เวลา 09.00 น.วันที่ 9 มิถุนายน ชุดตำรวจปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ ปปป. นำโดย พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการตำรวจ ปปป. นำหมายศาลเข้าตรวจค้นและจับกุมเจ้าหน้าที่นายช่างที่ดินสระบุรีวัยอายุ 63 ปีที่มีส่วนพัวพันออกโฉนดที่ดินให้บริษัทปูนรายใหญ่
หลังการตรวจค้นบ้านอยู่ราว 1 ชั่วโมงได้หลักฐานบางส่วน จึงควบคุมตัวอดีตข้าราชการที่ดินสระบุรี ไปสอบสวนต่อในฐานะผู้ต้องหาที่ สภ.สูงเม่น จ.แพร่ หลังพบหลักฐานเกี่ยวกับโฉนดที่ดินบางส่วนพร้อมทั้งคำให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
ในช่วงเกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2547 – 2549 ขณะนั้นเป็น ผอ.ศูนย์เดินสำรวจออกโฉนดที่จังหวัดสระบุรี และ ลพบุรี บริษัทปูนซิเมนต์แห่งหนึ่งได้มาขอออกโฉนดที่ดิน โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทรังวัดที่ดินมาให้เสร็จนำระวางมาให้ออกโฉนดโดยมีค่าตอบแทนให้ ก็ได้ทำไปแต่ทราบภายหลังว่า ที่ดินเหล่านั้นไม่สามารถออกโฉนดได้ ทั้งความลาดชั้นและเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เมื่อใบโฉนดเอกสารสิทธิ์ที่ออกให้ถึงมือบริษัทแล้วเอาคืนไม่ได้ จึงได้หาทางออกโดยการทำลายต้นขั้วโฉนดเหล่านั้นทำให้โฉนดที่นำไปใช้ไม่มีผลทางกฎหมาย หรือเป็นโฉนดปลอมนั่นเอง
ตำรวจ ปปป. ระบุว่า เจ้าพนักงานที่ดินดังกล่าวเข้าข่ายความผิดในการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุน ประการแรกคือ มาตรา 157 ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ กระทำผิดมาตรา 161 มาตรา 265 ผู้ใดปลอมเอกสารสิทธิ์หรือเอกสารราชการมีความผิด และ มาตรา 266 ผู้ใดปลอมเอกสารดังต่อไปนี้ เอกสารสิทธิ์อันเป็นเอกสารราชการ พินัยกรรม ใบหุ้น ตั๋วเงิน บัตรฝากเงิน มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี
พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการตำรวจ ปปป. กล่าวว่า ปปป.ได้ทำการสืบสวนมานานถึง 2 ปี จากสำนวนการสอบสวนของป่าไม้เดิมได้มีการพิจารณาสำนวนไปแล้ว พบว่ามีการออกโฉนดให้กับนิติบุคคล เป็นเครื่องมืออ้างที่ดินเป็นที่ดินมีเอกสารสิทธิ์แล้วเอาไปอ้างทำประโยชน์ ทั้ง ๆ ที่พื้นที่เหล่านั้นเป็นพื้นที่ป่า เป็นทรัพยากรที่สำคัญของประเทศถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ยืนยันได้ว่า โฉนดที่ดินเหล่านั้น เป็นเอกสารปลอม จึงต้องมาดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดและผู้ที่เอาไปใช้ การตรวจค้นบ้านวันนี้พบสำเนาเอกสารที่เป็นเอกสารที่ดินและเอกสารบางอย่างที่สมัยผู้ต้องหายังทำงานอยู่ที่ จังหวัดสระบุรี ส่วนมากเป็นโฉนดที่เกี่ยวข้อง กรณีเกิดเหตุ ผู้กระทำผิดนำเอาแผ่นพิมพ์ออกโฉนดที่ดินที่ยังไม่ดำเนินการจนสำเร็จไปใช้ในการอ้างสิทธิ์ในการประกอบกิจการของตนทำให้รัฐเสียหายเพราะเอาไปอ้างในพื้นที่ที่เป็นป่าจึงต้องเข้ามาทำเนินคดีผู้ที่กระทำผิดต่อจากคดีเดิมที่ผ่านมาหลายปีแล้ว
