X

บิ๊กป้อมบินด่วน ! มอบถุงยังชีพผู้ประสบภัย อ.ท่าชนะ

สุราษฎร์ธานี-พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่สุราษฎร์ธานีติดตามบริหารจัดการน้ำและมอบถุงยังชีพผู้ประสบอุทกภัย อ.ท่าชนะ มี FC หยอดคำหวาน “ชาวท่าชนะรักลุงป้อม”

เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (13ธ.ค.64) ที่ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่ภาคใต้ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11  สุราษฎร์ธานี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเน้นย้ำแผนบริหารจัดการน้ำฤดูฝน และย้ำทุกหน่วยงานเร่งช่วยชาวใต้พ้นภัย ให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

ต่อมาเมื่อเวลา 11.10 น. ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์เดินทางไปยังหอประชุมเทศบาลตำบลท่าชนะ ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมพร้อมมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ตลาดท่าชนะ ตำบลสมอทอง อำเภอท่าชนะ  จำนวน 200 ชุด  โดยมีชาวท่าชนะชูป้ายเขียนข้อความหวานให้กำลังใจพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ อาทิ “ท่านประวิตร ผู้มีจิตเมตตาที่เมตตา ช่วยนำพาราคาปาล์มน้ำมัน” “ท่านประวิตร ชุบชีวิตเกษตรกร”  “ชาวท่าชนะรักลุงป้อม” เป็นต้น โดยพลเอกประวิตร กล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยมีใจความสรุปว่ารัฐบาลมีความเป็นห่วงเป็นใยประชาชนเป็นอย่างมาก ยืนยันจะให้ความช่วยเหลือและเยียวยาให้ครอบคลุมและดีที่สุด และตอนนี้ขอให้ระมัดระวังสภาพอากาศอีกระลอกอย่าประมาท

ส่วนเรื่องราคาปาล์มที่มีราคาดีในขณะนี้นั้นรองนายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า ทางรัฐบาล ได้ดำเนินการเรื่องปาล์มมาโดยตลอดและรู้สึกดีใจ ที่ราคาปาล์มในในปัจจุบัน ดีขึ้นเกษตรกรชาวสวนปาล์มมีรายได้มีฐานะที่ดีขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ขณะนี้ภาคใต้ของประเทศไทยยังได้รับอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนืออย่างต่อเนื่อง ทำให้มีฝนตกหนัก ส่งผลให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่หลายจังหวัดโดยเฉพาะจังหวัดชุมพร

สุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช ซึ่งรัฐบาลมีความห่วงใยและตระหนักถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย จึงได้ตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และที่ ศอ.บต. จังหวัดยะลาเพื่อคาดการณ์และแก้ไขปัญหาสถานการณ์น้ำได้อย่างทันท่วงที และรัฐบาลจะเร่งขับเคลื่อนแผนแม่บทน้ำ 20 ปี เพื่อให้แก้ไขปัญหาน้ำในทุกพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือดำเนินการ 3 ส่วนหลัก คือ 1.เร่งรัดบูรณาการให้ความช่วยเหลือ ซ่อมแซมบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของผู้ประสบภัย รวมทั้งเร่งสำรวจความเสียหาย ฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ  2.ให้ทุกหน่วยงานฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุ วางแผนการระบายน้ำพื้นที่ชุมชนควบคู่กับการวางแผนเก็บน้ำสำรองไว้รองรับในช่วงฤดูแล้งด้วย และ  3.เร่งรัดโครงการต่าง ๆ ที่ได้รับงบประมาณให้เสร็จโดยเร็ว โดยเฉพาะโครงการที่ได้รับงบกลางจากรัฐบาลให้สามารถช่วยเหลือ และลดผลกระทบให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุดและเร็วที่สุด

ด้าน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. กล่าวว่า   สถานการณ์น้ำท่วมและพื้นที่ประสบภัยพื้นที่ภาคใต้ ปัจจุบันพบว่า ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ 1 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวม 2 อำเภอ ได้แก่ อ.พุนพิน และ อ.บ้านนาเดิม ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งให้การให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการเร่งระบายน้ำเพื่อลดผลกระทบโดยเร็ว รวมถึงการมอบถุงยังชีพ รถผลิตน้ำดื่มเพื่อบรรเทาสาธารณภัย เป็นต้น

 

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานเกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ซึ่งตั้งแต่วันนี้ (13 ธ.ค.) -16 ธ.ค. 64 หย่อมความกดอากาศต่ำ กำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณเกาะบอร์เนียวจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังปานกลางตลอดช่วง ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งด้วย.

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน