X

กทม. รฟท. กฟผ. ลุยปลูกต้นไม้ 750 ต้น เพิ่มพื้นที่สีเขียว ลดฝุ่น ป้องกันทิ้งขยะ

กรุงเทพฯ – กทม. ร่วมกับ รฟท. และ กฟผ. ร่วมปลูกต้น ระยะทาง 200 เมตร ที่ว่างริมถนนเลียบทางรถไฟสายใต้ ย่านบางพลัด หวังต่อยอดให้เป็นสวนสาธารณะยาว 1 กม. ช่วยลดฝุ่น และป้องกันการลักลอบทิ้งขยะ

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดกิจกรรม โครงการบูรณาการการปลูกต้นไม้ล้านต้นของ กทม. และโครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วมของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภายใต้ความร่วมมือจาก การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งสำนักงานเขตบางพลัดจัดขึ้น เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและสร้างกำแพงธรรมชาติกรองฝุ่น ตลอดจนต่อยอดการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อแก้ไขปัญหาการลอบทิ้งขยะ ณ บริเวณที่ว่างริมถนนเลียบทางรถไฟสายใต้ขาออก ช่วงเลยด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษบางพลัด ท้ายซอยจรัญสนิทวงศ์ 75 (สกุลชัย 6) เขตบางพลัด กทม. เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2566

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่า กทม. ดำเนินโครงการปลูกต้นไม้ล้านต้น ส่วน กฟผ. ดำเนินโครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม 1 ล้านไร่ ซึ่งเป็นเรื่องปลูกต้นไม้เหมือนกัน จึงมาร่วมกันเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมือง เพราะเมืองจะดีขึ้นได้เราต้องร่วมมือร่วมใจกัน สำหรับพื้นที่บริเวณที่ว่างริมถนนเลียบทางรถไฟสายใต้แห่งนี้ แต่เดิมเป็นกองขยะ เขตบางพลัดจึงพัฒนาเป็นพื้นที่ปลูกต้นไม้ ในอนาคตควรปลูกเป็นแนวยาว เพื่อพัฒนาให้เป็นทางเดินออกกำลังกาย สร้างสุขภาพที่ดีให้ประชาชน รวมถึงช่วยกรองฝุ่นต่าง ๆ

เขตบางพลัด เป็นเขตที่ปลูกต้นไม้ยืนต้นมากถึง 40% แม้ในวันนี้จะมีการปลูกไม้ยืนต้นอย่างต้นตะแบกที่ออกดอกสีม่วงสวยงามแล้ว ยังมีแนวคิดในการปลูกต้นไม้ยืนต้นให้มากขึ้น เช่น ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ ต้นเหลืองปรีดียาธร เพราะจะออกดอกสวยงาม ทั้งสีชมพูและสีเหลืองด้วย

ด้าน น.ส.อารียา เพ็งประเสริฐ ผู้อำนวยการเขตบางพลัด เสริมว่า พื้นที่ว่างริมถนนทางเลียบรถไฟสายใต้ เขตบางพลัด ประสบปัญหาการลอบทิ้งขยะเป็นปริมาณมากก่อให้เกิดมลพิษด้านสิ่งแวดล้อม กลิ่น ไฟไหม้ และขยะล้นออกมาบนผิวการจราจร สร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนผู้สัญจรและผู้พักอาศัยบริเวณใกล้เคียง ที่ผ่านมา เขตบางพลัดได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ จัดเก็บและขนย้ายขยะ ซึ่งสามารถจัดเก็บได้ปริมาณมากถึง 208 ตัน

จากนั้น ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ได้ดำเนินการปลูกต้นไม้ระยะที่ 1 จำนวน 748 ต้น ระยะทาง 300 เมตร ส่วนกิจกรรมในวันนี้ เป็นการดำเนินการในระยะที่ 2 ปลูกต้นไม้จำนวน 750 ต้น แบ่งเป็น ต้นตะแบกซึ่งเป็นไม้ยืนต้น 50 ต้น ต้นทองอุไรซึ่งเป็นไม้พุ่มขนาดกลาง 200 ต้น และต้นชบาซึ่งเป็นไม้พุ่มเตี้ย 500 ต้น ระยะทาง 200 เมตร

พร้อมกำหนดเป้าหมายการปลูกต้นไม้ในอนาคต ณ ที่ว่างริมถนนเลียบทางรถไฟสายใต้แห่งนี้ เป็นระยะทางรวมกันประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อพัฒนาต่อยอดให้เป็นสวนสวย หรือสวน 15 นาที ของเขตฯ ต่อไป

ส่วน น.ส.นพวรรณ กาญจนะวรรณ รองผู้ว่าการบริหาร กฟผ. เปิดเผยว่า กฟผ. มีโครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม 1 ล้านไร่ ในพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายมุ่งสู่ EGAT Carbon Neutrality ในปี 2593 และเป็นยุทธศาสตร์ สร้างความยั่งยืนด้านทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และพลังงานที่มีเป้าหมายในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวของประเทศ และดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยวางหลักการปลูกป่ารวมงานดูแลบำรุงรักษาไว้ระหว่างปี 2565 – 2574

ซึ่งจะช่วยดูดซับและกักเก็บคาร์บอนได้มากกว่า 1.2 ล้านตันต่อปี และคาดว่าจะสามารถดูดซับและกักเก็บคาร์บอนได้ทั้งสิ้นประมาณ 23.6 ล้านตัน ตลอดระยะเวลาโครงการฯ ในวันนี้ กฟผ. ได้ร่วมมือกับ กทม. และ รฟท. ในการบูรณาการนโยบายปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วมเข้ากับนโยบายปลูกต้นไม้ล้านต้นของ กทม. ซึ่งจะช่วยให้ในเมืองมีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้น เพราะด้วยสภาพอากาศในปัจจุบัน หากไม่ช่วยกันดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชน จะส่งผลให้การใช้ชีวิตลำบากมากขึ้นในอนาคต

กิจกรรมดังกล่าว กฟผ. สนับสนุนต้นทองอุไร 200 ต้น วัสดุอุปกรณ์ในการเตรียมพื้นที่การปลูก รวมถึงน้ำดื่มระหว่างดำเนินกิจกรรม โดยในปี 2566 กฟผ. มีเป้าหมายปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วมจำนวน 1 แสนไร่ มุ่งเน้นการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน ด้วยการส่งเสริมการสร้างงานและสร้างอาชีพให้กับชุมชนโดยรอบ รวมถึงบูรณาการปลูกป่าด้วยการปลูกป่าแบบวนเกษตรเพื่อคืนผืนป่า การปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ตามแนวทางศาสตร์พระราชา โดยได้รับการจัดสรรพื้นที่ที่พร้อมดำเนินการปลูกป่าบกจากกรมป่าไม้แล้ว ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 จำนวน 96,430 ไร่ และมีแผนบำรุงรักษาป่าที่ปลูกในปี 2565 จำนวน 97,103.2 ไร่

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ลักขณา สุริยงค์

ลักขณา สุริยงค์

ทำหน้าที่สื่อมวลชนมาเกือบ 30 ปี ทั้งงานสายข่าวและจัดรายการทีวี-วิทยุมานับไม่ถ้วน "ไม่เป็นกลาง แต่เป็นธรรม พร้อมนำเสนอความจริง"