X

โครงการโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี เพื่อความมั่นคงไฟฟ้าภาคใต้ในอนาคต


ภาคใต้เป็นพื้นที่ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสวยงาม มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล  ภูเขา  ป่าไม้ เขื่อน  โบราณสถาน และสถานที่สำคัญทางศาสนา  หากเราเน้นไปที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ตอนกลางของภาค พบว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย ทั้งเกาะสมุย เกาะพงัน เกาะเต่า หมู่เกาะนางยวน ส่วนภูเขาก็มีทั้งเขาสก เขื่อนรัชชประภา ที่มีอ่างเก็บน้ำสวยงามมากแห่งหนึ่งของประเทศไทย คล้ายกับกุ้ยหลินของเมืองจีน ส่วนสถานที่สำคัญทางศาสนา เช่น สวนโมกข์พลาราม วัดพระธาตุไชยา  วัดหลวงพ่อพัฒน์ ที่โด่งดัง  เป็นจังหวัดที่มีอาหารทะเลหรือผลไม้ที่หลากหลาย เช่น เงาะ ทุเรียน มังคุดของ

อำเภอบ้านนาสาร เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย  ทรัพยากรทางธรรมชาติอันสมบูรณ์เหล่านี้ คือ สิ่งสำคัญที่จะทำให้จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีความเติบโตทางด้านการท่องเที่ยวตลอดมา และเป็นจุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด -19  ซึ่งแน่นอนว่า การท่องเที่ยวที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอุตสาหกรรม จะทำให้ปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นด้วย

เสริมความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าให้ภาคใต้ในอนาคต  

หากเราพูดถึงไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ พบว่า ปัจจุบัน ความต้องการใช้ไฟฟ้าของภาคใต้มีมากกว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าจากแหล่งผลิตในภาคใต้รวมกัน ทำให้ต้องอาศัยแหล่งผลิตไฟฟ้าจากภาคกลางส่งไปเสริมระบบเพื่อให้ไฟฟ้ามีเพียงพอกับความต้องการ ซึ่งตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 (PDP2018) ได้กำหนดให้มี โรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ชุดที่ 1-2 เพื่อเสริมความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในภาคใต้ มีกำหนดจ่ายกระแสไฟฟ้าเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการ ชุดที่ 1 ใน พ.ศ.2570 และชุดที่ 2 พ.ศ.2572

‘โครงการโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ชุดที่ 1-2’ มีขนาดกำลังการผลิตชุดละ 700 เมกะวัตต์ สร้างขึ้นเพื่อทดแทน โรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานีเดิม ที่ถูกปลดออกจากระบบ เนื่องจากหมดอายุการใช้งาน  โดยมีแผนก่อสร้างบริเวณพื้นที่ของโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานีเดิม  ณ ตำบลเขาหัวควาย อำเภอพุนพิน เนื่องจากมีความพร้อมด้านพื้นที่และระบบสายส่งไฟฟ้า โครงการโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี จะช่วยเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าให้แก่พื้นที่ภาคใต้ ช่วยเสริมความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้าภาคใต้ในระยะยาว ลดความเสี่ยงไฟฟ้าดับ และลดการพึ่งพาพลังงานไฟฟ้าผ่านสายส่งเชื่อมโยงจากภาคกลางและประเทศมาเลเซีย

กฟผ. อยู่เคียงข้างคนไทยในทุกวิกฤต

ตลอดระยะเวลา 51 ปี ที่ กฟผ. ได้ดำเนินภารกิจผลิตไฟฟ้า และดูแลความมั่นคงในระบบไฟฟ้า เพื่อให้คนไทยมีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอ ควบคู่กับการดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม มาอย่างต่อเนื่อง และในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้ กฟผ. มีความห่วงใย ใส่ใจช่วยเหลือชุมชน ตลอดจนบุคลากรทางการแพทย์  โดยให้ความช่วยเหลือ และบรรเทาผลกระทบในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ สนับสนุนงบประมาณให้แก่โรงพยาบาล เพื่อนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์อนามัย ชุด PPE นอกจากนี้ กฟผ. ยังได้ประดิษฐ์นวัตกรรมที่ใช้ป้องกันการแพร่ระบาดของโรค เพื่อความปลอดภัยของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ ให้แก่โรงพยาบาลศูนย์หลักที่ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 อาทิ ตู้เก็บสิ่งส่งตรวจแรงดันบวกและแรงดันลบ และหน้ากากความดันบวกชนิดพกพา เป็นต้น นอกจากนี้ได้มอบถุงยังชีพ หน้ากากอนามัย และเจลอนามัย น้ำดื่ม ให้แก่ชุมชนรอบโรงไฟฟ้า และร่วมกับ อสม. ในพื้นที่เพื่อแจกจ่ายยา เยี่ยมเยียนชุมชน ช่วยเหลือกลุ่มผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียงอีกด้วย

ไฟฟ้าเพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว

แม้ว่าในปัจจุบัน  ความต้องการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้และจังหวัดสุราษฎร์ธานีไม่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  เริ่มคลี่คลาย  ความต้องการใช้ไฟฟ้าจะกลับมาเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากภาคใต้และจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว และการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม   การเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานีจึงมีความจำเป็น  เพราะการก่อสร้างโรงไฟฟ้าต้องใช้เวลาหลายปี  เมื่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศฟื้นตัว โรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานีก็พร้อมที่จะผลิตไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าของประชาชน ช่วยขับเคลื่อนภาคธุรกิจ ภาคการท่องเที่ยว และภาคอุตสาหกรรมของภาคใต้ที่เติบโตได้ทันเวลาพอดี

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ลักขณา สุริยงค์

ลักขณา สุริยงค์

ทำหน้าที่สื่อมวลชนมาเกือบ 30 ปี ทั้งงานสายข่าวและจัดรายการทีวี-วิทยุมานับไม่ถ้วน "ไม่เป็นกลาง แต่เป็นธรรม พร้อมนำเสนอความจริง"