กรุงเทพฯ – กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนระมัดระวังอันตรายจากสารเคมีรั่วไหลในโรงงาน จ.นครปฐม หากสูดดมเข้าไปอาจเกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจและผิวหนัง หรืออาจส่งผลกระทบต่อตับและระบบประสาทได้ พร้อมแนะวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น
วันที่ 22 กันยายน 2565 นายแพทย์อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า กรณีสารเคมีรั่วไหล ในโรงงานย่านพุทธมณฑลสาย 7 จ.นครปฐม ทำให้ประชาชนที่อยู่ใน ต.ศาลายา ได้รับผลกระทบต่อสุขภาพ กรมควบคุมโรคสั่งการไปยัง กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม ให้ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ของสารเคมีรั่วไหลอย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งทีมลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานในส่วนภูมิภาค ได้แก่ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จ.ราชบุรี ให้ลงพื้นที่คัดกรองสุขภาพผู้ที่ได้รับผลกระทบในรัศมีที่เกี่ยวข้อง
นายแพทย์อภิชาต กล่าวต่อว่า สารเคมีที่รั่วไหล คาดการณ์ว่าน่าเป็น สาร Biphenyl และ Diphenyl oxide มีลักษณะก่อผลึกใสไม่มีสี จะทำให้เกิดการระคายเคือง ตา ผิวหนัง และระบบทางเดินหายใจ หากได้รับสาร Biphenyl หรือสัมผัสเป็นเวลานาน อาจส่งผลกระทบต่อตับ และระบบประสาท ซึ่งสารพิษอาจส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่มีความเสี่ยงป่วยจาก 3 กลุ่มโรค ดังนี้
1.กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ อาเจียน คลื่นไส้
2.กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ เช่น อาการคันตามร่างกาย มีผื่นแดงตามร่างกาย
3.กลุ่มโรคตาอักเสบ เช่น อาการแสบหรือคันตา ตาแดง
ข่าวน่าสนใจ:
สำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอด หอบหืด ภูมิแพ้ หากได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย อาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยหรือมีผลกระทบต่อสุขภาพที่รุนแรงมากกว่าประชาชนทั่วไป
ด้านแพทย์หญิงหรรษา รักษาคม ผู้อำนวยการกองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม ให้ข้อมูลถึงหลักการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อสัมผัสกับสารเคมี ดังนี้
1.หากโดนผิวหนัง ให้ล้างบริเวณที่ถูกสารเคมีโดยใช้น้ำสะอาดล้างให้มากที่สุดเพื่อให้เจือจาง ถ้าสารเคมีถูกเสื้อผ้าให้ถอดเสื้อผ้าออกก่อน
2.หากเข้าตา ให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดอย่างน้อย 15 นาที แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว
3.หากสูดดมสารพิษเข้าไป ให้ย้ายผู้ป่วยไปที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์หรือมีอากาศถ่ายเท และทำการประเมินการหายใจ
ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบสวมใส่หน้ากากป้องกันสารเคมีที่มีชั้นกรองคาร์บอน และติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมความพร้อมอยู่เสมอหากมีการประกาศอพยพเพิ่มเติม และขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว โดยกรมควบคุมโรคได้ประสานกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อคัดกรองสุขภาพประชาชนในพื้นที่ และวางแผนติดตามผลการประเมินสุขภาพอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค โทร.02 590 3866
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: