กรุงเทพฯ – ข่าวปลอม! เชื้อไวรัสโคโรนาทำพิษ ชาวจีนล้มกลางสุวรรณภูมิ ที่แท้เมาตกเก้าอี้ ส่วนหญิงจีนตายปริศนาคาห้องพัก เชียงใหม่ ไม่มีอาการส่อติดเชื้อ แต่ดื่มเหล้าจัดตั้งแต่บ่าย
วันที่ 29 มกราคม 2563 ตามที่มีการส่งต่อ (แชร์) กันทางโซเชียลมีเดีย ภาพชายชาวจีนอยู่ดี ๆ ล้มตึงต่อหน้าต่อตา ที่บริเวณชั้น 3 สนามบินสุวรรณภูมิ แต่เจ้าหน้าที่ รปภ.ห้ามถ่ายภาพ ทำให้มีผู้ปล่อยข่าวลวงว่า เกี่ยวข้องกับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่ทำให้ชายคนดังกล่าวล้มลง
ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ตรวจสอบข้อเท็จจริงจาก สํานักงานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ถูกกล่าวถึง พบว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จ
น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชี้แจงว่า ชายที่นอนกับพื้นเป็นชาวจีน ที่เมาสุราแล้วนั่งหลับตกเก้าอี้ เหตุเกิดเมื่อ 01.22 น. วันที่ 27 ม.ค.63 ส่วนสาเหตุที่เจ้าหน้าห้ามถ่ายภาพ เป็นเพราะบริเวณดังกล่าวเป็นเขตการบิน ซึ่งตามระเบียบห้ามไม่ให้ถ่ายภาพอยู่แล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
ดังนั้น ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง เกี่ยวกับสถานการณ์ของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ จากกรมควบคุมโรค สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://ddc.moph.go.th/index.php หรือโทร. 1422 ได้ตลอด 24 ชม.
ส่วนกรณี หญิงสาวชาวจีนวัย 32 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องพัก ของรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ใน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ น.พ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงว่า จากการซักประวัติเบื้องต้น ผู้ตายมีประวัติเดินทางมาจากเมืองกวางโจว เมื่อวันที่ 28 ม.ค. โดยไม่มีอาการผิดปกติ ไม่มีอาการไอ ไม่มีน้ำมูก ไม่หอบเหนื่อย ไม่มีไข้มาก่อน ซึ่งไม่เข้าเกณฑ์ต้องสอบสวนโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาฯ แต่ได้ดื่มสุราหนักตั้งแต่ช่วงเย็นเมื่อวาน แล้วเข้านอนประมาณ 3-4 ทุ่ม ช่วงเช้าวันนี้ พบนอนหมดสติอยู่ในห้อง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ และอาการป่วยที่ไม่ชัดเจน ประกอบกับเดินทางมาจากเมืองที่มีการประกาศเฝ้าระวังฯ จึงต้องจัดเจ้าหน้าที่ลงปฏิบัติงานตามแนวทางการป้องกันโรคที่ได้วางไว้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติ และต้องตรวจชันสูตรหาสาเหตุตามขั้นตอน คาดว่าจะรู้ผลใน 2 วันนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: