X

ชาวบ้านดีใจถึงกับหลั่งน้ำตาหลังมีผู้นำพระศรีอาริย์มาวางคืนเชื่ออาถรรพ์

จากกรณีคนร้ายลอบเข้ามาขโมย พระศรีอาริย์องค์จำลอง พร้อมวัตถุมงคลล้ำค่าไปจากพิพิธภัณฑ์ วัดไลย์ วัดเก่าแก่ใน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี เชื่อคนในรู้เห็นแน่นอน เพราะพระหาย แต่กุญแจห้องที่เก็บยังล็อกไว้เหมือนเดิม เวลา 12.00 น. วันที่ 7 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ท.ฉันทะ วิชัยปะ สว.สภ.ท่าโขลง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ว่ามีเหตุลักทรัพย์ เป็นวัตถุมงคล และพระพุทธรูปเก่าแก่ พร้อมทรัพย์สินมีค่าภายในวัดไลย์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางขาม ต.เขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี จึงมอบหมายให้ ร.ต.อ.รินทร์ศักดิ์ ตระกูลธร รองสว.สอบสวน สภ.ท่าโขลง นำชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลพบุรีรุดไปตรวจสอบ


บริเวณชั้นที่ 3 พิพิธภัณฑสถานแห่งที่ 2 ของวัด พระพุทธรูปพระศรีอริยเมตไตรย หรือ “พระศรีอาริย์” ทรงเครื่องจำลอง หน้าตัก 22 นิ้ว จำนวน 1 องค์ สร้างในยุคสมัย ร.4 – ร.5 ซึ่งประเมินราคาไม่ได้ หายไปพร้อมเหรียญโลหะและรูปหล่อพระศรีอริยเมตไตรย ประมาณ 10 ชิ้น หนังสือประวัติ จำนวน 5 เล่ม คาดว่าน่าจะถูกขโมยไประหว่างวันที่ 26 ก.พ.64 เวลา 16.00 น. – 4 มี.ค.64 เวลา 10.00 น. ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรรมการวัดพร้อมด้วยชมรมเรารักวัดไลย์ได้ทำการจัดวางสิ่งของในพิพิธภัณฑ์ และมีการปิดประตูล็อกด้วยกุญแจอย่างดี แต่เมื่อวันที่ 5 มี.ค.64 กรรมการวัดได้มาเปิดพิพิธภัณฑ์เพื่อจะจัดวางของใหม่ จึงพบว่า พระศรีอาริย์ทรงเครื่องจำลองหายไป

ต่อมา พระครูวิลาศ พัฒนกุล เจ้าอาวาสวัดไลย์ ได้มอบอำนาจให้ นายกิตติ หุตะมาน อายุ 51 ปี สมาชิกชมรมเรารักษ์วัดไลย์ ซึ่งเป็นกรรมการวัด และเป็นผู้ถือกุญแจพิพิธภัณฑ์ อาคาร 2 หรืออาคารพิพิธภัณฑ์หลังใหม่ของวัด เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ท่าโขลง อ.ท่าวุ้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บลายนิ้วมือแฝง ดีเอ็นเอ และถ่ายภาพสถานที่เกิดเหตุไว้อย่างละเอียด นอกจากนี้ยังพบว่า กล้องวงจรปิดภายในวัดเสียอีกด้วย จึงคาดว่าน่าจะเป็นคนภายในวัดที่รู้รายละเอียดและจุดเก็บพระพุทธรูปสำคัญ จึงร่วมกับพวกมาก่อเหตุ


ขณะเดียวกัน ตำรวจได้ตรวจสอบประวัติ และเชิญสมาชิกชมรมเรารักษ์วัดไลย์ที่รู้เห็นว่ามีพระพุทธรูปมีค่าอยู่บนชั้น 3 รวมถึงพระสงฆ์ในวัดบางรูปมาสอบปากคำหาข้อพิรุธ และได้นิมนต์พระสงฆ์ บุคคลที่ต้องสงสัย มาตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ เก็บลายพิมพ์นิ้วมือ และดีเอ็นเอ นำส่งเปรียบเทียบ พร้อมไล่ข้อมูลกล้องวงจรปิดจากบ้าน ร้านค้าที่ตั้งอยู่รอบวัด หารถต้องสงสัยในคืนที่พบว่ามีเสียงหมาเห่าในวัดด้วย
พ.ต.ท.ฉันทะ เปิดเผยว่า ทางวัดได้มีการขยับขยายวัตถุมงคลและพระพุทธรูปจากพิพิธภัณฑ์วัดไลย์หลังแรก บางส่วนมาเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์หลังที่ 2 เพื่อจะทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้ประชาชนมาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หลังใหม่ จากเดิมนำมาวางไว้ชั้นล่าง มีสถานที่จัดเก็บมิดชิดและรัดกุมแน่นหนา ติดเหล็กดัดอย่างดี แต่ทางคณะกรรมการได้ย้ายขึ้นไปเก็บบนชั้น 3 ซึ่งเป็นสถานที่เปราะบาง หละหลวมต่อการโจรกรรมอย่างมาก


“มีคณะกรรมการหลายคน ตั้งแต่ฆราวาส และพระสงฆ์ ร่วมกันถือกุญแจสำคัญดอกนี้ ผลจากการตรวจสอบปรากฏว่า ประตูที่ล็อกเก็บของชั้น 3 ที่มีวัตถุมงคลและพระพุทธรูปที่หายไป ได้ถูกล็อกกุญแจไว้เช่นเดิม แต่สิ่งของหายไปได้อย่างไร เรื่องนี้จะต้องทำการสอบสวนคณะกรรมการที่ถือกุญแจห้องนี้ด้วย คาดว่าอีกไม่นานจะรู้ผล และติดตามตัวคนร้ายได้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้น่าจะมีใครสักคนภายในวัดรู้เห็นเป็นใจกับของที่หายไป เพราะมีพิรุธจากกุญแจที่ถูกปิดล็อกอย่างดี แต่พระพุทธรูปและของมีค่ากลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย”
สำหรับ วัดไลย์ เป็นวัดเก่าตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น รัชกาลสมเด็จพระเจ้าบรมโกศทรงปฏิสังขรณ์ มีพระวิหาร ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาตอนต้น คือ มีลักษณะเจาะช่องผนังแทนหน้าต่าง ภายในมีพระประธานขนาดใหญ่ปางมารวิชัย ลงรักปิดทอง มีซุ้มเรือนแก้วแบบพระพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก ด้านหน้าและด้านหลังของพระวิหารมีลายปูนปั้นเรื่องทศชาติ และเรื่องปฐมสมโพธิงามน่าดูนัก ซึ่งนับว่าเป็นภาพประติมากรรมฝาผนังขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญยิ่งชิ้นหนึ่งของชาติ และยังมีพระพุทธรูปที่ชื่อ “พระศรีอาริย์” เป็นของสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งผู้คนนับถือกันมาแต่โบราณ และรัชกาลที่ 5 ยังเคยได้เสด็จประพาสต้นที่วัดไลย์อีกด้วย

ล่าสุดเมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 15 พ.ค.2564 ตำรวจ สภ.ท่าโขลง อ.ท่าวุ้ง ลพบุรี ได้รับแจ้งจากกำนัน ต.บ้านชี อ.บ้านหมี่ ว่าชาวบ้านออกมาตักบาตรตอนเช้าเห็นมีพระพุทธรูปตั้งวางอยู่ที่ ศาลาพักผู้โดยสาร ริมถนนสายท่าโขลง-บ้านหมี่ หมู่ที่ 3 ต.บ้านชี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางมาตรวจสอบ พบเป็นพระพุทธรูปคล้ายกับพระศรีอาริย์จำลองที่หายจากพิพิธภัณฑ์วัดไลย์ เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 64 ที่ผ่านมา จึงได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่ สภ.ท่าโขลง และได้ประสานคณะกรรมการวัด พร้อมชมรมเรารักวัดไลย์ร่วมตรวจสอบในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นองค์เดียวกันที่หายไป ซึ่งต้องรอให้ทางกรมศิลปากรสำนักศิลปากรที่ 4 ลพบุรี เป็นผู้ชี้ชัด


นายสุชาติ ชิดชอบ อายุ 56 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำหลังวัดไลย์ เมื่อทราบข่าวว่าได้พระศรีอาริย์คืนถึงกับร้องให้โฮด้วยความดีใจ อยากไปดูให้เห็นกับตา แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่อนุญาต แต่ก็ทำให้ความหวังของชาวบ้านย่านลุ่มน้ำนี้กลับมีความสุขที่ได้ของล้ำค่าคืน ซึ่งนายสุชาติ และชาวบ้านที่ทราบข่าวได้เดินทางมาที่วัดต่างยกมือท่วมหัว ดีใจอย่างที่สุด พร้อมกล่าวว่าของสูงล้ำค่ามักมีอาถรรพ์ ไม่คู่ควรกับใครทั้งสิ้นนอกจากที่วัดไลย์แห่งนี้เท่านั้น ซึ่งชาวบ้านก็ยังแปลกใจว่าเป็นเพราะอะไรถึงต้องเอาพระมาวางให้คนเห็น ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกจับกุม จะเอาไปทิ้งในป่า หรือลงคลองก็คงจะไม่มีใครรู้ คาดว่าคงเป็นเพราะความศักดิ์สิทธิ์ของพระศรีอาริย์ ที่ดลจิตดลใจให้คนร้ายนำมาคืนแต่โดยดี


ด้านพระครูวิลาศ พัฒนกุล เจ้าอาวาสวัดไลย์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าเมื่อเช้ามีคนมาบอกว่าได้มีผู้นำพระมาวางคืน ก็ดีใจที่ได้ของหายกลับคืนสู่วัด หลวงพ่อไม่ทราบเป็นแรงอาถรรพ์อะไรหรือไม่ ที่ดลใจให้คนร้ายเอามาคืน พระต้องอยู่คู่กับวัด ซึ่งต่อไปคงให้เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเข้มงวดมากยิ่งขึ้น ในส่วนจะทำพิธีอัญเชิญหรือไม่ก็แล้วแต่คณะกรรมการเขาจะดำเนินการ ในส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าโขลง ได้สอบสวนผู้ที่พบเห็นคนแรก สอบถามชาวบ้านในเบื้องต้น คาดว่าคนร้ายคงย่องเอาพระศรีอาริย์มาวางไว้ในช่วงกลางดึกของเมื่อคืน เพื่อให้ชาวบ้านเห็น ในส่วนของทรัพย์สินที่หายไปในคราวเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังคงติดตามแหล่งซื้อขายต่างๆ ซึ่งในวันนี้ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่าโขลง จะลงพื้นที่ ต.บ้านชี ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางซึ่งอาจจะพบเบาะแสคนร้าย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน