กรุงเทพฯ – สาธารณสุข ปิดศูนย์ EOC กรณีเหตุเพลิงไหม้บ่อนปอยเปตแล้ว สรุป มีผู้เสียชีวิตในกัมพูชา 25 คน ในไทย 1 คน ให้การดูแลรักษา 35 คน ส่วนใหญ่สำลักควัน ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 12 คน รักษาหายทุกคน คงเหลือผู้บาดเจ็บรักษา 7 คน เป็นกลุ่มสีเหลือง 4 คน และสีเขียว 3 คน
วันที่ 8 มกราคม 2566 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงการดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุเพลิงไหม้โรงแรมแกรนด์ไดมอนด์ ซิตี้ แอนด์ คาสิโน ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ว่า ได้ปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน ด้านการแพทย์และสาธารณสุข (EOC) เพื่อตอบโต้สถานการณ์แล้ว พร้อมทั้งสรุปข้อมูลการปฏิบัติการ ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2565-5 มกราคม 2566
มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 115 คน เป็นเพศชาย 57% เพศหญิง 43% ให้การรักษาในโรงพยาบาล 35 คน
อยู่ในช่วงอายุ 15-29 ปี มากที่สุด 20 คน อายุ 30-44 ปี 9 คน อายุ 45-59 ปี 2 ราย และอายุ 60 ปีขึ้นไป 5 คน
อาการที่เข้ารับการรักษา คือ ทางเดินหายใจ (สำสักควัน) 76% อาการทางกระดูก 12% และแผลไฟไหม้ (Burn) ระดับ 1 อีก 12%
ผู้บาดเจ็บที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ เนื่องจากสำลักควัน 12 คน
ทั้งนี้ ในวันที่ 29 ธันวาคม 2565 ซึ่งเป็นวันแรกที่รับผู้บาดเจ็บ เป็นผู้ป่วยอาการหนักสีแดง 10 คน ปานกลางสีเหลือง 9 คน และเล็กน้อยสีเขียว 16 คน ส่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ทั้งในจังหวัดสระแก้วและใกล้เคียง ก่อนส่งต่อรักษาตามภูมิลำเนา ได้แก่ สระแก้ว 6 คน กรุงเทพมหานคร 5 คน นครศรีธรรมราช 2 คน สกลนคร 2 คน และจังหวัดอื่น ๆ อีก 12 จังหวัด ๆ ละ 1 คน ไม่ทราบที่อยู่ 8 คน ทุกคนมีแนวโน้มอาการดีขึ้นตามลำดับ
นายแพทย์โอภาส กล่าวต่อว่า ปัจจุบันคงเหลือผู้บาดเจ็บสีเหลือง 4 คน และสีเขียว 3 คน ส่วนผู้เสียชีวิตที่ประเทศกัมพูชามี 25 คน เป็นคนไทย 19 ราย เนปาล 1 คน ยังไม่ทราบสัญชาติอีก 5 คน รักษาแล้วเสียชีวิตที่ประเทศไทย 1 คน และยังมีผู้สูญหายรอการพิสูจน์ 4 คน ศพรอพิสูจน์ที่ประเทศกัมพูชาอีก 5 คน
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยด้วยว่า หลังปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินฯ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ได้ประชุมสรุปผลการดำเนินงาน ทบทวนปัญหาอุปสรรค และถอดบทเรียนการปฏิบัติการ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาการเตรียมความพร้อมรับ สถานการณ์ฉุกเฉินและภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยมีแนวทางการพัฒนา คือ
1.ทบทวนแผนโครงสร้างสายบัญชาการ และสายปฏิบัติการให้เป็นปัจจุบัน ทั้งจังหวัดสระแก้วและจังหวัดคู่แฝดในประเทศกัมพูชา
2.ให้มีการซ้อมแผนเตรียมความพร้อม อย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี
3.ให้ติดดตามข้อมูลผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต จากฝั่งประเทศกัมพูชา
4.สร้างระบบ Twin City และ Twin Hospital ระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชา
