X

ศบค. ห่วง หลังพบคลัสเตอร์ใหม่ ทั้ง ‘โรงเรียน โรงงาน ตลาด แคมป์คนงาน’ ชี้ เสียชีวิตส่วนใหญ่ไม่ได้วัคซีน

กรุงเทพฯ – ศบค. พบ ผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 วันนี้ 55 คน มีถึง 41 คนที่ยังไม่เคยรับวัคซีน ขอความร่วมมือเร่งฉีดโดยเฉพาะในจังหวัดที่ยังฉีดต่ำ เผย พบคลัสเตอร์ใหม่อีกเพียบ ห่วงผ่อนคลายมาตรการ เตรียมชง ศบค.ชุดใหญ่ 26 พ.ย.นี้ปรับมาตรการระดับสีพื้นที่ เปิดสถานบันเทิง และรับแรงงาน 3 สัญชาติ

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 แพทย์หญิงสุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค แถลงที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. โดยแยกผู้ติดเชื้อโควิดตามประเภทคลัสเตอร์ที่พบใหม่ ปรากฏว่า คลัสเตอร์โรงงาน/สถานประกอบการ พบในกรุงเทพมหานคร 49 คน ปราจีนบุรี 9 คน ลำพูน 14 คน, ตลาด พะเยา 8 คน ขอนแก่น 7 คน จันทบุรี 4 คน อุดรธานี 2 , แคมป์คนงาน ลำพูน 6 คน กทม. 5 คน สงขลา 2 คน และโรงเรียนสถานศึกษา อุบลราชธานี 11 คน สระแก้ว 8 คน แม่ฮ่องสอน 7 คน และสุราษฎร์ธานี 4 คน

ทั้งนี้ พบคลัสเตอร์โรงเรียนรายงานเป็นระยะ จึงขอเน้นย้ำมาตรการหลังสอบสวนโรคไม่จำเป็นต้องปิดทั้งโรงเรียน ให้ปิดเฉพาะห้องหรือชั้นเรียนตามการสอบสวนโรค ชั้นเรียนอื่นที่ไม่ได้เสี่ยงสูงมาเรียนได้ แต่ควรสุ่มตรวจ ATK ต่อเนื่อง

แพทย์หญิงสุมนี กล่าวต่อว่า คลัสเตอร์ที่ยังพบการระบาดต่อเนื่อง คือ โรงงาน/สถานประกอบการ แคมป์ก่อสร้าง ตลาด กิจการเหล่านี้จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ ปัจจัยหลัก คือ แรงงาน เมื่อผ่อนคลายมากขึ้น ก็พบความต้องการแรงงานมากขึ้น และมีการลักลอบนำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากการประชุม ศบค. เมื่อ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา มีมติรับแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ เข้ามาในระบบตามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ หรือ เอ็มโอยู ซึ่งมี 7 ขั้นตอนที่เป็นมาตรฐานดำเนินงาน เพื่อวัตถุประสงค์ 2 เรื่อง คือ 1.คนไทยปลอดภัยด้านสาธารณสุข ลดการแพร่ระบาด และ 2.ต่างด้าวได้รับการดูแลสุขภาพตามมาตรฐาน ไม่ได้ถูกละเลย

ซึ่ง ศบค.ชุดเล็กได้ติดตามความก้าวหน้าเป็นระยะ ประเด็นที่ห่วงใย คือ จำนวนแรงงานต่างด้าวเข้ามาแต่ละวันจำนวนมาก มีการจัดเตรียมสถานที่กักตัวในพื้นที่เพียงพอหรือเตรียมพร้อมรับอย่างไร หรือเงื่อนไขการรับวัคซีนจากประเทศต้นทาง ถ้ารับครบ 2 เข็ม จะกักตัว 7 วัน ไม่ครบจะต้องกักตัว 14 วัน ต้องตรวจ RT-PCR อย่างไรก็ตาม เจ้าของกิจการหรือนายจ้างจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย เมื่อมากักตัว ขณะนี้มีนายจ้างหลายเจ้าเข้ามายื่นเรื่อง มีเวลาจนถึง 1 ธ.ค.64 ขอให้เตรียมเอกสารหลักฐานและยื่นคำร้องรับนำเข้าแรงงานมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ติดต่อกรมการจัดหางาน สายด่วน 1694 หรือ 1506 กด 2

ทั้งนี้ จะมีการนำเสนอเข้า ศบค.ชุดใหญ่ ในวันศุกร์นี้ (26 พ.ย.64)
ประเมินสถานการณ์การผ่อนคลายการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย. 64 ว่ามีการทำอะไรบ้างที่จะมีการผ่อนคลายมากขึ้น รายละเอียดในการปรับพื้นที่สี ปรับมาตรการต่าง ๆ รายงานความก้าวหน้ารับแรงงาน 3 สัญชาติเข้าประเทศ และมาตรการกิจการสถานบันเทิง ขอให้ติดตามมติที่ประชุม

ศบค. เร่งฉีดวัคซีน เผย เสียชีวิตวันนี้ 55 คน มีถึง 41 คน ไม่เคยได้รับวัคซีน
ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ระบุอีกว่า การฉีดวัคซีนไม่ใช่แค่รับการเปิดประเทศ แต่เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของคนไทยด้วย คนไทยเริ่มท่องเที่ยวมากขึ้น เป็นการกลับมาใช้ชีวิตวิถีใหม่ของคนไทย การรับวัคซีนจะเห็นว่าปลอดภัยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือกันทุกภาคส่วน นอกจากรับวัคซีนแล้ว การเคร่งครัดมาตรการส่วนบุคคลต้องไปด้วยกัน ช่วยควบคุมการระบาดไม่ให้เป็นวงกว้าง และขับเคลื่อนการเปิดประเทศได้มากขึ้น เป้าหมายการฉีดวัคซีนพยายามรณรงค์ให้ได้มากที่สุด คนยังไม่ได้แม้แต่เข็มเดียว มีราว 10 ล้านคน ขอให้ทุกคนช่วยกัน อย่างการเก็บข้อมูลเพิ่มเติม พบว่าผู้เสียชีวิตที่รายงานวันนี้ 55 คน มีถึง 41 คน ที่ไม่ได้รับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว หรือ คิดเป็น 75%

ทั้งนี้ อัตราการเสียชีวิตขณะนี้ลดลงเหลือ 0.99% ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 55 คน เป็นเพศชาย 33 คน หญิง 22 คน โดยกว่า 98% เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และมีโรคเรื้อรัง มีผู้ป่วยติดเตียงเสียชีวิต 4 คน ส่วนใหญ่ติดเชื้อมาจากคนผู้ดูแล หรือผู้ที่อยู่ร่วมบ้าน เน้นย้ำในการจัดแยกสถานที่ ใส่หน้ากากตลอดเวลา หรือแยกรับประทานอาหาร

คนไทย รับวัคซีนแล้วเกือบ 90 ล้านโดส
ยอดฉีดวัคซีน วันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 ทั่วประเทศ 557,392 โดส
เข็มที่ 1 : 197,148 คน
เข็มที่ 2 : 320,501 คน
เข็มที่ 3 : 39,743 คน

จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. – 23 พ.ย.2564)
รวม 89,894,183 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
เข็มที่ 1 สะสม : 47,034,024 คน
เข็มที่ 2 สะสม : 39,724,270 คน
เข็มที่ 3 สะสม : 3,135,889 คน

จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็ม 1 ต่ำ
จังหวัดที่มีการระบาด แต่ความครอบคลุม การฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ยังน้อย 3 อันดับแรก คือ สระแก้ว 48.1% อุบลราชธานี 50.4% และขอนแก่น 52.6%

ส่วนจังหวัดที่มีการระบาดเพิ่มขึ้น 5 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน พิษณุโลก สิงห์บุรี

10 จังหวัดที่มีการฉีดเข็มแรก ไม่ถึง 50% ได้แก่ หนองบัวลำภู นครพนม บึงกาฬ สกลนคร กาฬสินธุ์ ยโสธร ร้อยเอ็ด สุรินทร์ แม่ฮ่องสอน สมุทรสงคราม

สำหรับ 10 จังหวัด ที่ฉีดเข็ม 1 ครอบคลุมกลุ่ม 608 ต่ำที่สุด ฉีดไม่ถึง 50% ได้แก่ นครนายก แม่ฮ่องสอน ขณะที่ จังหวัดฉีดไม่ถึง 60% ได้แก่ ราชบุรี สุพรรณบุรี ปัตตานี ขอนแก่น กาญจนบุรี ลพบุรี สระบุรี และสมุทรสงคราม

พญ.สุมนี กล่าวว่า ต้องขอความร่วมมือ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเหล่านี้ ช่วยทำมาตรการเชิงรุก และประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจในการรับวัคซีนให้แก่ประชาชน และขอให้ภาคส่วนประชาสังคมและผู้นำชุมชนในพื้นที่ ช่วยเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้เพิ่มขึ้น เพราะหน่วยงานทางสาธารณสุขหน่วยงานเดียว ไม่สามารถทำให้ประสบความสำเร็จโดยรวมได้ ขณะนี้ทุกจังหวัดมีปริมาณวัคซีนที่เพียงพอ สามารถกระจายให้กับทุกคนในพื้นที่ทั่วถึงแน่นอน

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ลักขณา สุริยงค์

ลักขณา สุริยงค์

ทำหน้าที่สื่อมวลชนมาเกือบ 30 ปี ทั้งงานสายข่าวและจัดรายการทีวี-วิทยุมานับไม่ถ้วน "ไม่เป็นกลาง แต่เป็นธรรม พร้อมนำเสนอความจริง"