X

‘นายกฯ’ เชื่อมั่น ‘พลังของครู’ คือ หัวใจการเปลี่ยนแปลงคุณภาพการศึกษาไทย

กรุงเทพฯ – นายกรัฐมนตรี คารวะครูอาวุโส มอบโล่รางวัลแด่ครูของแผ่นดิน ขอพลังครูร่วมกันสร้างแรงบันดาลใจ พัฒนาการเรียนรู้เด็กไทยเพื่ออนาคตของประเทศ

วันที่ 16 มกราคม 2566 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดงานวันครู ครั้งที่ 67 ประจำปี พ.ศ.2566 ณ หอประชุมคุรุสภา สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา กรุงเทพมหานคร เพื่อประกอบพิธีระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ และส่งเสริมยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ภายใต้แนวคิด ‘พลังครู คือ หัวใจของการพลิกโฉมคุณภาพการศึกษา’ โดยมี นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวง และคณะครู เข้าร่วม

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีคารวะครูอาวุโส พลเอกเกษม นภาสวัสดิ์ อดีตครูผู้สอนนายกรัฐมนตรี วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ก่อนมอบโล่รางวัล 17 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลผู้มีคุณูปการต่อการศึกษาของชาติ ประจำปี 2566 จำนวน 8 ราย และรางวัลคุรุสภา ประจำปี 2565 ระดับดีเด่น 9 ราย

นายกรัฐมนตรีกล่าวปราศรัยเนื่องในวันครู พ.ศ.2566 ว่า การได้เข้าร่วมสักการะปฐมบูรพาจารย์ คารวะครูอาวุโส นับเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อครูผู้มีพระคุณ ผู้คอยเสริมสร้างภูมิปัญญาให้แก่ศิษย์ด้วยความอุตสาหะ อดทน เสียสละ ด้วยความหวังให้ลูกศิษย์มีความเจริญก้าวหน้าด้านสติปัญญา มีจิตใจที่มีคุณธรรมสำหรับการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ ซึ่งนับว่าเป็นหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของครูในการสร้างสรรค์ศิษย์ให้มีคุณลักษณะที่ดี เป็นพลเมืองดี และเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพของสังคม และเชื่อมั่นว่าพลังของครู คือ หัวใจของการเปลี่ยนแปลงคุณภาพการศึกษา รวมทั้งการสร้างและการพัฒนาคนเพื่ออนาคตของประเทศ

ครูและบุคลากรทางการศึกษานับเป็นผู้มีความสำคัญอย่างมากในการเป็นผู้นำการเรียนรู้ กระตุ้น และสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้เรียน โดยเด็กเปรียบเสมือนผ้าขาวที่คุณครูทุกคนจะต้องร่วมกันแต่งแต้มถักทอให้สวยงาม ทำให้เด็กสนใจการศึกษา สนใจการเปลี่ยนแปลงของโลกที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีไปตามลำดับ ทั้งยังต้องเป็นผู้เติมเต็มความรู้และพัฒนาผู้เรียนให้มีปัญญาที่งอกงาม พร้อมจุดประกายให้ผู้เรียนรู้จักคิดเป็น แก้ไขปัญหาได้ มีหลักคิดที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม มีจิตสาธารณะ เผื่อแผ่ แบ่งปัน และมีความรับผิดชอบต่อชุมชน สังคม และประเทศชาติ อันจะทำให้ผู้เรียนเติบโตเป็นพลเมืองที่ดี มีคุณภาพ และมีสมรรถนะในการปรับตัวได้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมในอนาคต

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สังคมในยุคปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ควบคู่กับความก้าวล้ำทางเทคโนโลยี ดังนั้น ครูและผู้บริหารการศึกษาจึงต้องพัฒนาตนเองให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง รัฐบาลมีแนวทางการจัดการศึกษาให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21 ได้แก่

1.เน้นการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีสมรรถนะในการออกแบบการเรียนรู้แบบมีปฏิสัมพันธ์ มีทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น ทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างรู้เท่าทัน และทักษะการใช้ชีวิตในโลกอนาคต รวมทั้งความรับผิดชอบต่อสังคม ครอบครัว รู้รักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

2.ส่งเสริมการสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้โดยใช้เครื่องมือดิจิทัล ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศมากขึ้นในอนาคต

3.การจัดสถานการณ์การเรียนรู้ที่ทำให้นักเรียนได้รู้จักรากเหง้าความเป็นมาของชาติ และเอกลักษณ์ของชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนความเป็นตัวตนของคนไทย โดยครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องออกแบบจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้นักเรียนเกิดความรัก ความภาคภูมิใจ หวงแหนแผ่นดินเกิด และเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ ไม่เอาเปรียบผู้อื่น รวมทั้งไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน สิ่งสำคัญคือต้องไม่ลืมรากเหง้าของตัวเอง ปลูกฝังความเป็นไทย ความรักและภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ชาติประวัติศาสตร์ชุมชน ปลูกฝังจิตสำนึกตอบแทนคุณแผ่นดินและพัฒนาบ้านเกิดในอนาคต และต้องอยู่บนหลักการที่ทำให้นักเรียนสามารถสร้างความรู้ขึ้นเองด้วยหลักของเหตุและผล

4.การยกระดับคุณภาพการศึกษาทั้งระบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลมีความปรารถนาและมุ่งมั่นมากที่สุด โดยทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาจะต้องพุ่งเป้าให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงในระดับห้องเรียน และต้องใช้ปัญหาการเรียนรู้ของนักเรียนเป็นตัวตั้ง จากนั้นครู ผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ และผู้บริหารการศึกษาจะต้องนำปัญหาการเรียนรู้ของนักเรียนมาเป็น ‘ประเด็นท้าทาย’ แล้วลงมือทำงานร่วมกันในลักษณะของชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพภายใต้กระบวนการแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพนักเรียน นำไปสู่การเรียนรู้ร่วมกันของครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งการนำความสำเร็จในการแก้ปัญหามาเป็นตัวชี้วัดผลปฏิบัติงานและความเจริญก้าวหน้าในเส้นทางวิชาชีพของครูและบุคลากรทางการศึกษาด้วย

นายกรัฐมนตรี แสดงความเชื่อมั่นว่า หากครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมพลัง เปิดใจ และร่วมมือกัน ทำให้ห้องเรียนเป็นพื้นที่ที่มีการเรียนรู้ร่วมกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนานักเรียน จัดให้มีการเปิดชั้นเรียน เข้าไปร่วมสังเกตและสะท้อนความคิดเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด จะเป็นตัวชี้วัดให้เห็นถึงความเป็นครูมืออาชีพ อีกทั้งยังส่งผลต่อคุณภาพการเรียนรู้ของนักเรียน ห้องเรียน และโรงเรียน ซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพการศึกษาโดยรวมของชาติต่อไป

พร้อมย้ำถึงคุณภาพของครูผู้สอน ที่จะต้องได้รับการพัฒนาให้มีศักยภาพสูงสุดในทุกมิติ ควบคู่ไปกับการมีมาตรฐานและจรรยาบรรณของวิชาชีพ เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้เรียนและสร้างผู้เรียนให้มีคุณภาพเพื่อเป็นกำลังสำคัญของชาติต่อไป ตามคำขวัญ วันครู ครั้งที่ 67 ว่า ‘ครูดี ศิษย์ดี มีอนาคต’ พร้อมขอให้ครูทุกคนมีความภาคภูมิใจในวิชาชีพ ครูเป็นปูชนียบุคคลที่ศิษย์ทุกคนให้ความเคารพรักและซาบซึ้งในพระคุณที่ได้อบรมสั่งสอนวิชาความรู้ พัฒนาให้เด็กและเยาวชนเติบโตเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของสังคม และร่วมส่งความระลึกถึงรวมทั้งความปรารถนาดีแด่เพื่อนครูทุกคนได้ร่วมกันสร้างสรรค์คุณประโยชน์ต่อการศึกษาและพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าสืบไป

ก่อนเริ่มพิธี นายกรัฐมนตรีได้รับชมวีดิทัศน์สัมภาษณ์ครูอาวุโสของนายกรัฐมนตรี โดยครูของนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงนายกฯ ว่า นายกรัฐมนตรีเป็นคนมีมันสมองซึ่งเป็นลักษณะของผู้นำที่ดี และเป็นผู้บริหารสูงสุดของประเทศ มีรูปร่างสูงใหญ่ เสียงดัง ฟังชัด พูดจาฉะฉานชัดถ้อยชัดคำซึ่งเป็นลักษณะเด่น นอกจากนี้ ยังมีคุณลักษณะทหารที่ดี เข้มแข็ง มีระเบียบวินัย ซึ่งการฝึกอบรมในโรงเรียนนายร้อยฯ มีความเข้มข้นมาก มีความเป็นสุภาพบุรุษ มีความเป็นผู้นำที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรม มีความซื่อสัตย์ และรับผิดชอบต่อหน้าที่ โดยเมื่อได้รับหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อให้สำเร็จบรรลุเป้าหมาย โดยไม่ทิ้งความสุจริตความซื่อสัตย์ ในฐานะครู มีความภาคภูมิใจมากที่ได้เป็นครูผู้สอนนายกรัฐมนตรี เป็นส่วนเล็ก ๆ ที่ได้หล่อหลอมศิษย์ทุกคนรวมทั้งเพื่อนร่วมรุ่นของนายกรัฐมนตรีด้วย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ปฏิบัติตามปณิธานที่ตั้งเอาไว้ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก ในฐานะครู รักลูกศิษย์ทุกคนเหมือนลูก และมีแต่ความปรารถนาดีมอบให้

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ลักขณา สุริยงค์

ลักขณา สุริยงค์

ทำหน้าที่สื่อมวลชนมาเกือบ 30 ปี ทั้งงานสายข่าวและจัดรายการทีวี-วิทยุมานับไม่ถ้วน "ไม่เป็นกลาง แต่เป็นธรรม พร้อมนำเสนอความจริง"