วันที่ 23 เม.ย. 63 พ.ต.ท.นิสิต อินทรวิเศษ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ท่าหลวง อ.ท่าหลวง
ลพบุรี ได้รับแจ้งจาก ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 ต.ซับจำปา ว่าได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 6 ต.ซับจำปา อ.ท่าหลวง ลพบุรี จึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลตำบลท่าหลวง จำนวน 2 คัน และใกล้เคียงจำนวน 2 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์ และชาวบ้านต่างช่วยกันทำการสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลาม
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ยกสูง มีห้องแถวอยู่ด้านหลังสำหรับเก็บเครื่องมือ เมล็ดพันธุ์พืช ซึ่งสร้างด้วยไม้ อีกทั้งยังมีถังน้ำมันเพื่อใช้ในการเติมอุปกรณ์การเกษตรอยู่จำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี อีกทั้งยังมีกระแสลมกรรโชกมาเป็นระยะ เจ้าหน้าที่ได้เร่งทำการสกัดเพลิง ให้อยู่ในวงจำกัด ได้ในเวลาต่อมา แต่ก็ทำให้บ้านเดี่ยว รวมถึงอาคารเก็บของ รถยนต์กระบะจำนวน 2 คัน เทรลเลอร์ลาก รถจักรยานยนต์จำนวน 4 คัน เครื่องปั่นไฟ เครื่องสูบน้ำ และทรัพย์สินภายในบ้านไหม้วอดจมอยู่ในกองเพลิง ไม่สามารถนำออกมาได้แม้แต่ชิ้นเดียว
สอบสวนนางรวย โพธิ์ประจักษ์ อายุ 80 ปี ซึ่งยังอยู่ในอาการช็อค เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันปฐมพยาบาล ในเบื้องต้น ก่อนที่จะเล่าว่า ช่วงเกิดเหตุตนเองอยู่บ้านคนเดียว ลูกหลานออกไปทำงานในไร่กันหมด ตนเองได้นั่งเล่นอยู่ใต้ถุนบ้าน จู่ๆ ได้เกิดไฟลูกที่ชั้นบน ซึ่งตนเองไม้รู้ว่าจะทำเช่นไร เนื่องจากบ้านอยู่ห่างไกลผู้คน จนมีนายมงคล โพธิ์ประจักษ์ อายุ 35 ปี หลานชายอยู่ใกล้เคียงเห็นเปลวเพลิง กลุ่มควันจำนวนมากที่บ้าน จึงได้รีบมาช่วยตนให้ออกจากบ้าน ซึ่งไฟได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ด้วยความตกใจ ไม่ได้นำสิ่งของ หรือของมีค่าออกมาได้แม้แต่ชิ้นเดียว
ซึ่งจากการสอบสวน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในเบื้องต้นคาดเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่ชั้นบนของบ้านลุกลามไหม้ที่นอน เสื้อผ้า ก่อนลุกลามไหม้บ้านวอดทั้งหลัง แต่อย่างไรก็ตามต้องรอผลพิสูจน์หลักฐานจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว. ลพบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบ เพื่อสรุปสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป สำหรับค่าเสียหายในเบื้องต้นประเมินไว้ที่ 2.5 ล้านบาท
