คณะสงฆ์ลพบุรี นำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์มอบให้กับผู้ต้องราชทัณฑ์ในเรือนจำกลางลพบุรี เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ต้องขัง ตามพระราชดำริ ของท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ฯ
คณะสงฆ์จังหวัดลพบุรี นำโดย พระครูสิริจริยาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอเมืองลพบุรี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเสาธงทอง พระอารามหลวง ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี พร้อมทั้งคณะ ร่วมกับญาติธรรมวัดเสาธงทอง พระอารามหลวง พร้อมทั้ง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งลพบุรี ได้นำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร อาหารกระป๋อง บะหมี่กึ่ง สำเร็จรูป น้ำมันพืช ซอสปรุงรส หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ รวมถึงน้ำยาทำความต่างๆ อีกจำนวนหลายรายการ จำนวน 1 คันรถ ไปส่งมอบเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องราชทัณฑ์ ณ เรือนจำกลางลพบุรี ซึ่งผู้ต้องเหล่านี้ ผู้ต้องราชทัณฑ์ ถือเป็นพุทธมามกะ ที่เคยได้รับการศึกษาเล่าเรียน ในหลักสูตรพระปริยัติธรรม แผนกธรรมศึกษาของคณะสงฆ์จังหวัดลพบุรี โดยมี นายชัยบุญ ชัยสิริเจริญพันธ์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางลพบุรี เป็นตัวแทนในการรับมอบ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสานต่อ พระราชดำริ ของเจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ประมุขสงฆ์ไทย ซึ่งพระองค์ท่านทรงมีความห่วงใยแก่ประชาชน รวมถึง จึงมีพระดำริให้วัดที่มีศักยภาพ และมีความพร้อม ให้ความร่วมมือกับทางส่วนราชการสนับสนุนการทำอาหารช่วยเหลือประชาชน ผู้ต้องราชทัณฑ์ ที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19
ทั้งนี้ พระครูสิริจริยาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอเมืองลพบุรี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเสาธงทอง พระอารามหลวง กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ประกอบกับได้รับข่าวสารจาก facebook เรือนจำกลางลพบุรี ประกาศขอรับบริจาค สิ่งของต่างๆ โดยหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ รวมถึงน้ำยาทำความ ซึ่งกำลังขาดแคลน คณะสงฆ์ลพบุรี จึงได้รวบรวมสิ่งของเหล่านี้ มามอบให้กับทางเรือนจำกลางลพบุรี เพื่อนำไปใช้ในการดดูแล ผู้ต้องราชทัณฑ์ ในเรือนจำ ตามพระราชดำริ ของท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช ฯ ในการช่วยเหลือสงเคราะห์ดูแล ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19
ขณะที่ นายชัยบุญ ชัยสิริเจริญพันธ์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางลพบุรี กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ของเรือนจำลพบุรี ขณะนี้ เป็นศูนย์ ถือว่ายังเป็นเรือนจำสีขาว ไม่พบผู้ติดเชื้อ โดยทางเรือนจำ ได้มีการตรวจหาเชื้อผู้ต้องขังรายใหม่ทุกราย และมีการแยกกักตัวผู้ต้องขังใหม่ เป็นเวลา 21 วัน โดยก่อนนำตัวผู้ต้องขังเข้าสู่แดนรวมกับผู้ต้องขังรายเกาก็จะทำการตรวจหาเชื้ออีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 เพื่อให้มั่นใจว่า จะไม่มีการนำเชื้อโควิด 19 เข้าสู่ในเรือนจำอย่างแน่นอน
