข่ายผู้รักประชาธิปไตยจังหวัดแพร่ พร้อมด้วยแกนนำเครือข่ายจำนวน 8 คนเข้าพบ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ สว่างประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองแพร่ ที่ สภ.เมืองแพร่ กลุ่มผู้นำชุมนุมทางการเมืองแจ้งว่าจะขอจัดกิจกรรมทางการเมือง “วิ่งไล่ลุง” โดยมีพลังมวลชนประมาณ 500 คนร่วมวิ่งตั้งแต่ตลาดแพร่ปรีดา มารวมตัวกันที่สนามหลวงเมืองเก่าจังหวัดแพร่ จากนั้นจะมีข้อเสนอแนะให้กับรัฐบาลพลเอกประยุทธ จันทร์โอชาในการบริหารประเทศที่เครือข่ายผู้รักประชาธิปไตยจังหวัดแพร่มองว่ามีความผิดพลาดเพื่อนำไปแก้ไขต่อไป ซึ่งผกก.สภ.เมืองแพร่ ขอตรวจสอบหลักฐานที่ยื่นเอกสารมาก่อนจะให้คำตอบในช่วง 16.00น. นอกจากนั้นกลุ่มจัดงานได้ขอพบนางกานต์เปรมปรีย์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ที่ศาลากลางจังหวัดแพร่
เวลา 16.30 น. วันที่ 6 มกราคม แกนนำเครือข่ายผู้รักประชาธิปไตยจังหวัดแพร่จำนวน 9 คนเข้าพบนางกานต์เปรมรีย์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ หารือจัดกิจกรรมทางการเมือง “วิ่งไล่ลุง” ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดแพร่ กลุ่มผู้ชุมนุมต้องการเริ่มต้นที่ตลาดแพร่ปรีดา ถนนช่อแฮเข้าสู่ถนนเจริญเมือง มาสิ้นสุดที่สวนสุขภาพเฉลิมพระเกียรติ ร.9 หรือสนามหลวงจังหวัดแพร่ ได้หารือกับฝ่ายตำรวจภูธรเมืองแพร่
ผกก.สภ.เมืองแพร่ ขอให้กิจกรรมไม่ลงไปยังถนน จัดในสวนสุขภาพเฉลิมพระเกียรติ หรือสนามหลวง ของจังหวัดแพร่อยู่ภายใต้การควบคุมของทีมทำงานกิจกรรม โดยตำรวจจะส่งกำลังเข้าอำนวยความสะดวกในกิจกรรมให้. แต่ในความเห็นของที่ประชุมล่าสุด โดยมีนางกานต์เปรมปรีย์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่เป็นประธาน. ที่ประชุมมีความเห็นว่าสถานที่ราชการไม่ควรเข้าไปใช้สถานที่ราชการและไม่สามารถอนุญาตให้ได้ ซึ่งที่ประชุมประกอบด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ /กอ.รมน. /ผกก.สภ.เมืองแพร่ /นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ใช้วิธีการเจรจาขอร้องเพื่อให้เกิดความสงบเกรงว่าจะมีฝ่ายใดมาแทรกแซงทำให้เกิดปัญหาได้ โดยเครือข่ายรักประชาธิปไตย จ.แพร่ พยายามที่จะขอจัดในพื้นที่ราชการโดยจะขอย้ายการจัดงานมาอยู่ที่ ถนนไชยบูลย์ หน้าศาลากลางจังหวัดแพร่. ซึ่งที่ประชุมไม่เห็นด้วย ทำให้เครือข่ายฯขอประชุมนอกรอบ 5 นาที. ในที่สุดกลุ่มเครือข่ายผู้รักประชาธิปไตยจังหวัดแพร่ ยอมทำตามที่ประชุม จะเข้าไปใช้พื้นที่เอกชนแทนเพราะเห็นแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่มีขอร้องอย่างจริงใจ ซึ่งในจังหวัดอื่นๆ ใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยเป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางการเมือง ในจังหวัดแพร่ทางเครือข่ายฯกำลังประสานโรงเรียนเจริญราษฎร์ ในตัวเมืองแพร่เป็นสถานที่ชุมนุมเชิงสัญลักษณ์แทน
นางกานต์เปรมปรีย์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้กล่าว กับเครือข่ายผู้รักประชาธิปไตยจังหวัดแพร่ว่า เห็นใจทีมงานที่ตั้งใจและหวังดีต่อสังคม จังหวัดแพร่กำลังได้รับการพัฒนาทั้งงบประมาณที่ลงมาจังหวัดแพร่ และการเปิดจังหวัดแพร่ให้นักท่องเที่ยวได้มาเยือน ซึ่งมีของดีมากมายทั้งศิลปะ วัฒนธรรม หัตถกรรมพื้นบ้าน ผู้คนท้องถิ่น สถานที่ทางธรรมชาติ ป่าไม้ที่สวยงามและเป็นเมืองที่กำลังพัฒนาเป็นเมืองปลอดภัยทางอาหารรองรับผู้สูงอายุ การจัดชุมนุมทางการเมืองเป็นสิ่งที่ดีแต่อาจมีฝ่ายไม่หวังดีเข้ามาแทรกแซง จึงได้ขอร้องให้จัดกิจรรมในที่ที่เหมาะสมดูแลได้ ซึ่งทางคณะผู้จัดได้ขอให้ทางจังหวัดเข้าคุ้มครองดูแลความปลอดภัย และปัญหาการคุกคามแกนนำจากเจ้าหน้าที่หรือจากใครก็ตาม ซึ่งทางจังหวัดแพร่รับข้อเสนอที่จะดูแลความปลอดภัยให้กับแกนนำคณะทำงาน หากมีการสอบถามข้อมูลจะประสานโดยตรงกับผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่หรือถ้าถูกคุกคามใดใดให้โทรศัพท์ตรงถึงผู้ว่าราชการจังหวัดได้ตลอดเวลา เพียงขอให้กลุ่มผู้ทำกิจกรรมไม่ระเมิดสิทธิ์ของผู้อื่นและสามารถชุมนุมได้ในขอบเขตกฏหมาย
นายอำนวย พลหล้า. เครือข่ายรักประชาธิปไตย จ.แพร่ กล่าวโดยสรุปว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่ราชการแต่เครือข่ายจะหาที่ชุมนุมที่เหมาะสมต่อไป. และยืนยันการจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงแน่นอน โดยไม่ไประเมิดสิทธิผู้อื่นตามกระบวนการประชาธิปไตยอันพึงมี ในวันที่12 มกราคมแน่นอน
