สุราษฎร์ธานี-เริ่มเข้าสู่หน้าแล้ง ช้างป่าจากอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นยกโขลง ลุยกินพืชสวนชาวบ้านเสียหายกว่า 100 ไร่ พังบ้านเสียหาย ชาวบ้านผวาหนักไม่กล้ากรีดยางยามค่ำคืน วอนหน่วยงานรัฐเร่งผลักดัน
นางอุไรวรรณ บรรดาศักดิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่าร่อน อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ม.3 บ้านหน้าเขาล่าง ต.ป่าร่อน ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ถูกช้างป่า มากกว่า 10 ตัวลงจากเขามากินยอดปาล์มน้ำมัน อายุระหว่าง 1-2 ปีเสียหายกว่า 200 ต้นในพื้นที่ประมาณ 11 ไร่เศษ และช้างยังได้พังบ้านพักอาศัยเสียหายทั้งหลังจำนวน 1 หลัง แปลงผักแตงกวาที่กำลังติดดอกออกผลเสียหายอีกหลายไร่
เจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบพบมูลช้างหรือขี้ช้างจำนวนมากและร่องรอยความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง พบกับ นายเอกชัย ไวยวิจิตร และภรรยาเจ้าของสวน โดยภรรยาระบุว่าพื้นที่สวนของตนเองเป็นพื้นที่ สปก. ได้ปลูกต้นปาล์มน้ำมันประมาณ 11 ไร่ ถูกโขลงช้างลงมาจากเขา ที่อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ใช้งวงดึงถอนและกัดกินหัวต้นปาล์มน้ำมัน เสียหายยับเยินทั้งหมด เหลือเพียงจำนวน 3 ต้นเสมือนให้เจ้าของดูต่างหน้า
นอกจากนั้นช้างยังได้ทำลายบ้านพักเสียหายทั้งหลัง ส่วนสามีตนนั้นโชคดีก่อนเกิดเหตุได้ออกไปทำธุระจึงปลอดภัยเมื่อกลับมาตอนเช้าพบว่าทั้งสวนและบ้านเสียหายไปหมดแล้ว
ด้านนางอุไรวรรณ บรรดาศักดิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่าร่อน กล่าวว่าโขลงช้างป่าได้ออกจากป่ามาหากินภายในพื้นที่ตำบลป่าร่อน ตำบลคลองสระ ตำบลช้างซ้ายติดต่อกันมานานกว่า 3 เดือน พืชสวนของเกษตรกรเสียหายไปกว่า 100 ไร่ มีชาวสวนถูกช้างทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัสไป 1 คน จึงวอนขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานให้ส่งกำลังมาช่วยผลักดันฝูงช้างกลับเข้าป่า และหาทางร่วมกันวางแผนป้องกันระยะยาวต่อไป
ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านหวาดกลัวหวาดผวาหนักหลายหมู่บ้านไม่กล้าออกไปกรีดยางในช่วงค่ำคืน เนื่องจากโขลงช้างเริ่มมีพฤติกรรมค่อนข้างดุร้ายพบคนหรือแสงไฟจะวิ่งเข้าใส่ และออกไปรื้อค้นหาของกินที่เป็น กะปิ น้ำปลา เกลือ ในบ้านเรือนของชาวบ้าน หากเข้าไปไม่ได้ก็จะทำลายตัวบ้าน
โดยส่วนหนึ่งที่ช้างป่าดุร้ายเพิ่มขึ้นนั้นอาจจะมาจากสาเหตุที่ชาวบ้านไม่เข้าใจในการไล่ต้อนช้างจึงใช้ปะทัดจุดไล่ จุดปะทัดลูกบอลและยิงปืน
