X

ตำรวจยังไม่สรุปนาทีช็อก รถระเบิดบึ้มกลางสี่แยกรอตำรวจพิสูจน์หลักฐานและช่างชำนาญการ

จากเมื่อเมื่อเวลา 18.45 น.วันที่ 18 ก.ค. 62 ได้เกิดเหตุระทึกกลางแยกไฟแดง สะพาน 33 ต.ป่าตาล อ.เมือง ลพบุรี เมื่อรถยนต์เก๋งที่ขับมาจอดติดสัญญานไฟแดงเกิดระเบิดอย่างรุนแรง เสียงดังสนั่นหวั่นไหว แรงระเบิดเปิดหลังคารถ ประตูรถทั้ง 4 ด้าน กระเด็นไปไกลกว่า 50 เมตร และมีไฟลุกท่วมรถ ชาวบ้านที่ร่วมใช้เส้นทางขณะเดินกำลังเดินทางกลับบ้านต่างจอดรถวิ่งหลบหนีกันจ้าละหวั่น กู้ภัยฯ เร่งทำการดับเพลิงช่วยเหลือ นำตัวผู้ประสบภัยออกมาจากรถ เหลือเชื่อคนขับไม่มีแม้รอยถลอก ทั้งที่ไฟไหม้ศรีษะ และเสื้อผ้าจนกรอบ เชื่อบารมีรูปภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 ก้มกราบหลวงพ่อเกษม เขมโก ที่ติดบูชาไว้หน้ารถ

ประชาชนที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ในขณะที่รถติดสัญญานไฟสี่แยกสะพาน 33 จำนวนมาก รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน ษค-2597 กรุงเทพมหานคร ที่มีนายสมเดช โพธิ์แตง อายุ 39 ปี พนักงาน บริษัทฯ ขับมาจากวงเวียนศรีสุริโยทัย มุ่งหน้าสายป่าหวาย มาจอดติดสัญญานไฟแดงระหว่างกลางถนน จู่ๆ รถได้เกิดระเบิดอย่างรุนแรง เสียงดังสนั่นหวั่นไหว แรงระเบิดฉีกหลังคารถ ประตูรถทั้ง 4 ด้าน อุปกรณ์ภายในรถกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไกลกว่า 50 เมตร แต่กลับไม่โดนรถ โดนคนแม้แต่คนเดียว รวมถึงรถจักรยานยนต์อีกหลายคันที่จอดใกล้รถเกิดเหตุ มีชาวบ้านแค่หูอื้อจากเสียงระเบิดเท่านั้น

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเบื้องต้นพบว่ารถคันดังกล่าว เติมเชื้อเพลิง 2 ระบบ ทั้งน้ำมันเบนซิน และระบบแก็ส LPG ซึ่งอาจจะเกิดจากสายของแก็สชำรุด หรือการติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งคงต้องรอผลพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง ซึ่งร้อยเวรเจ้าของคดีได้เข้าไปสอบถามอาการจากผู้ที่ประสบเหตุ ที่ รพ.พระนารายณ์มหาราช ในเบื้องต้นพบมีไฟไหม้ติดเสื้อผ้า ลุกลามไปติดที่ศรีษะจนผมไหม้เกรียม และหูอื้อจากแรงระเบิด อาการอยู่ในขั้นปลอดภัย

ล่าสุดวันนี้ 20 ก.ค. 62 ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยัง พ.ต.ต. พัชรพล จารุพันธ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมือง ในวันเกิดเหตุ ซึ่งให้การว่า ขณะนี้ยังไม่สรุปถึงสาเหตุของการเกิดระเบิดได้ ต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และช่างชำนาญการการติดตั้งระบบแก๊สในรถยนต์ อีกครั้ง ซึ่งจะเริ่มตรวจสอบทั้งคันในวันอังคารที่ 30 ก.ค. นี้ ซึ่งอาจจะต้องเชิญช่างที่ติดตั้งระบบแก๊สรถคันดังกล่าวร่วมในการตรวจสอบด้วย

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายสมเดช โพธิ์แตง อายุ 39 ปี พนักงานบริษัท ซึ่งขณะนี้ออกจาก รพ.พระนารายณ์มหาราช ไปรักษาตัวต่อที่บ้านซึ่งอาการอยู่ในขั้นปลอดภัย แต่ต้องปิดตาเนื่องจากถูกไฟลวกเยื่อตา ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองซื้อรถมือสองคันดังกล่าวมาจากเพื่อนที่ จ.อยุธยา ในราคา 200,000 พร้อมหลักฐานการเปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิง LPG หรือ”ก๊าซปิโตเลียมเหลว” จากขนส่งเรียบร้อย โดยตนเองได้นำรถคันดังกล่าวมาขับได้ประมาณ 2 เดือนเศษ โดยไม่มีสัญญานใดๆ บ่งบอกว่าจะระเบิด

นายสมเดชเล่าต่ออีกว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองได้ไปเติมก๊าช จำนวน 500 บาทแล้วขับมาตามปกติ โดยไม่มีกลิ่นแก๊ส หรือเสียงรั่วซึม และตนเองก็ไม่ได้สูบบุหรี่ เมื่อเบรกจอดติดไฟแดงรถได้เกิดระเบิดอย่างรุนแรง หลังคารถ ประตูรถทั้ง 4 ด้านกระเด็นไปไกลกว่า 50 เมตร คิดว่าตัวเองไม่รอด หูอื้อ และถูกเปลวไฟลวกตามเสื้อผ้า ศรีษะ จนไหม้เกรียม จนมีชาวบ้านและกู้ภัยฯ เข้ามาช่วยเหลือ ตนเองก็ตอบไม่ถูกว่าเป็นเพราะดวงดี โชคช่วย หรือปาฎิหาริย์จากภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ก้มกราบหลวงพ่อเกษมที่ติดไว้ที่หน้ารถเพียงภาพเดียว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน