เคาะ! ขยายมาตรการลดค่าครองชีพ ลดราคาเบนซิน ดึงกำไรโรงกลั่นอุ้มกองทุนฯ

กรุงเทพฯ – นายกรัฐมนตรี หารือมาตรการลดผลกระทบประชาชน เห็นชอบต่ออายุมาตรการช่วยเหลือบางส่วนที่จะหมดอายุ มิ.ย. ออกไปอีก 3 เดือน พร้อมขอความร่วมมือผู้ค้าคงค่าการตลาด ให้กลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน นำส่งกำไรค่าการกลั่นน้ำมันดีเซล-เบนซิน เข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และลดราคาเบนซินทันที

วันที่ 16 มิถุนายน 2565 นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน แถลงผลประชุมระหว่าง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อออกมาตรการลดค่าครองชีพและช่วยเหลือราคาน้ำมันแพง ที่ทำเนียบรัฐบาล นานกว่า 1 ชั่วโมงว่า

ที่ประชุมเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือหลายมาตรการ ซึ่งจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พิจารณาเห็นชอบในวันอังคารที่ 21 มิถุนายนนี้ ดังนี้

ส่วนแรก ต่อมาตรการลดค่าครองชีพเดิม ที่กำลังจะสิ้นสุดอายุมาตรการ ในเดือนมิถุนายนนี้ โดยจะดำเนินการถึงสิ้นเดือนกันยายน 2565
♦ การตรึงราคาค่าก๊าซ NGV สำหรับรถแท็กซี่
♦ การให้ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม เดือนละ 100 บาท สำหรับผู้ค้าหาบเร่ แผงลอย ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
♦ ส่วนลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (FT) ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าต่ำกว่า 300 หน่วย (อยู่ระหว่างการพิจารณา)

มาตรการใหม่
♦ ขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมัน คงค่าการตลาดอยู่ที่ 1.40 บาทต่อลิตร
♦ ขอความร่วมมือโรงกลั่นน้ำมัน นำส่งกำไรส่วนต่างที่เกิดจากการกลั่นน้ำมัน เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2565 คาดว่าจะเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ได้ประมาณเดือนละ 6,000-7,000 ล้านบาท แยกเป็น

กลุ่มน้ำมันดีเซล จะนำเงินกำไรส่วนต่างที่เก็บได้ ประมาณเดือนละ 5,000-6,000 ล้านบาท ส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องกองทุน
กลุ่มน้ำมันเบนซิน จะนำเงินกำไรส่วนต่างที่เก็บได้ ประมาณเดือนละ 1,000 ล้านบาท มาลดราคาให้ผู้ใช้น้ำมันเบนซินในทันที คาดว่าจะสามารถลดราคาน้ำมันเบนซินหน้าปั๊มได้ประมาณลิตรละ 1 บาท

นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานยังขอความร่วมมือโรงแยกก๊าซที่มีต้นทุน LPG ที่จำหน่ายเป็นวัตถุดิบในภาคปิโตรเคมี ซึ่งมีกำไรส่วนเกิน ดึงเงินกำไรส่วนเกินออกมา 50% เข้ากองทุนน้ำมันฯ คาดว่าจะได้เงินเข้ากองทุนอีกเดือนละ 1,500 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ยังมีมาตรการขอความร่วมมือภาคเอกชนช่วยประหยัดพลังงาน เช่น ปิดไฟป้ายโฆษณา และให้ห้างสรรพสินค้าปิดแอร์ก่อนปิดห้าง 1 ชั่วโมง ซึ่งกระทรวงพลังงานจะจัดทำรายละเอียดเสนอที่ประชุมครม.เห็นชอบต่อไป

ด้านคลัง เสนอมาตรการด้านภาษีกระตุ้นการท่องเที่ยว พร้อมต่อโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4
เลขาธิการ สศช. แถลงต่อว่า กระทรวงการคลังเสนอมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ด้วยมาตรการด้านภาษีเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยจะเป็นการสนับสนุนบริษัทต่าง ๆ หักรายจ่ายสำหรับค่าห้องสัมมนา ห้องพัก เดินทาง หรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับอบรมสัมมนาในประเทศ การจัดงานอีเวนต์ในต่างจังหวัด โดยหากไปเมืองหลัก สามารถหักภาษีได้ 1.5 เท่า แต่ถ้าไปเมืองรองสามารถหักภาษีได้ 2 เท่า มาตรการนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม-31 ธันวาคม 2565

อย่างไรก็ตาม สำหรับมาตรการช่วยเหลือลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม จะสิ้นสุดอายุและไม่ทำต่อ หลังจากที่ผ่านมา ได้ลดเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม มาตรา 33 39 และ 40 เพราะกระทบต่อภาระของกองทุนประกันสังคม และปัจจุบันกำลังมีการเจรจาเรื่องค่าแรงขั้นต่ำอยู่ด้วย