กรุงเทพฯ – เสร็จสมบูรณ์แล้ว 4 สนาม ที่จะใช้ในการแข่งขันฟุตบอลรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมส่งมอบให้ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย เข้าจัดการแข่งขัน
6 มกราคม 2562 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า สนามประจำ สำหรับการแข่งขันฟุตบอลรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย ทั้ง 4 สนาม ประกอบดวย สนามราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพฯ, สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (รังสิต) ปทุมธานี, สนามกีฬาติณสูลานนท์ สงขลา และสนามบุรีรัมย์ สเตเดี้ยม บุรีรัมย์ ขณะนี้ได้รับการปรับโฉม จนเสร็จสมบูรณ์พร้อมทำการแข่งขันแล้ว ขอขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชนทุกหน่วยงาน ของทุกสนาม ที่ผลักดันให้ประสบความสำเร็จ และถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี ที่เราได้แสดงศักยภาพของการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลระดับเอเชียได้สำเร็จ
“เรามุ่งมั่นที่จะให้รายการนี้ เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงสนามกีฬาของประเทศไทย ไปในทางที่ดีเข้าระดับมาตรฐานของทวีป และถือเป็นการเริ่มต้นกระจายฟุตบอลระดับนานาชาติไปสู่ต่างจังหวัด เพื่อให้คนทั้งประเทศได้แสดงศักยภาพ” พล.ต.อ.สมยศ กล่าว
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย (AFC U23 Championship Thailand 2020) ในรอบแบ่งกลุ่ม 4 สาย มีดังนี้
กลุ่มเอ (สนามราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพฯ) : ไทย, อิรัก, ออสเตรเลีย, บาห์เรน
กลุ่มบี (สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานี) : กาตาร์, ญี่ปุ่น, ซาอุดีอาระเบีย, ซีเรีย
กลุ่มซี (สนามติณสูลานนท์ จ.สงขลา) : อุซเบกิสถาน, เกาหลีใต้, จีน, อิหร่าน
กลุ่มดี (สนามช้าง อารีนา จ.บุรีรัมย์) : เวียดนาม, เกาหลีเหนือ, จอร์แดน, ยูเออี
ผู้ที่สนใจเข้าชม ซื้อบัตรได้ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ bit.ly/AFCU23
และร่วมชมพิธีเปิดการแข่งขัน ในวันที่ 8 มกราคมนี้
