กรุงเทพฯ – กฟผ. ระดมจิตอาสาเร่งบรรจุถุงยังชีพเพิ่มอีก 5,500 ชุด ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยใน จังหวัดขอนแก่น อุบลราชธานี และตาก พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์และบริหารจัดการน้ำในเขื่อนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใกล้ชิด เพื่อให้มีผลกระทบน้อยที่สุด
วันที่ 11 ตุลาคม 2565 นายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ ในฐานะโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระบุว่า สถานการณ์อุทกภัยในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงวิกฤต กฟผ. จึงระดมจิตอาสาเร่งบรรจุถุงยังชีพเพิ่มอีก 5,500 ชุด ซึ่งภายในถุงประกอบด้วย เครื่องอุปโภค-บริโภคที่จำเป็น และน้ำดื่ม น้ำใจ กฟผ. 36,000 ขวด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง แบ่งเป็นพื้นที่ อำเภอุบลรัตน์ หนองเรือ ภูเวียง หนองนาคำ น้ำพอง จังหวัดขอนแก่น, อำเภอโนนสัง อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู 3,000 ชุด, อำเภอสิรินธร อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอโขงเจียม อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี 1,500 ชุด และอำเภอสามเงา อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก จำนวน 1,000 ชุด
สำหรับสถานการณ์น้ำเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เข้าสู่สภาวะวิกฤตระดับ 3 เนื่องจากมีปริมาณน้ำกักเก็บสูงถึง 3,213 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น 132% ของความจุอ่าง (ข้อมูล ณ วันที่ 11 ตุลาคม 2565) และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสูงกว่าคันดินโนนสัง จึงจำเป็นต้องระบายน้ำวันละ 54 ล้าน ลบ.ม. ในวันที่ 10-12 ตุลาคม 2565 ตามมติคณะกรรมการลุ่มน้ำชี ครั้งที่ 3/2565 ทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อนมีระดับน้ำสูงขึ้น พร้อมประสานหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทุกจังหวัดที่ได้รับผลกระทบทราบล่วงหน้า รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังระดับน้ำและเตรียมยกของขึ้นที่สูง โดยสามารถติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำเพิ่มเติมได้ทาง http://water.egat.co.th/ หรือแอปพลิเคชัน EGAT Water และ EGAT One
โฆษก กฟผ. กล่าวต่อว่า กฟผ. ยังร่วมกับชาวบ้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บรรจุทรายใส่กระสอบและถุงบิ๊กแบ็ก เพื่อวางบนแนวคันดินโนนสังยาวกว่า 5 กิโลเมตร ป้องกันไม่ให้น้ำไหลข้ามคันดินเข้าท่วมตัวอำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู รวมถึงลงพื้นที่ในชุมชนต่าง ๆ ช่วยประชาชนยกของขึ้นที่สูงเตรียมพร้อมรับมือระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น
ที่ผ่านมา กฟผ. ได้ส่งมอบถุงยังชีพกว่า 27,500 ชุด และน้ำดื่มกว่า 137,000 ขวด แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ 16 จังหวัด รวมถึงเตรียมพร้อมรถขนทราย รถบรรทุกขนาดเล็กขนาดใหญ่ และกระสอบทรายเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่รอบเขตเขื่อน โรงไฟฟ้า และสถานีส่งไฟฟ้าแรงสูง หากได้รับการประสานงานอย่างเต็มกำลัง
