X

สธ.ชง คลายล็อกดาวน์ล็อตแรก 32 จังหวัด เงื่อนไข 5 ข้อ เว้น กทม.ปริมณฑล

นนทบุรี – สาธารณสุข สรุปข้อเสนอผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ จัดกลุ่มจังหวัดตามความเสี่ยงต่ำ ปานกลาง สูง โดยจะเปิดห้าง ร้านตัดผม ให้คนกลับมาทำงาน เริ่มต้นพฤษภาคมนี้ 32 จังหวัด ก่อนทยอยเปิดอีกใน 38 จังหวัด ขณะที่ 7 จังหวัด กทม. ปริมณฑล รอ มิ.ย.

วันที่ 20 เมษายน 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมร่วมกัน ระหว่างผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพื่อหารือแนวทางการผ่อนปรนมาตรการปิดสถานที่ต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

นายแพทย์คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ที่ปรึกษาด้านวิชาการ รมว.สาธารณสุข ด้านการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมเห็นตรงกัน ถึงการผ่อนปรนมาตรการเพื่อให้ประชาชนทั่วไปและภาคธุรกิจ สามารถไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยพิจารณาจากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ที่พบว่า ตั้งแต่วันที่ 14 เมษายน มีพื้นที่ 32 จังหวัด ไม่มีการระบาดมานาน 2 สัปดาห์ ถือเป็นการพบผู้ติดเชื้อระดับต่ำ กลุ่มนี้จะสามารถผ่อนปรนมาตรการได้ก่อน อาจจะทดลองใน 3-4 จังหวัด ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้

จากนั้นหาก 2 สัปดาห์ สถานการณ์ดีก็จะพิจารณาเพิ่มจังหวัดที่มีการติดเชื้อประปรายในรอบ 2 สัปดาห์ อีก 38 จังหวัด คาดว่าจะเป็นกลางเดือนพฤษภาคม

ส่วนที่เหลืออีก 7 จังหวัด ที่พบการติดเชื้อต่อเนื่อง แต่ไม่มีการระบาดใหญ่ คาดว่าจะสามารถผ่อนปรนเปิดจังหวัดได้ ประมาณต้นเดือนมิถุนายน แต่ต้องทำอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดใหม่ในระลอก 2-3

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เสนอความคิดเห็น แนวทางการผ่อนปรนมาตรการ รวม 5 ข้อ ดังนี้

1.มาตรการการคัดกรองคนเข้าประเทศ ยังคงมีไว้อย่างเข้มงวด ซึ่งหากมีคนกลับมา จะต้องกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ส่วนในพิ้นที่ต่างจังหวัด จะต้องมีการค้นหา กลุ่มคนที่มีความเสี่ยง อาทิ ภายในชุมชน แรงงาน ต่างชาติ

2.ประชาชนทุกคนยังต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา และเว้นระยะห่าง งดการชุมนุมในจำนวนที่มีคนหมู่มาก แม้ว่าขณะนี้ไทยจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดี

3.ภาคธุรกิจ ที่ขณะนี้มีคนตกงานตประมาณ 7-10 ล้านคน ล่าสุด อยู่ระหว่างการหารือร่วมกัน เพื่อปรับแนวทางการทำงาน เบื้องต้น จะมีการประเมินว่ากิจการประเภทใด เป็นประเภทกิจการเสี่ยงสูง เสี่ยงกลาง เสี่ยงต่ำ โดยยึดจากเกณฑ์ เช่น ความหนาแน่นของบุคคลที่ไปใช้บริการ ยิ่งหนาแน่นมาก จะยิ่งมีความเสี่ยงมาก เช่น กิจกรรมที่มีการตะโกน, ร้องเชียร์ จะถือเป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง เพราะการระบาดจะเกิดขึ้นผ่านละอองฝอยน้ำลาย และการถ่ายเทของอากาศของสถานที่นั้น ๆ

4.กิจการที่มีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาด อาทิ สถานบันเทิง คาราโอเกะ และสนามพนันต่าง ๆ จะต้องปิดระยะยาว ก่อนจะพิจารณาผ่อนปรน เปิดให้บริการกิจการประเภทความเสี่ยงต่ำและเสี่ยงกลาง เพื่อให้กิจการต่าง ๆ เดินหน้าได้ กิจการประเภทความเสี่ยงต่ำ เช่น ร้านอาหาร ร้านตัดผม ส่วนกิจการประเภทความเสี่ยงกลาง เช่น ห้างสรรพสินค้า แต่ทั้งนี้จะต้องออกแบบมาตรการควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการ เพื่อลดจำนวนความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย

5.การเฝ้าระวังแบบเรียลไทม์ (ทันท่วงที) คือ จะต้องติดตามสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่ หากเกิดการแพร่ระบาดอีกครั้ง จะได้สามารถติดตามสถานการณ์ได้ทัน

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ลักขณา สุริยงค์

ลักขณา สุริยงค์

ทำหน้าที่สื่อมวลชนมาเกือบ 30 ปี ทั้งงานสายข่าวและจัดรายการทีวี-วิทยุมานับไม่ถ้วน "ไม่เป็นกลาง แต่เป็นธรรม พร้อมนำเสนอความจริง"