X

สภาวิศวกร-SCG ร่วมยกระดับมาตรฐาน ‘วิศวกรไทย ก้าวสู่สากล’

กรุงเทพฯ – ประเทศไทยผลิตวิศวกรจบใหม่ปีละ 35,000 คน แต่มีการขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรม เพียง 7,000 คนต่อปี ส่งผลให้เกิดปัญหาจำนวนแรงงานวิศวกร ความสามารถในการตรวจรับงาน ธุรกิจ Cement and Construction Solution ของเอสซีจี จึงลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ สภาวิศวกร เพื่อยกระดับมาตรฐานวิศวกรไทย ให้มีความรู้ ความสามารถ พัฒนาขีดความสามารถของวิศวกรไทย ให้มีความพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุค New Normal พร้อมส่งเสริมคุณภาพการปฏิบัติงาน รองรับการเติบโตทางด้าน Construction Solution

นายชนะ ภูมี Vice President ธุรกิจ Cement and Construction Solution เอสซีจี ระบุว่า บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด (CPAC) และสภาวิศวกร มีข้อตกลงร่วมมือยกระดับมาตรฐานวิศวกรไทย ให้มีขีดความสามารถเทียบเท่าในระดับโลก ซึ่งเป็นนโยบายหลักของเอสซีจี มาตลอด ในการเข้าไปร่วมพัฒนาบุคลากร พร้อมปรับไปสู่ Construction Solution และใช้ CPAC BIM ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมด้านก่อสร้างของประเทศไทยให้เทียบเท่ากับสากล โดยจะเริ่มจากภายในองค์กรของเอสซีจีก่อน เนื่องจาก CPAC มีวิศวกรหลักกว่า 500 คน ที่ให้บริการและเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนี้อยู่ จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะพัฒนาบุคลากรตรงจุดนี้ พร้อมยังจะเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงการพัฒนาความสามารถวิชาชีพวิศวกร ในกลุ่มผู้ประกอบการ Ecosystem ทั้งกลุ่มผู้รับเหมาขนาดกลางและเล็ก โดยจะเข้าไปร่วมมือกันให้ความรู้ ส่งเสริม และยกระดับวิชาชีพวิศวกรของกลุ่มผู้ประกอบการเหล่านี้ ให้ได้รับรองอย่างถูกต้องต่อไป

ด้าน นายชูโชค ศิวะคุณากร Managing Director – CPAC กล่าวว่า แกนหลักของงานก่อสร้างคือคน หนึ่งในนั้นคือวิศวกร การพัฒนาวิศวกร ประกอบด้วยการนำ Digitization จากคนเก่งระดับโลกมาใช้ รวมถึงการนำแพลตฟอร์มการทำงานต่าง ๆ ที่สะดวกรวดเร็วและคล่องตัวขึ้น ถัดมาเป็นเรื่องของ Construction Technology เราต้องดึงสิ่งต่าง ๆ มาปรับใช้ เพื่อยกระดับมาตรฐานวิชาชีพ และเป็นประโยชน์ต่อทั้งอุตสาหกรรมของประเทศ โดยมีโจทย์ว่าจะทำอย่างไรให้ของที่มีในตลาดสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงสร้างแพลตฟอร์ม เรียกว่า All Rent เป็นตัวเชื่อมเครื่องจักรเครื่องมือหนักในตลาดให้แก่ผู้ที่ต้องการใช้ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการก่อสร้างได้ทุกขณะ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการก่อสร้าง ลดเวลาและลดแรงงานคน

“เป้าหมายสำคัญในการยกระดับวิศวกรไทยครั้งนี้ คือ ทำอย่างไรให้วิศวกรระดับภาคีวิศวกร สามารถเลื่อนขั้นเป็นระดับสามัญวิศวกร และนำไปสู่ระดับวุฒิวิศวกรในอนาคต โดยเรื่องแรกที่ให้ความสำคัญคือ การมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ซึ่งเอสซีจีจะผลักดันให้บุคลากรมีใบอนุญาตฯ ในระดับสามัญวิศวกร และวุฒิวิศวกร ได้ตามเป้าหมายภายในปี 2564 นอกจากนี้ ผู้ที่จบการศึกษาในระดับอาชีวะ ยังสามารถสอบเลื่อนระดับเป็นวิศวกรแบบภาคีวิศวกรพิเศษ โดยจะช่วยยกระดับ เพิ่มขีดความสามารถ ของวิชาชีพวิศวกรไทยให้รองรับการขยายตัวของงานก่อสร้างและรูปแบบที่เป็น Construction Solution มากขึ้น” นายชนะ กล่าว

ในส่วนของสภาวิศวกร เป็นหน่วยงานที่เป็นตัวแทนของวิศวกรไทย ปัจจุบันมีสมาชิกร่วม 300,000 คน วัตถุประสงค์สำคัญของสภาวิศวกร คือ การสนับสนุนงานวิชาการและงานวิจัย ซึ่งปัจจุบันมีการแข่งขันด้านเทคโนโลยีกันอย่างรุนแรง แต่ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือแม้แต่ปัญหาสิ่งแวดล้อมก็จำเป็นต้องแก้ไขโดยเทคโนโลยี ด้วยเหตุนี้การพัฒนาอาชีพวิศวกรจึงมีผลกับทุกคน หากวิศวกรไทยเข้มแข็ง ก็สามารถพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีได้ และสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม มีรายได้กลับมาพัฒนาประเทศ สังคม และยังสามารถแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ มากมาย

ขณะที่ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกร เปิดเผยว่า ความร่วมมือกับ บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีการก่อสร้างของประเทศไทย ถือเป็นจุดประสงค์ร่วมกัน ซึ่งเอสซีจีเองเป็นหน่วยงานที่ให้ความสำคัญด้านนวัตกรรม ตรงนี้จะสามารถถ่ายโอนความรู้ และยังร่วมมือกันส่งสัญญาณไปถึงคณะวิศวกรรมทั่วประเทศ ว่าวันนี้เจ้าของผลิตภัณฑ์ กำลังมองการตลาดอย่างไร และสภาวิศวกรมีนโยบายสำคัญ ในการสร้างวิชาชีพนี้ให้ไปไกลแค่ไหน เราจะร่วมมือกันเพื่อยกระดับวิศวกรที่กำลังจะจบออกไปจากมหาวิทยาลัยด้วย

ทั้งนี้ การแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือ คือ การชดเชยด้วยนวัตกรรมของวัสดุ การร่วมมือของสภาวิศวกร และ บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด จึงมีผลต่อการสร้างวิศวกรรุ่นใหม่อย่างมาก โดยสภาวิศวกรจะมีบทบาทสำคัญ คือ การดึงภาคเอกชน ภาคอุตสาหกรรม เข้ามาให้ข้อมูลความรู้ และความร่วมมือ เพื่อโน้มน้าวให้มหาวิทยาลัยผลิตบัณฑิต ได้สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและความเปลี่ยนแปลงของโลก

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ลักขณา สุริยงค์

ลักขณา สุริยงค์

ทำหน้าที่สื่อมวลชนมาเกือบ 30 ปี ทั้งงานสายข่าวและจัดรายการทีวี-วิทยุมานับไม่ถ้วน "ไม่เป็นกลาง แต่เป็นธรรม พร้อมนำเสนอความจริง"