“กัญจนา ศิลปอาชา “หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาพาขุนพลภาคใต้เยือนถิ่นลุงกำนัน หยอดลูกอ้อนขอเสียงชาวสุราษฎร์ฯย้ำ”ลูกพ่อบรรหารพูดจริงทำจริง ไม่พูดพล่อยๆ แก้ปัญหายางปาล์ม วอนขอโอกาสปักธงในภาคใต้

เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ ( 6 มีนาคม 2562 )นางสาว กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาพร้อมด้วยนายธีระ วงศ์สมุทร ที่ปรึกษาพรรคฯ/นายสัมพันธ์  แป้นพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค ฯ/นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคฯ และนายวราวุธ  ศิลปอาชา น้องชายในฐานะ ประธานคณะกรรมการการนโยบายและยุทธศาสตร์ของพรรค ลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี นำผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 6 เขตเลือกตั้งพรรคชาติไทยพัฒนาประกอบด้วยเขต 1 นายสมคิด กษมาพันธุ์ เขต 2 นายเจริญ จันทรา เขต 3 นายสุรัช ตันจรูญ เขต 4 นายนพพล   รักษ์ณรงค์ เขต 5 นายสวัสดิ์ วิเชียรพร เขต 6 นายพิสัณห์ ทองโมถ่าย
สักการะศาลหลักเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ด้วยธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม ทองคำเปลว ดอกบัว 2 ดอก พวงมาลัย 2 พวง ผ้าแพร 3 สี 1 ชุดแล้วปิดทอง ผูกผ้าแพรที่องค์พระหลักเมือง ถวายพวงมาลัยองค์เทพารักษ์ทั้ง 5และลั่นฆ้อง 3 ครั้งขอพรศักดิ์สิทธิ์จากศาลหลักเมือง ก่อนที่จะขึ้นรถแห่ของผู้สมัครขอคะแนนเสียงจากประชาชาชาวเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีให้กับผู้สมัคร ทั้ง 6 เขตเลือกตั้งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี

และช่วงก่อนจะเข้าสักการะศาลหลักเมืองได้มีพ่อลูกชาวจังหวัดสุพรรณบุรีคู่หนึ่งที่มาประกอบอาชีพในจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มอบป้ายเขียนข้อความว่า”มาด้วยกันเลือดสุพรรณ”และข้อความภาษาอังกฤษว่า”HEART OF GOLD”

ซึ่งนางสาวกัญจนา รับและกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเองโดยผู้เป็นลูกชายถึงกับขอสวมกอดนายวราวุธ ด้วยความดีใจ

นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา  หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ได้อธิษฐานสักการะศาลหลักเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานีขอให้พรรคชาติไทยพัฒนา ได้มีโอกาสรับใช้ประชาชนชาวสุราษฎร์ธานีและอีกหลายจังหวัดของภาคใต้ ทั้ง 49 เขตที่พรรคชาติไทยพัฒนาได้ส่งผู้สมัคร

ต่อข้อถามที่ว่ามั่นใจมากน้อยแค่ไหนจะได้รับคะแนนเสียงเมื่อ จ.สุราษฎร์ธานีเป็นพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์กับพื้นที่ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทยมาก่อน นางสาวกัญจนา กล่าวว่า พยายามทำให้ดีที่สุดจะได้แค่ไหน ขึ้นอยู่กับชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ต่อเมื่อเวลา 11.30 น.วันเดียวกัน นางสาว กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นำทีมขุนพลของพรรค ขึ้นเวทีปราศรัยที่สนามข้างโรงแรมวังใต้ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี  ขอเสียงให้กับผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนาทั้ง 6 เขตเลือกตั้ง ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัด โดยทางผู้สมัครได้ติดตั้งเต๊นส์ขนาดใหญ่รองรับประชาชนที่มาฟังปราศรัยเกือบ 1,000 คน ท่ามกลางการอำนวยความสะดวกเรื่องการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานีอย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นพรรคแรกที่จัดเวทีปราศรัยช่วงกลางวันท่ามกลางสภาพอากาศแดดร้อนจัด

โดยนางสาวกัญจนา ศิลปอาชา   หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวปราศรัยมีใจความโดยสรุปว่า เวทีนี้จะไม่โจมตีใคร แต่เป็นการออดอ้อนขอเสียงชาวสุราษฎร์ธานีขอโอกาสให้พรรคชาติไทยพัฒนาซึ่งเป็นพรรคเก่าแก่อันดับ 2 รองจากพรรคประชาธิปัตย์ และขอพูดเรื่องนโยบายล้วน ๆ ที่จะทำให้กับชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานีและพี่น้องชาวภาคใต้ ยืนยันว่าตนเป็นลูกของพ่อบรรหาร พูดจริง ทำจริง ไม่พูดพล่อย ๆ โดยเฉพาะนโยบายด้านการเกษตรปัญหาเรื่องราคายาง /ราคาปาล์ม มอบหมายให้นายธีระ ใจสมุทร ที่ปรึกษาพรรคฯซึ่งเป็นคนภาคใต้กล่าวปราศรัย

นางสาวกัญจนา กล่าวปราศรัยประมาณ 10 นาที จากนั้นตามต่อด้วยนายวราวุธ  ศิลปอาชา   ประธานคณะกรรมการการนโยบายและยุทธศาสตร์ของพรรค กล่าวถึงนโยบายหลัก  7 ข้อของแต่ละกระทรวงฯ ประกอบด้วย 1.การเกษตรทันสมัย มีเงินใช้ทุกครัวเรือน2.ได้เรียนในสิ่งที่ใช่ ได้ใช้ในสิ่งที่เรียนไปเปลี่ยนไปตามการเมือง3.สร้างสวัสดิการให้ทุกวัย ใส่ใจกับผู้ด้อยโอกาส4.สร้างสุขภาพเชิงป้องกัน การหาหมอไม่รอนาน 5.เพิ่มงบ อปท.สานต่อท้องถิ่นเข้มแข็ง6.ทำไทยให้ยั่งยืน ฟื้นคืนสมดุลให้ทุกส่วน 7.เมืองสะดวกและปลอดภัย หายใจได้เต็มปอด

นายนิกร  จำนง ผู้อำนวยการพรรคฯ กล่าวปราศรัย ส่วนใหญ่เป็นการเล่าประวัติและเหตุผลที่อยู่กับพรรคชาติไทยพัฒนากับนายบรรหาร ศิลปะอาชามายาวนานกว่า 20 ปี ไม่หันเหไปทางพรรคเจ้าของพื้นที่ทางภาคใต้
และนายธีระ ใจสมุทร กล่าวปราศรัยเป็นคนสุดท้ายที่เน้นนโยบายด้านการเกษตรหลักคือยาง/ปาล์มน้ำมันและประมงชายฝั่งที่จะต้องก้าวทันกับต่างประเทศและราคาต้องสูงขึ้นกว่าปัจจุบัน เชื่อมั่นว่าพรรคชาติไทยพัฒนาต้องทำได้อย่างแน่นอน หากได้รับการเลือกตั้งและอยู่ซีกของรัฐบาล เพราะหากเป็นฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบอาจจะทำอะไรได้ไม่มากนัก พร้อมกับเล่าประวัติความเป็นมาของตัวเองว่าก่อนที่เข้าสู่เวทีการเมือง เคยดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมชลประทานมาก่อน นายบรรหาร เห็นความสำคัญประกอบกับตัวเองมีความศรัทธาในตัวนายบรรหารที่พูดจริงทำจริง จึงลาออกจากข้าราชการประจำ เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯทันที และทำงานกับนายบรรหารมาโดยตลอด จนคนส่วนใหญ่เข้าใจว่าตนเองเป็นคนสุพรรณบุรี

นอกจากแก้ไขปัญหาเรื่องปาล์มน้ำมันกับยางพาราแล้ว ทางพรรคชาติไทยพัฒนายังเห็นความสำคัญของประมงชายฝั่ง ที่จะต้องแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้ ให้ชาวประมงชายฝั่งอยู่ได้ไม่ถูกต่างชาติเอาเปรียบ
การเปิดเวทีปราศรัยของพรรคชาติไทยพัฒนาครั้งนี้เป็นการเปิดเวทีปราศรัยครั้งแรกที่หัวหน้าพรรคกล่าวปราศรัยท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัด โดยไม่มีพรรคไหนทำมาก่อน และมีคนให้ความสนใจจำนวนมาก มีทั้งที่เดินทางมาจากเกาะสมุย/เกาะพะงันและเกาะเต่าที่ตั้งใจเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาฟังการปราศรัยของหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาโดยเฉพาะ และหลังลงจากเวทีปราศรัยนางสาวกัญจนาพร้อมด้วยนายวราวุธ ยังได้เดินขอเสียงประชาชนที่มาฟังการปราศรัยอีกโดยมีชาวบ้านขอถ่ายภาพเซลฟี่เป็นที่ระลึกอีกด้วย ก่อนเดินทางไปปราศรัยที่จังหวัดนครศรีธรรมราชต่อไป