กรุงเทพฯ – คณะกรรมการการเลือกตั้ง ยื่นศาลฎีกา เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง พร้อมให้ดำเนินคดีอาญา นางสาวเกศกานดา อินช่วย อดีตผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ฐานแจกเงินซื้อเสียง
วันที่ 17 มกราคม 2567 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต. เรื่อง ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้งที่ 16 กรณีที่ กกต.ได้รับคำร้องว่า นางสาวเกศกานดา อินช่วย ผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.กรุงเทพมหนคร เขต 16 พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ถูกร้องที่ 1 พร้อมด้วย นายสถาพร ไกรถวิล ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้ถูกร้องที่ 2 และนายฐนวัฒน์ ภูมี ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้ถูกร้องที่ 3 ได้กระทำอันเป็นการฝ่าฝืน พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 73 (1)
คือ ผู้ถูกร้องที่ 1 ก่อ สนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจให้ผู้ถูกร้องที่ 2 และผู้ถูกร้องที่ 3 จัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเอง
ซึ่ง กกต.มีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง พร้อมดำเนินคดีอาญา นางสาวเกศกานดา อินช่วย เพิ่มเติมอีกหนึ่งคดี
โดยเป็นกรณีที่ กกต.ได้ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนว่า ก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส. วันที่ 2 พ.ค.2566 เวลากลางวัน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งแจ้งให้ผู้ร้องทราบว่า นายสถาพร ไกรถวิล ผู้ถูกร้องที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ช่วยหาเสียงของ นางสาวเกศกานดา ผู้ถูกร้องที่ 1 โทรศัพท์ติดต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวนัดหมายให้ นางสาวเกศกานดา มาพบที่บ้านพักของผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าว ในช่วงเวลาค่ำของวันเดียวกัน เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งมีลักษณะเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับการแจกเงินซื้อเสียงว่า จะต้องจดรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือไม่
ต่อมา เวลาประมาณ 18.10 น.วันเดียวกัน นายสถาพรไปที่บ้านของผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าว ขอให้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งให้แก่ นางสาวเกศกานดา เนื่องจากเป็นประธานหมู่บ้านวงศกร 5 และเป็นตัวแทนหรือหัวคะแนนของผู้สมัครรับเลือกตั้งคนอื่นในพื้นที่
เวลาประมาณ 18.30 น. นางสาวเกศกานดา นายฐนวัฒน์ ภูมี ผู้ถูกร้องที่ 3 และพยานผู้ถูกร้อง เดินทางไปถึงบ้านผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าว พูดทำนองว่า ให้ช่วยแบ่งคะแนนในหมู่บ้านวงศกร 5 ให้แก่ผู้ถูกร้องที่ 1
จากนั้น ผู้ถูกร้องที่ 1 (นางสาวเกศกานดา) ให้เงินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าว จำนวน 50,000 บาท โดยวางไว้บนโต๊ะที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวนั่งอยู่ และใช้โทรศัพท์มือถือของผู้มีสิทธิคนดังกล่าววางทับไว้ พร้อมทั้งพูดว่า “อันนี้เกศฝาก ฝากวางไว้ก่อน ก็นั่นละค่ะ เกศไม่สร้างความลำบากใจ แต่ถ้าทอนตรงไหนมาได้ก็ทอนมาให้เกศหน่อย ด้วยของตัวพรรคบอนเองอะ คนในพื้นที่เขาก็ไม่ได้ชอบเยอะ เกศก็เลยหนีไปอยู่ประชาธิปัตย์ไง ยังไงให้เกศมีคะแนนบ้างล่ะ”
ผู้ร้องมีบันทึกเสียงและวิดีโอคลิปบันทึกการสนทนาดังกล่าว ซึ่งได้มาจากกล้องวงจรปิด ซึ่งติดตั้งอยู่ในห้องที่มีการให้เงินและเงินของกลางจำนวน 50,000 บาท
จากการตรวจสอบภาพถ่ายการสนทนาทางแอปพลิเคชันไลน์ ระหว่างผู้ร้องกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าว เมื่อวันที่ 6,7,12 พ.ค.66 ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าว ประสงค์จะขอคืนเงินบางส่วนให้ผู้ถูกร้องที่ 2 เนื่องจากเพิ่งแจกเงินไปหนึ่งหมื่นกว่าบาท และมีข้อความตอนหนึ่งที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวพูดว่า “เอาแบบเปล่าเลยเหรอ” ผู้ถูกร้องที่ 2 ตอบว่า “เอาแบบนั้นแหละ ไม่มีทางเลือกแล้ว ไม่ต้องจด ทำอะไรก็ทำไปเลย ผมบอกน้องมันแล้ว บอกให้ไปเหอะ พวก ๆ กันทั้งนั้น ก็เดี๋ยวช่วยสัก 40 เสียง 30 เสียง ก็ไม่ยากอะไร เพราะว่าเราก็อยากได้ตังค์เอาไว้ใช้ ไม่เสียหายอะไรหรอก”
และในเหตุการณ์ดังกล่าว ปรากฏบทสนทนาช่วงหนึ่งที่ผู้ถูกร้องที่ 1 พูดกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวว่า “เกศก็พอรู้ว่าพี่สถาพรโทรมาคุยกับพี่เรื่อยๆ วันนี้เลยอยากมาหาพี่ เกศอยากจะขอโอกาส เพราะว่าแนวโน้มที่โพลออกมา เกศก็มีโอกาสอยู่บ้าง แต่ของคุณบอนคะแนนมันไม่ขึ้นเลย ไม่ติด 1 ใน 2 หรือ 1 ใน 4 เลยด้วยซ้ำ เกศเลยว่าในเมื่อเกศเป็นคนแพ้ เกศหาคะแนนเพิ่มอยู่แล้ว เกศอยากจะขอคะแนนที่ไปให้คุณบอนขอถ่ายมาเป็นฝั่งเกศ เพราะว่าเกศมีโอกาสมากกว่า ไม่อย่างนั้นก็เสียของ เกศไม่อยากให้คะแนนมันหายไปเลย เกศแพ้มาก่อน เกศหาคะแนนเพิ่มอย่างเดียว เอาทุกวิถีทาง อย่างที่พี่บอกเอาทุกวิถีทาง”
กกต.จึงมีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของ นางสาวเกศกานดา อินช่วย ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 73 (1) ประกอบมาตรา 138 วรรคหนึ่ง และให้ดำเนินคดีอาญาแก่ นางสาวเกศกานดา อินช่วย, นายสถาพร ไกรถวิล และนายฐนวัฒน์ ภูมี ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 73 (1) ประกอบมาตรา 158 วรรคหนึ่ง
รวมทั้งให้กันผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวไว้เป็นพยาน โดยไม่ดำเนินคดี
