กฟผ. ผู้คืนชีพให้โรงไฟฟ้าแบบครบวงจร เพราะที่นี่.. ไม่มีคำว่า “ทำไม่ได้”

การผลิตกระแสไฟฟ้าให้เราได้ใช้กันในชีวิตประจำวันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย กว่าจะเป็นโรงไฟฟ้า กว่าจะสามารถเดินเครื่องได้กระแสไฟฟ้าออกมา ต้องมีส่วนประกอบต่าง ๆ มากมาย ทั้งชิ้นส่วนเล็กจิ๋ว ฟันเฟือง กระทั่งส่วนที่ใหญ่โตเท่าตึกหลายชั้น แต่ถ้าชิ้นส่วนใดเกิดชำรุด เสียหาย แม้แต่น้อยนิด ส่งผลให้ประสิทธิภาพการผลิตลดลง ทำให้งานบำรุงรักษาโรงไฟฟ้ามีความจำเป็น เพื่อการซ่อมแซม เปลี่ยนแปลงอะไหล่ จึงเป็นของคู่กันตลอดการใช้งาน
ศูนย์ซ่อมและผลิตอะไหล่โรงไฟฟ้าแบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน
การสั่งสมประสบการณ์มานานกว่า 50 ปี ตามอายุของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ด้านงานวิศวกรรมการซ่อม ผลิตอะไหล่ และงานบริการทดสอบ ด้านเครื่องกล จนถึงงานบริหารอะไหล่โรงไฟฟ้าแบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ด้วยองค์ความรู้เฉพาะทางของ ฝ่ายโรงงานและอะไหล่  รวมถึงเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่ทันสมัย เทคโนโลยีชั้นสูง และการมีโรงงานขนาดใหญ่ ไม่ใช่เพียงเพิ่มประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าของ กฟผ.เท่านั้น แต่ยังพร้อมให้บริการภาคเอกชนทั่วไปอย่างครบวงจร สามารถเพิ่มโอกาสในการผลิตไฟฟ้าให้มั่นคง เพื่อให้ทุก ๆ เมกะวัตต์ ของการผลิตไฟฟ้า มีคุณภาพที่ดี มั่นคง
จุดเด่นนี้ ทําให้ธุรกิจงานบํารุงรักษาโรงไฟฟ้า ของ กฟผ. มีกลุ่มลูกค้าจากภายนอก ทั้งโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) โรงไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) โรงไฟฟ้าอื่น ๆ ทั้งในประเทศ และภูมิภาคอาเซียนอย่าง สิงคโปร์ สปป.ลาว เวียดนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ให้ความไว้วางใจเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในฐานะผู้นำด้านการซ่อมและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า ผู้คืนชีพโรงไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียน
คุณชัช ศรีถนอมวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายโรงงานและอะไหล่ สํานักงานหนองจอก กฟผ. กล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า การเป็นทั้งศูนย์ซ่อม ผลิตอะไหล่ได้เอง และงานบริการทดสอบด้านเครื่องกล งานบริหารอะไหล่โรงไฟฟ้าแบบครบวงจรของ ฝ่ายโรงงานและอะไหล่ สํานักงานหนองจอก กฟผ.นี้ จึงถือได้ว่าเป็น ‘ผู้คืนชีพให้แก่อะไหล่โรงไฟฟ้า’ ทุกประเภท รองรับงานซ่อมและผลิต ทดสอบวัสดุและเครื่องจักร บริหารอะไหล่โรงไฟฟ้า ในกรณีฉุกเฉินได้ทันสถานการณ์ รวดเร็ว สามารถนําอะไหล่กลับเข้าใช้งานได้ทันที ทำให้ไม่เสียโอกาสทางธุรกิจ  ปัจจุบัน สามารถผลิตอะไหล่ขึ้นใหม่ หรือซ่อมอะไหล่ที่ชํารุดเสียหายทั้งหมด ได้ที่ศูนย์ฯแห่งนี้ แบบครบวงจร ไม่ต้องส่งไปซ่อมหรือผลิตอะไหล่ยังต่างประเทศ จึงลดระยะเวลาและลดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้มาก
คุณชัช ศรีถนอมวงศ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า การเป็นผู้คืนชีพให้แก่อะไหล่โรงไฟฟ้า คือ การทําให้อะไหล่โรงไฟฟ้ากลับมาใช้งานได้เหมือนปกติ ส่งผลให้โรงไฟฟ้าสามารถเดินเครื่องได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง เช่น การทํา Comprehensive Rotor Inspection (CRI) เป็นการถอดชิ้นส่วนของอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าประเภท Gas Turbine Rotor ออก เพื่อประเมินและตรวจสอบสภาพอุปกรณ์ทั้งหมดทุกชิ้นส่วน ซึ่งการตรวจสอบ Gas Turbine Rotor ที่มีน้ำหนักมากถึง 100 ตัน ไม่สามารถถอดในแนวราบได้ ต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะที่ฝ่ายโรงงานและอะไหล่สร้างขึ้นมา เพื่อแยกชิ้นส่วน ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสอบ และเปลี่ยนชิ้นส่วน โดยได้การรับรองคุณภาพมาตรฐานการซ่อมบำรุงด้วย Certificate of Qualifications จากบริษัท Mitsubishi Hitachi Power Systems (MIPS) ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ฝ่ายโรงงานและอะไหล่ กฟผ. เป็นผู้นําด้านการทํา CRI อย่างแท้จริง

นอกจากการทํา CRI แล้ว ฝ่ายโรงงานและอะไหล่ยังให้บริการ งานทดสอบวัสดุและเครื่องจักร ด้วยเทคนิคที่หลากหลาย เช่น การวิเคราะห์การสั่นสะเทือนด้วยเสียง, การวิเคราะห์หาความแตกต่างของอุณหภูมิ ด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรด และบริการงานบริหารอะไหล่เครื่องกังหันก๊าซ ด้วยเทคโนโลยี Smart Warehouse ซึ่งช่วยในการบริหารจัดการ การจัดเก็บ ค้นหา ควบคุมและติดตามอะไหล่

ในอนาคต ฝ่ายโรงงานและอะไหล่ พร้อมเดินหน้ารุกธุรกิจงานซ่อม ผลิตอะไหล่ และงานบริการทดสอบด้านเครื่องกล งานบริหารอะไหล่โรงไฟฟ้าแบบครบวงจร โดยจะมีโครงการปรับปรุงฝ่ายโรงงานและอะไหล่ ในปี 2563 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการซ่อม ผลิตอะไหล่ งานบริการทดสอบเครื่องกล และงานบริหารอะไหล่ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ด้วยทีมงานที่เชี่ยวชาญ มากประสบการณ์ และเป็นมืออาชีพ เพราะที่นี่.. ไม่มีคำว่า “ทำไม่ได้”