X

ผู้ว่า กทม.ประกาศยืดปิด! 34 สถานที่เสี่ยง 3-31 พ.ค. หวั่น แพร่โควิด-19

กรุงเทพฯ – ผู้ว่า กทม. ประกาศปิดสถานที่เสี่ยง 34 ประเภทกิจการ เสี่ยงแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ 3-31 พ.ค. ส่วนกิจกรรมที่ผ่อนคลาย ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดเคร่งครัด

วันที่ 2 พฤษภาคม 2563 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แจ้งเรื่องการลงนามประกาศ ปิดสถานที่เสี่ยงเป็นการชั่วคราว ฉบับที่ 8 ตั้งแต่วันที่ 3-31 พฤษภาคม 2563 หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง พร้อมกำหนดมาตรการป้องกันโรค

ตามที่ วันนี้ (2 พ.ค.) คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร มีมติให้เปิดบางสถานที่และบางกิจกรรม ที่เคยมีประกาศสั่งปิดเป็นการชั่วคราวไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไม่ให้กลับเข้าสู่จุดวิกฤตอีกครั้ง จึงกำหนดมาตรการและข้อแนะนำสำหรับสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการ พนักงาน และผู้ใช้บริการ

ปิดสถานที่
♦โรงมหรสพ (โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงมหรสพ)

♦สถานบริการ ผับ บาร์ สถานบันเทิง และสถานการประกอบการคล้ายสถานบริการ

♦สวนน้ำ สวนสนุก

♦สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสำหรับเด็กในตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด

♦สวนสัตว์

♦สถานที่เล่นสเก็ต หรือโรคเลอร์เบรด หรือการเล่นอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

♦โต๊ะสนุกเกอร์ บิลเลียต

♦สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง หรือตู้เกม

♦ร้านเกม และร้านอินเทอร์เน็ต

♦สระว่ายน้ำสาธารณะ หรือกิจการอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

♦สนามชนไก่ และสนามซ้อมชนไก่

♦สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส

♦สถานที่จัดนิทรรศการ ศูนย์แสดงสินค้า และศูนย์ประชุม

♦พิพิธภัณฑ์

♦ห้องสมุดสาธารณะ ห้องสมุดชุมชน ห้องสมุดเอกชน และบ้านหนังสือ

♦สถานรับเลี้ยงเด็ก

♦สถานดูแลผู้สูงอายุ

♦สนามมวยและโรงเรียนสอนมวย

♦โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ (ยิม)

♦สถานที่สัก หรือเจาะผิวหนังหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย

♦สถาบันลีลาศ หรือสอนลีลาศ

♦สนามม้า

♦สถานประกอบกิจการอาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมันไพร

♦สถานประกอบกิจการอาบ อบ นวด

♦ศูนย์พระเครื่อง

♦สถานที่ให้บริการควบคุมน้ำหนัก คลินิกเสริมความงาม สถาบันเสริมความงาม และคลินิเวชกรรมความงาม

♦สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (ร้านสปา ร้านนวดเพื่อสุขภาพ ร้านนวดเพื่เสริมความงาม) สถานประกอบการนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า

♦สนามแข่งขันทุกประเภท

♦สถานที่แสดงมหรสพ สถานที่มีการแสดงการละเล่นสาธารณะ

♦สถานที่ให้บริการห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยง สถานที่จัดเลี้ยง รวมถึงสถานที่อื่นใดที่มีลักษณะเดียวกัน

♦ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้เฉพาะซูเปอร์มาเกต ร้านขายยา สินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ร้านขายปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ธนาคาร และที่ทำการหน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจเท่านั้น ส่วนแผนกร้านอาหารให้เปิดเฉพาะการนำกลับไปบริโภคที่อื่น

♦ร้านเสริมสวย แต่งผม หรือตัดผม เปิดได้เฉพาะกิจกรรม สระ ตัด ซอย แต่งผม และต้องไม่มีผู้นั่งรอในร้าน

♦สนามกีฬา เปิดได้เฉพาะกีฬาประเภทกลางแจ้งและตามกติกาสากล ผู้เล่นต้องมีระยะห่างทางสังคมและไม่คลุกคลีกันอยู่แล้ว เช่น เทนนิส ขี่ม้า ยิงปืน ยิงธนู และต้องไม่มีผู้ชมมาชุมนุมกันหรือเป็นการแข่งขัน สโมสร คลับเฮ้าส์ หรือร้านอาหารในบริเวณดังกล่าว

♦สวนสาธารณะ ลาน พื้นที่กิจกรรมสาธารณะ สถานที่ออกกำลังกาย สนามกีฬา ลานกีฬา ให้เปิดได้เฉพาะพื้นที่ดล่งแจ้งเพื่อการเดิน วิ่ง ขี่ ปรือปั่นจักรยาน หรือการออกกลังกายด้วยวิธีอื่นเป็นส่วนบุคคล โดยไม่มีผู้มาชุมนุมหรือเป็นการแข่งขัน การละเล่น การแสดง

สถานที่เปิดได้  

♦ร้านอาหารและเครื่องดื่ม (เฉพาะที่อยู่นอกห้างสรรพสินค้า/ศูนย์การค้า/คอมมูนิตี้มอลล์) ส่วนนั่งทาน โดย
(1) ต้องเว้นระยะห่างระหว่างที่นั่งของแต่ละคนไม่น้อยกว่า 1 เมตร กรณีระยะห่างระหว่างที่นั่ง 1-1.5 เมตร ต้องมีฉากกั้น ส่วนกรณีระยะห่างระหว่างที่นั่งมากกว่า 1.5 เมตร ไม่ต้องมีฉากกั้น

(2) ห้ามไม่ให้มีการนั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดในร้าน

♦รถเข็น หาบเร่ แผงลอย

♦ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ เฉพาะ
(1) ซูเปอร์มาร์เก็ต
(2) ร้านขายยา
(3) ร้านขายของใช้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต
(4) ร้านขายปลีกธุรกิจสื่อสารและโทรคมนาคม
(5) ธนาคาร
(6) ที่ทำการหน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจ
(7) ร้านอาหาร เฉพาะซื้อไปทานที่อื่น

♦ร้านค้าปลีก/ค้าส่งขนาดย่อม

♦ร้านค้าปลีก/ค้าส่งชุมชน

♦ตลาดสด ตลาดน้ำ และตลาดนัด

♦ร้านเสริมสวย เฉพาะตัด สระ และไดร์

♦สนามกอล์ฟหรือสนามฝึกซ้อมกอล์ฟ

♦สนามเทนนิส ขี่ม้า ยิงปืน และยิงธนู

♦สวนสาธารณะ

♦ลานกีฬากลางแจ้ง เฉพาะเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือการออกกำลังกายเฉพาะส่วนบุคคล

♦ร้านอาบน้ำ ตัดขน สปา รับเลี้ยง และรับฝากสัตว์

♦โรงพยาบาล คลินิก สถานทันตกรรม หรือสถานพยาบาลทุกประเภท ยกเว้นคลินิกเวชกรรมเสริมความงาม

ทั้งนี้ กทม. ได้ออกคู่มือแนวทางมาตรการผ่อนปรนให้แก่ 8 กลุ่มกิจกรรม-กิจการดังกล่าว ที่จะเริ่มเปิดให้บริการวันที่ 3 พฤษภาคมนี้

สถานที่อื่นนอกเหนือจากประกาศนี้ ให้ผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนด ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามอาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิด ตามพระราชกำหนดว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3-31 พฤษภาคม 2563 หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ประกาศ ณ วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ.2563

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ลักขณา สุริยงค์

ลักขณา สุริยงค์

ทำหน้าที่สื่อมวลชนมาเกือบ 30 ปี ทั้งงานสายข่าวและจัดรายการทีวี-วิทยุมานับไม่ถ้วน "ไม่เป็นกลาง แต่เป็นธรรม พร้อมนำเสนอความจริง"