ฮ่องกง – ชายชาวฮ่องวัย 39 ปี เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ รายแรกของฮ่องกง และเป็นรายที่สอง นอกจีนแผ่นดินใหญ่
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 สำนักข่าวซินหัวรายงาน โฆษกประจำโรงพยาบาลพรินเซสส์ มาร์กาเร็ต ซึ่งตั้งอยู่ในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เปิดเผยว่า ผู้ป่วยคนดังกล่าวเป็นชาวฮ่องกงที่มีโรคประจำตัว ได้รับการยืนยันผลเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสฯ รายที่ 13 ของฮ่องกง เมื่อ 31 ม.ค. โดยถูกคัดแยกและรักษาตัวที่โรงพยาบาลฯ ก่อนเสียชีวิตในช่วงเช้าวันนี้ (4 ก.พ.) หลังอาการทรุดลง
รายงานระบุว่า ชายผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ในหว่องโป การ์เดน ย่านที่พักอาศัยส่วนบุคคลในเกาลูน มีประวัติโดยสารรถไฟความเร็วสูง จากฮ่องกงไปยังนครอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของจีน เมื่อ 21 ม.ค. และจากนครฉางซา มณฑลหูหนาน กลับมาฮ่องกง เมื่อ 23 ม.ค.
ผลการสอบสวนจากศูนย์การป้องกันสุขภาพ (CHP) ของฮ่องกง พบว่า เขาไม่เคยเดินทางไปยังสถานดูแลสุขภาพ ตลาดสด หรือตลาดอาหารทะเล และไม่เคยสัมผัสใกล้ชิดสัตว์ป่าในช่วงเชื้อไวรัสฯ ฟักตัวเลย โดยเขาเข้าพบแพทย์เมื่อ 31 ม.ค. หลังมีอาการไข้และปวดเนื้อปวดตัว
สำหรับผู้ที่มีประวัติติดต่อใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิต ประกอบด้วย แม่ ภรรยา ลูกสาว ลูกชาย และแม่บ้าน ได้รับการนำตัวส่งศูนย์กักกันโรค เพื่อสังเกตการณ์ทางการแพทย์ โดยแม่ของเขา วัย 72 ปี เป็นผู้ติดเชื้อไวรัสฯ รายที่ 15 ของฮ่องกง
วานนี้ (3 ก.พ.) แคร์รี แลม ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เพิ่งประกาศปิดด่านที่ติดกับจีนแผ่นดินใหญ่ เพิ่มอีก 4 จุด มีผลตั้งแต่วันนี้ (4 ก.พ.) เป็นต้นไป เพื่อลดจำนวนประชาชนที่เดินทางผ่านระหว่างเขตแดน และยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ซึ่งรวมถึงจุดควบคุมท่าเรือข้ามฟากฮ่องกง-มาเก๊า โดยเริ่มปิดให้บริการเมื่อเวลา 24.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันอังคาร (4 ก.พ.)
ทำให้เหลือด่านเชื่อมจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง เพียง 3 จุดที่ยังคงเปิดให้บริการ ได้แก่ อ่าวเซินเจิ้น สะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า และท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง
ข้อมูลจากศูนย์ป้องกันสุขภาพ สังกัดหน่วยงานสาธารณสุขของรัฐบาลฮ่องกง ระบุว่า มีผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันผลว่า ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในฮ่องกงทั้งหมด 15 คนและมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย
