ยะลา – นายกรัฐมนตรี เยือนแหล่งท่องเที่ยว เยี่ยมชมและชิมปลานิลสายน้ำไหลเบตง หนุนเพิ่มปริมาณเลี้ยง ติดตามการดำเนินงานด่านศุลกากรเบตง สั่งเร่งแก้ไขปัญหาช่องทางเดินรถ รองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว 
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ ยังคงตรวจราชการเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อยู่ที่ จ.ยะลา
โดยเมื่อช่วงเย็น ได้ติดตามผลการดำเนินงานของ ด่านศุลกากรเบตง ซึ่งนายธรรมธร เกตุแก้ว ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร รักษาราชการแทนนายด่านศุลกากรเบตง รายงานว่า ชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาจำนวนมาก ในช่วงเดือนมกราคม 2567 โดยเฉพาะช่วงเทศกาลและช่วงวันหยุด ทำให้เกิดปัญหาช่องทางจราจรฝั่งขาเข้าด่านศุลกากรฯ มีขนาดเล็กและแคบ ไม่สามารถให้รถยนต์บรรทุกสินค้าและรถยนต์โดยสารขนาดใหญ่ขับผ่านเข้ามาได้ รวมทั้งที่จอดรถและพื้นที่ให้บริการไม่เพียงพอต่อนักท่องเที่ยว
พร้อมเสนอแนวทางการพัฒนา ทั้งการขยายพื้นที่เพื่อจัดทำช่องจราจรเพิ่ม จัดสร้างลานจอดรถยนต์และห้องน้ำ เพื่อบริการนักท่องเที่ยวและผู้มาติดต่อราชการ
ด้านนายกฯ ระบุว่า รัฐบาลตั้งใจจะพัฒนาด่านศุลกากรเบตง ให้เป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงในภูมิภาค ทั้งการค้าชายแดน การลงทุน และการท่องเที่ยว สำหรับโครงการที่เสนอมา ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดลำดับความสำคัญและความเหมาะสมในการดำเนินโครงการ รวมถึงกำหนดแผนงานและงบประมาณที่ชัดเจน เพื่อจะได้ผลักดันการพัฒนาต่อไป ทั้งนี้ ขอให้ร่วมกันเร่งพิจารณาแผนระยะสั้น เพื่อแก้ไขปัญหาความแออัดและล่าช้า ในการพิธีการตรวจคนเข้าเมือง รวมทั้งพิธีการศุลกากรการขนส่งสินค้าข้ามแดน การยกเลิกใบ ตม.6 และผลักดันให้เกิด ‘ศูนย์ให้บริการเบ็ดเสร็จ : OSS’ ทำให้การบริการรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ความสงบจะช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจเบตงดีขึ้น ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เป็นตัวขัดขวางความเจริญ รวมถึงความไม่สะดวกต่าง ๆ
นายกรัฐมนตรี ยังมอบนโยบายให้เร่งขยายพื้นที่ บริเวณด่านเข้า-ออกศุลกากรให้มีช่องจราจรและลานจอดรถกว้างขึ้น ตลอดจนเร่งดำเนินการขยายถนนเส้น 410 ระยะทางราว 110 กิโลเมตร ที่วิ่งตรงจากตัวเมืองยะลา ไปยังเบตง ให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี
ย้ำ นำโอกาส-ศักยภาพท้องถิ่น ต่อยอดให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
ก่อนหน้านี้ นายเศรษฐา ทวีสิน เยี่ยมชมและรับฟังการบรรยาย วิธีการเลี้ยงปลานิลสายน้ำไหลเบตง และปลาพลวงชมพูฮาลาบาลา สู่ GI ไทย ณ ร้านอาหารบ่อปลานิลสายน้ำไหล (โกหงิ่ว) ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง
ซึ่งการเลี้ยงปลานิลสายน้ำไหล เป็นรูปแบบการเลี้ยงในระบบน้ำไหลผ่าน โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการผันน้ำจากลำธารเข้าสู่ฟาร์ม ทำให้ได้ปลานิลที่มีคุณภาพสูง สามารถสร้างรายได้แก่เกษตรกร โดยขนาด 1 กก.ขึ้นไป ขายได้ในราคา 90-100 บาทต่อ กก.
นายกฯ กล่าวว่า อยากให้มีการเพิ่มการเลี้ยงให้มากขึ้น เพราะมีความต้องการและตลาดที่ชัดเจน ถ้ามีผู้ที่สนใจแต่ยังขาดเงินทุน ขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ช่วยสนับสนุน
จากนั้น นายกฯ และคณะ เดินทางเยี่ยมชม สวนดอกไม้เมืองหนาวเบตง (สวนหมื่นบุปผา) สถานที่ท่องเที่ยวของ จ.ยะลาซึ่งสามารถชมดอกไม้ได้มากกว่า 30,000 ต้น มากกว่า 100 สายพันธุ์ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ชุมชนสินค้าท้องถิ่น เทียนไขหอม DIY ที่นำดอกไม้อบแห้งในพื้นที่มาให้เลือกสรร เห็ดหลินจือเบตง และสปาเท้าอุโมงค์ปิยะมิตร
นายกฯ เปิดเผยว่า การเดินทางมาครั้งนี้ ได้ค้นพบสิ่งที่มีค่า โอกาส และศักยภาพ ที่สามารถนำไปต่อยอดได้ รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยว ผลิตภัณฑ์ วัฒนธรรมท้องถิ่น เน้นการสร้างโอกาส และความเสมอภาค เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ จากการยกเลิกใบ ตม.6 ทำให้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย เข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยช่วงสุดสัปดาห์ จาก 10,000 คน เพิ่มเป็น 30,000 กว่าคน ส่งผลทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยที่เกิดจากการท่องเที่ยว จึงเกิดความคิด นำสิ่งดี ๆ ที่ซ่อนอยู่ มาให้ชาวโลกได้รับรู้ ส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว สินค้า ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เข้ามา จะทำให้คนพื้นเมืองมีรายได้มากขึ้น จะได้ลืมเรื่องการทะเลาะเบาะแว้ง
