X

พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 2 คน เป็นชายไทยกลับจากอิตาลี

นนทุบรี – กระทรวงสาธารณสุข พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 2 คน กลับจากทำงานที่อิตาลี ส่งผลยอดสะสมเพิ่มเป็น 50 คน สถานการณ์ไทยเป็นอันดับที่ 25 ของโลก ส่วนผลตรวจแรงงงานไทยจากเกาหลีไม่พบเชื้อ วอนเข้าใจ มาตรการคุมเข้มขณะนี้ อาจกระทบความสะดวกสบาย

วันที่ 7 มีนาคม 2563 นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นำคณะแถลง สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ประจำวัน ว่า พบผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 เพิ่ม 2 คน อยู่ในกลุ่มคนไทยที่เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิตาลี ซึ่งมีทั้งหมด 6 คน โดยในกลุ่มนี้ พบป่วยแล้ว 3 คน รายแรกเป็นผู้ป่วยรายที่ 45 (แถลงเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2563) ส่วนอีก 2 คนเป็นผู้ป่วยรายใหม่ของวันนี้ อีก 3 คนตรวจทางห้องปฏิบัติการ ยังไม่พบเชื้อ อยู่ในระบบเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรคแล้ว

รายที่ 1 เป็นชายชาวไทย อายุ 40 ปี อาชีพพนักงานบริษัท เริ่มป่วยเมื่อ 5 มี.ค. เข้ารับรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ด้วยอาการไข้ ส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลราชวิถี ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิดทั้ง 4 คนในครอบครัว ไม่มีอาการป่วย ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อ

รายที่ 2 เป็นชายชาวไทย อายุ 40 ปี อาชีพพนักงานบริษัท มารับการตรวจที่สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค ด้วยอาการเจ็บคอ ไม่มีไข้ ส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ไม่มีผู้สัมผัสใกล้ชิด

ขณะนี้ มีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 31 คน ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 18 คน เสียชีวิต 1 คน จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสม 50 คน ทั้งนี้ สถานการณ์ของโรคโควิด-19 ประเทศไทยอยู่ลำดับที่ 25 ของโลก

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า สำหรับหญิงไทยอายุ 30 ปี ที่เป็นแรงงานนอกระบบจากเกาหลีใต้ ตรวจพบอาการไข้ได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อ 5 มี.ค ผลการตรวจซ้ำทางห้องปฏิบัติการทั้ง 2 แห่งไม่พบเชื้อ ส่วนผู้ป่วยอาการหนัก 1 คน รักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ตรวจไม่พบเชื้อแล้ว แต่อาการยังอยู่ในภาวะวิกฤติ

อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขยังคงเข้มระบบคัดกรองคนเข้าประเทศอย่างต่อเนื่อง ผลการคัดกรองทุกด่าน ทั้งด่านท่าอากาศยาน ท่าเรือ พรมแดนทางบก และตรวจคนเข้าเมือง เฉพาะวันที่ 5 มี.ค. คัดกรองไปแล้ว 79,669 คน สะสมตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.-6 มี.ค.2563 รวม 4,358,884 คน เป็นผู้อยู่ในข่ายเฝ้าระวัง 4,234 คน

พร้อมชี้แจง มาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการในช่วงนี้ อาจกระทบต่อความสะดวกสบาย ในการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน เช่น การเดินทาง การกักกันตนเองที่บ้าน การลดกิจกรรมทางสังคม พบแพทย์ทันทีเมื่อป่วย และการเลือกใช้หน้ากากอนามัยให้เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยของคนในประเทศ ลดความเสี่ยงที่เกิดการแพร่กระจายเชื้อในวงกว้าง

กระทรวงสาธารณสุข ได้เพิ่มช่องทางให้ความรู้ ให้คำปรึกษา ทั้ง Twitter , Facebook, Line official, Tik Tok “ไทยรู้สู้โควิด” และ Line official ChatBot 1422 “Kor-Ror-OK” ขอความร่วมมือเลือกใช้ช่องทางดังกล่าวแทนสายด่วน 1422 เพื่อการเข้าถึงข้อมูล ซึ่งขณะนี้มีผู้ใช้บริการในบางวันเกือบ 2,000 สายต่อวัน ข้อมูลตั้งแต่ 1 ม.ค.-7 มี.ค. มีประชาชนสนใจสอบถามขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องโรคนี้เกือบ 20,000 สาย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ลักขณา สุริยงค์

ลักขณา สุริยงค์

ทำหน้าที่สื่อมวลชนมาเกือบ 30 ปี ทั้งงานสายข่าวและจัดรายการทีวี-วิทยุมานับไม่ถ้วน "ไม่เป็นกลาง แต่เป็นธรรม พร้อมนำเสนอความจริง"