กรุงเทพฯ – ศบค. ห่วงโควิดระบาดต่างจังหวัด หลังแรงงานก่อสร้างแห่กลับบ้าน โดยกลับอีสานมากสุด 18 จังหวัด ก รมวิทย์สุ่มตัวอย่างสายพันธุ์ระบาด พบ กรุงเทพฯ เป็นสายพันธุ์เดลตา 52% ส่วนทั้งประเทศ ยังเป็นสายพันธุ์อัลฟา มากสุด 65.1%
วันที่ 6 กรกฎาคม 2564 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงถึงการระบาดในกรุงเทพมหานครขณะนี้ว่า ยังเป็น 2 สายพันธุ์หลัก คือ สายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) และสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์สุ่มตัวอย่างในกรุงเทพฯ จำนวน 936 ตัวอย่าง พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาถึง 52% โดยโควิดสายพันธุ์เดลตา มีจุดเริ่มต้นการพบเชื้อในแคมป์คนงานก่อสร้าง ย่านหลักสี่ และขณะนี้เริ่มแพร่กระจายจากกรุงเทพฯ ไปสู่ต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ หลังแรงงานภาคก่อสร้างเดินทางกลับภูมิลำเนา จากคำสั่งล็อกดาวน์แคมป์คนงานก่อสร้างในกรุงเทพฯ และ 5 จังหวัดปริมณฑล
ส่วนสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) พบการระบาดกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ บางส่วนของ จ.สุราษฎร์ธานี และชลบุรี เท่านั้น แต่ยังจำเป็นต้องติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่า ภาพรวมทั้งประเทศมีสัดส่วนการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์อัลฟา มากที่สุด 65.1% รองลงมา คือ สายพันธุ์เดลตา 32.2% และสายพันธุ์เบตา 2.6%
โฆษก ศบค. ระบุด้วยว่า ปัจจุบันพบการแพร่ระบาดของโควิดลงไปในระดับชุมชนและครอบครัวเพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากแรงงานในกรุงเทพฯ ที่กลับบ้านและนำเชื้อไปแพร่สู่คนในครอบครัวและชุมชน ดังนั้น จึงขอย้ำเตือนว่า ประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงที่เดินทางกลับไปต่างจังหวัด ควรปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดในการเว้นระยะห่าง หรืออาจนำแนวทาง ‘เถียงนาโมเดล’ มาใช้ในการแยกตัวจากครอบครัวหรือชุมชน เพื่อสังเกตอาการ หลังจากที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง
ทั้งนี้ พบผู้ที่เดินทางจาก กรุงเทพฯ และปริมณฑล (นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทปราการ) ไปยัง 39 จังหวัด แบ่งดังนี้
1.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากสุด 18 จังหวัด รวม 254 คน
2.ภาคเหนือ 9 จังหวัด รวม 75 คน
3.ภาคกลางและภาคตะวันออก 9 จังหวัด รวม 45 คน
4.ภาคใต้ เพียง 3 จังหวัด รวม 9 คน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
