กรุงเทพฯ – คณะรัฐมนตรี อนุมัติกรอบวงเงิน 166.94 ล้านบาท ช่วยกลุ่มคนขับรถแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง อายุเกิน 65 ปี ที่เป็นแรงงานนอกระบบ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด เร่งจ่ายภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
วันที่ 12 ตุลาคม 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ โครงการช่วยเหลือกลุ่มอาชีพผู้ขับรถยนต์รับจ้าง (รถแท็กซี่) และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ที่มีอายุเกิน 65 ปี ที่อยู่ในกลุ่มแรงงานนอกระบบและไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด แบ่งเป็น ผู้ขับรถยนต์รับจ้าง (รถแท็กซี่) 12,918 คน และผู้ขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ (วินมอเตอร์ไซต์) 3,776 คน รวม 16,694 คน
โดยจะสนับสนุนเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ คนละ 5,000 บาทต่อเดือน ภายใต้กรอบวงเงิน 166.94 ล้านบาท สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด สนับสนุนเงินช่วยเหลือค่าครองชีพเป็นระยะเวลา 2 เดือน ส่วนพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 16 จังหวัดเพิ่มเติม สนับสนุนเงินช่วยเหลือค่าครองชีพระยะเวลา 1 เดือน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังแถลงถึงวิธีการลงทะเบียนร่วมโครงการฯ ว่า กรมการขนส่งทางบก จะเปิดให้ลงทะเบียนตามหลักเกณฑ์ของโครงการฯ และดำเนินการตรวจสอบข้อมูลผู้ประกอบอาชีพขับรถยนต์รับจ้าง (รถแท็กซี่) และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ที่มีอายุเกิน 65 ปี จากฐานข้อมูลใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ (รถแท็กซี่) และใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ
ข่าวน่าสนใจ:
- "บพท." กระทรวง อว. สร้างโคลนนิ่ง 200 นักจัดการวิจัยเชิงพื้นที่ สานพลังความรู้ฯ
- ชาวชัยภูมิ 2 อำเภอเดินหน้าหมู่บ้านต้นแบบปลูกผักกินเองตามรอยวันพ่อแห่งชาติ!
- มหัศจรรย์บ่อน้ำพุร้อนแค่ปรบมือเกิดฟองผุด เชื่อว่าช่วยบำบัดอาการป่วยได้
- พระครูแจ้ มอบเงินสนับสนุนสถานศึกษา กว่า 1 ล้านบาท ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ
สำหรับกลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่เช่า ที่ไม่สามารถตรวจสอบพื้นที่ให้บริการได้ จะต้องตรวจสอบยืนยันตัวตนก่อน เช่น ให้นิติบุคคลรถเช่า/สหกรณ์แท็กซี่เป็นผู้รับรอง เป็นต้น
ซึ่งกรมการขนส่งทางบก จะจ่ายเงินด้วยวิธีการโอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ (Promptpay) เฉพาะการผูกบัญชีกับเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือตามวิธีการอื่นที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด คาดว่าจะจ่ายเงินรอบแรก ระหว่างวันที่ 8-12 พฤศจิกายน 2564 และจ่ายเงินรอบที่ 2 ระหว่างวันที่ 22-26 พฤศจิกายน
นายธนกร กล่าวด้วยว่า โครงการฯ ดังกล่าว จะช่วยรักษาคุณภาพชีวิตของกลุ่มผู้ประกอบอาชีพขับรถยนต์รับจ้างและรถจักรยานยนต์สาธารณะ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกทั้งยังเป็นการช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ เนื่องจากระบบการขนส่งสาธารณะเป็นปัจจัยสำคัญ ในการขับเคลื่อนให้เกิดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเป็นการรักษาไว้ซึ่งระบบนิเวศน์ธุรกิจด้านการขนส่งด้วยรถสาธารณะ ที่จะส่งผลให้ประชาชนยังคงได้ใช้บริการรถสาธารณะที่มีคุณภาพ ครอบคลุมในพื้นที่อย่างปลอดภัยต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: