เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 6 ธ.ค. 61 ศูนย์วิทยุ 191 ลพบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่บ้านโคกขยาย หมู่ที่ 1 ต.ทะเลชุบศร อ.เมืองลพบุรี ว่าที่สำนักสงฆ์ วัดสิงหล มีพระทะเลาะกันเสียงดังลั่นไปทั่ววัด เกรงพระจะทำร้ายกันขอให้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ เร่งตรวจสอบให้ด้วย ศูนย์วิทยุ 191 ลพบุรี จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองลพบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้นำท้องถิ่น รุดลงพื้นที่ที่สำนักสงฆ์ดังกล่าว
ที่เกิดเหตุอยู่กุฎิหลังสำนักสงฆ์ พบมีชาวบ้านที่ทราบข่าว และได้ยินเสียงพระทะเลาะกัน ได้มายืนมุงดูอยู่จำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเข้าระงับเหตุไว้ได้ โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ได้สอบถามถึงสาเหตุที่ทำไมต้องทะเลาะกัน โดยหลวงตาอายุกว่า 70 ปี ซึ่งเป็นพระลูกวัด กล่าวว่าตนเองเป็นพระอาวุโสได้ออกไปเตือนพระลูกวัดคู่กรณี ถึงสาเหตุที่ทำไมถึงไม่จำวัด ซึ่งพระลูกวัดซึ่งเป็นหลวงพี่อีกฝ่ายได้ปฎิเสธ และไม่พอใจที่ถูกว่ากล่าวตักเตือน จนถึงขั้นท้าตี ท้าต่อยกันตัวต่อตัว โดยมีพระลูกวัด และชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับสำนักสงฆ์ ออกมาห้ามปรามเอาไว้ ไม่ให้เกิดเรื่องบานปลาย และได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมาระงับเหตุดังกล่าว
หลังจากเหตุการณ์สงบ ผู้สื่อข่าวได้ถามหลวงตาถึงสาเหตุดังกล่าว โดยหลวงตากล่าวว่า เมื่อครั้งใดที่เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ไม่อยู่ พระหลวงพี่รูปดังกล่าวที่มีเรื่องบาดหมางกับตนเอง และพระอีกหลายรูปก็จะไม่อยู่จำวัด โดยไม่ทราบว่าไปที่ใด จนตนเองซึ่งเป็นพระผู้อาวุโสต้องออกมาตักเตือนถึงความไม่เหมาะสม จนทำให้พระหลวงพี่ทั้งหลายไม่พอใจ รวมหัวกัน ถึงขั้นท้าตี ท้าต่อยกันตัวต่อตัวกับตน ผู้สื่อข่าวถามต่อแล้วหลวงตาจะสู้กับเขาได้หรือ หลวงตาหัวเราะบอกว่าสบายมากมาเลยไม่กลัวอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวได้ถามทางฝ่ายพระหลวงพี่ที่เป็นคู่กรณีกับหลวงตา ที่ไม่อยากเป็นข่าว และให้การปฏิเสธถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยให้การว่า ตนเองไม่ได้อยากจะทะเลาะกับใคร มันเป็นเรื่องไม่ดีไม่ควรสำหรับพระภิกษุสงฆ์ด้วยกัน แต่บางครั้งมันก็เหลืออด อะไรหายก็มาโทษตน เชือกจูงหมาหายก็มาว่าตน จนเกิดความโกรธสะสม จนระงับสติตัวเองไม่ได้ แต่ก็ไม่คิดจะทำร้ายหรือโกรธแค้นฝังใจ ขอให้เลิกแล้วต่อกันดีกว่า
