เข่าแทบทรุดไฟไหม้อดีตผู้อำนวยการวอดทั้งหลังไม่ได้ทรัพย์สินแม้แต่ชิ้นเดียว

ระทึก ไฟไหม้บ้านอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนวอดทั้งหลัง ทรัพย์สินที่สะสมมาทั้งชีวิตสูญหายไปกับกองเพลิง หลังเพื่อนบ้านพยายามวิ่งมาช่วยแต่ไม่สามารถดับได้เบื้องต้นเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 21เม.ย. 63 ตำรวจ สภ.บ้านหมี่ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่บ้านเลขที่ 10 หมู่ที่ 4 ต.หินปัก อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี จึงได้ประสานศูนย์หนุมานเทศบาล อ.บ้านหมี่ รุดไปตรวจสอบ พร้อมรถน้ำดับเพลิงในพื้นที่และตำบลใกล้เคียง เข้าทำการสกัดเพลิง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ของนายเฉลิมศํกดิ์ จูทะพันธ์ อายุ 67 ปี อดีต ผอ.โรงเรียนบ้านหินปักพบเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิง 3 คันเข้าฉีดน้ำสกัด โดยใช้เวลาเกือบ 40 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ในวงจำกัด ไม่ลุกลามไปติดบ้านข้างเคียง ก่อนเข้าทำการตรวจสอบพบว่าไฟได้ลุกไหม้บ้านวอดไปหมดทั้งหลัง

จากการสอบถามนายธำรง ไตรธรรม อายุ 57 ปี บุตรเขยนายเฉลิมศักดิ์ ซี่งอยู่บ้านในขณะเกิดเหตุ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุตนอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวกับแม่ยาย เห็นเพลิงและควันพวยพุ่งออกมาจากหน้าต่างชั้นบน พร้อมกับเสียงดัง จึงได้ตำโกนให้เพื่อนบ้านที่ติดกันมาช่วยดับ แต่เพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรวดเร็วและรุนแรง เนื่องจากห้องที่เกิดเหตุเก็บหนังสือเก่า และมี่ที่นอนเสื้อผ้าของพ่อเอาไว้มาก ตนเองจึงได้พาแม่ยายหนีออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย ก่อนที่จะขับรถยนต์ที่จอดอยู่ชั้นล่างออกมาได้จำนวน 2 คัน สำหรับ ผอ.ผ่านไปสักพักเพื่อนบ้านวิ่งมาบอกว่า เกิดเหตุไฟไหม้บ้าน เมื่อวิ่งไปดูก็เข่าแทบทรุด พบไฟได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรงจนวอดไปทั้งหลังแล้ว โดยที่ไม่ได้ทรัพย์สินที่สะสมเอาไว้อย่างมากมายภายในบ้าน ที่วอดไปกับกองเพลิงได้สักชิ้นเดียว

ด้าน ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ โพลงเงิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านหมี่ หลังลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์และเจ้าของบ้าน เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ครั้งนี้ น่าจะเกิดจากไฟฟ้ารัดวงจร เนื่องจากเจ้าของบ้านยืนยันว่าได้ยินเสียงไฟช็อตบริเวณชั้นบน ที่คัตเอาท์ และไฟได้ไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจะลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อทำการตรวจสอบพิสูจน์หาสาเหตุไฟไหม้ที่แท้จริงต่อไป ส่วงค่าเสียหายในเบื้องต้นประเมินไว้ประมาณ 5 ล้านบาท