X

ชาวบ้านกว่า 300 คนบุกศาลาการเปรียญกลางงานศพร้องขอให้ตั้งเจ้าอาวาส

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ที่ 2 ต.บางงา อ.ท่าวุ้ง ลพบุรี ว่าได้มีชาวบ้านกว่า 300 คนได้มารวมตัวกันที่ศาลาการเปรียญวัดโพธิ์ศรี เพื่อขอให้มีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัด เนื่องจากไม่มีพระผู้นำที่ชาวบ้านต้องการให้มีกิจกรรมประเพณีทางศาสนาอย่างที่เคยมีมาแต่ดั้งเดิม ซึ่งทางเจ้าคณะตำบลได้แต่งตั้งพระรักษาการจากวัดอื่นมาทำหน้าที่แทน แต่ไม่สามารถเดินทางมาเพื่อทำกิจกรรมทางศาสนาให้กับชาวบ้านได้ ทั้งที่ยังมีอดีตรักษาการเจ้าอาวาสที่ชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธาอยู่ภายในวัดแห่งนี้ ทำให้ชาวบ้านทั้งตำบลบางงา สงสัยในเรื่องดังกล่าว จึงได้ไปนิมนต์รองเจ้าคณะอำเภอท่าวุ้ง เจ้าคณะตำบลบางงา ท่าวุ้ง พระรักษาการเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี และพระลูกวัดอีกหลายองค์เพื่อร่วมหารือถึงเรื่องดังกล่าว ท่ามกลางงานพิธีรดน้ำศพที่ศาลาการเปรียญ

พระครูวิธานธรรมวิสุทธิ์ รองเจ้าคณะอำเภอท่าวุ้ง พระครูวรพรตธำรง เจ้าคณะตำบลบางงา ท่าวุ้ง และพระครูวิบูลย์พัฒนกิจ (เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ) รักษาการเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี พร้อมพระลูกวัดอีกจำนวนหนึ่ง ได้เริ่มชี้แจงถึงเรื่องทำไมไม่มีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี โดยมีรักษาการเจ้าอาวาสมาตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.60 นั้น เนื่องจากมีเหตุร้องเรียนจากชาวบ้านกลุ่มหนึ่งว่าพระบรรหารปัญญาธโร อดีตรักษาการเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี แต่งกายไม่เหมาะสม จากนุ่งผ้าขนหนูออกมาจากห้องน้ำแบบไม่สำรวม หรือไม่ห่มจีวรไปฉันอาเพลร้านค้าข้างวัด ซึ่งการร้องเรียนมีผล ทำมีคำสั่งจากพระครูวรพรตธำรง เจ้าคณะตำบลบางงา ท่าวุ้ง ให้ปลดพระบรรหารปัญญาธโรจากหน้าที่เจ้าอาวาสโดยพ้นจากตำแหน่งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสเสีย เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.60 และเจ้าคณะตำบลได้แต่งตั้งพระครูวิบูลย์พัฒนกิจ (เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ) มารักษาการเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีแทน ในวันที่ 25 ธ.ค.60 มาตั้งแต่บัดนั้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวชาวบ้านไม่ได้สนใจ เพราะเป็นเรื่องของสงฆ์ที่จะต้องพิจารณากันเอง เรื่องสำคัญคือตั้งแต่มีรักษาการจากพระวัดปากน้ำมา กิจกรรมทางศาสนาที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นเทศกาลวันอาสาฬหบูชา เข้าพรรษา ออกพรรษา การสวดมนต์ไหว้พระ ตักบาตรทำบุญ ฟังเทศน์ การเวียนเทียน เทศน์มหาชาติ ถวายสังฆทาน หรือการอุปสมบท พระรักษาการไม่ได้เข้ามาดูแลอย่างทั่วถึงเนื่องจากต้องดูแลทั้งสองวัดในเวลาเดียวกัน ทำให้กิจกรรมทางศาสนาที่สำคัญต่างๆ ภายในวัดแห่งนี้ด้อยไป

นายบุญธรรม(นามสมมุติ) เล่าว่าจากเดิมวัดแห่งนี้มีความสุขสงบ ร่มเย็น ชาวบ้านใน 5 หมู่ ชาวบ้านนับพันคนชอบมาทำบุญที่วัดนี้ ซึ่งตั้งแต่มีเรื่องร้องเรียนปลดพระบรรหารพ้นจากหน้าที่ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสองค์เดิมที่ถูกร้องเรียนเช่นกัน ชาวบ้านเริ่มมีความสงสัยถึงเรื่องไม่ชอบมาพากลที่วัดแห่งนี้ เนื่องจากทราบมาว่ามีบุคคลกลุ่มหนึ่งอดีตเคยเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวพันกับวัดและพระที่วัดแห่งนี้  โดยทราบมาว่าสิ่งที่บุคคลกลุ่มนี้ไม่พอใจพระบรรหาร นั้นเนื่องมากจากต้องการบริหารจัดการเรื่องการจัดเก็บภายในวัดเอง เช่นจะขอการเก็บเงินเพิ่มจากชาวบ้านที่มาขอใช้สถานที่วัด เปลี่ยนคณะกรรมการวัดชุดเดิม และจะขอขึ้นค่าเช่านาที่ทางผู้ใจบุญถวายให้กับวัดไว้หลายสิบปีมาแล้วกว่า 160 ไร่ ซึ่งมีชาวบ้านย่านนี้ได้ขอเช่าไร่ละ 600 บาท ทางบุคคลกลุ่มนี้จะขอเพิ่มเป็น 1,000 บาท หรือถ้าทำนาปีละ 2 ครั้งจะขอเก็บเป็น 1,200 บาทต่อไร่ ซึ่งทางคณะกรรมการและพระบรรหารเห็นว่าเรื่องดังกล่าวข้างต้นนั้นล้วนสร้างความแตกแยก สร้างภาระให้กับผู้ที่เช่านา จึงไม่เห็นดีด้วย จึงสร้างความไม่พอใจให้กับบุคคลกลุ่มนั้นที่ชาวบ้านทราบมาว่ามีความสนิทสนมกับพระผู้ใหญ่ภายในจังหวัดลพบุรี  และมีความเกรงใจกันอยู่ จึงได้มีการร้องเรียนให้ปลดพระบรรหารจนเป็นผล  โดยที่ชาวบ้านทราบเรื่องดังกล่าวจึงได้รวมตัวกันเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับพระบรรหาร ซึ่งเห็นว่าเรื่องที่ร้องเรียนพระบรรหารนั้นเป็นเพียงข้อหาเล็กน้อย ซึ่งคงจะเป็นเรื่องที่ถูกกลั่นแกล้งมากกว่า ชาวบ้านย่านนี้เคารพและเลื่อมใสศรัทธาในตัวพระบรรหาร ซึ่งตั้งแต่มาอยู่ที่วัดโพธิ์ศรีแห่งนี้ท่าน ก็ได้สร้างวัตถุสถานต่างๆ ภายในวัดอย่างสวยงามล้ำค่า และมีกิจกรรมทางศาสนามาอย่างต่อเนื่อง

นายบุญธรรม(นามสมมุติ) กล่าวต่อว่าที่ชาวบ้านได้มารวมตัวกันที่ศาลาการเปรียญกลางงานศพกว่า 300 คนในวันนี้ก็เพื่อที่จะต้องการฟังคำชี้แจงที่เป็นรูปธรรมเสียที และขอให้ความเมตตาให้มีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัด เพราะพวกตนเดินทางมาเพื่อฟังการชี้แจงแบบนี้มากว่า 10 ครั้งแล้ว โดยแต่ละครั้งที่มานั้นทำให้เสียเวลาเปล่า เสียความรู้สึก ที่ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ไม่รู้ว่าติดขัดเรื่องใดกันแน่ขอให้บอกมาให้ชัดเจน หรือต้องการให้ไปร้องใคร พระผู้ใหญ่ที่ไหนพวกตนยินดีจะไปกัน เพื่อให้วัดแห่งนี้จะได้มีความโปร่งใสเสียที สลัดความโลภของคนบางคนให้ออกจากพื้นที่ไปเสีย ซึ่งทางรองคณะอำเภอท่าวุ้ง  เจ้าคณะตำบลบางงา ท่าวุ้ง และรักษาการวัดโพธิ์ศรี

 

กล่าวทิ้งท้ายว่าจะขอไปพิจารณาถึงเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง และจะมาชี้แจงให้ทราบ ทำให้ชาวบ้านส่งเสียงโห่ฮา ด่าทอด้วยความไม่พอใจ ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านไปอย่างสงบ ท่ามกลางการรักษาความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบหลายสิบนาย โดยที่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น

ด้านพระบรรหารปัญญาธโร อดีตรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี ซึ่งอยู่ภายในกุฎิ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าเดิมที ตนเองได้เดินทางมาจากวัดท่าช้าง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง โดยได้รับการแต่งตั้งให้มารักษาการแทนเจ้าอาวาสจากองค์เดิม ที่ถูกร้องเรียนให้พ้นจากวัดไป ซึ่งตั้งแต่เข้ามาที่วัดแห่งนี้ มีชาวบ้านเดินทางมาทำบุญที่วัดแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันทำความสะอาด ปรับปรุงสถานที่ให้เป็นที่ปฏิบัติธรรม ของคนเฒ่าคนแก่ ชาวบ้าน เด็ก และเยาวชน สร้างความรักความสาสามัคคีอย่างดีตลอดมา  จนมามีเรื่องร้องเรียนจากบุคคลกลุ่มหนึ่งซึ่งอดีตเคยเป็นถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่ต้องการเข้ามาบริหารจัดการภายในวัดแห่งนี้โดยไม่มีความเห็นชอบจากคณะกรรมการ  ซึ่งตนเองไม่ยอมเพราะเห็นว่าขาดคุณธรรม สร้างความขัดแย้ง บาดหมางให้กับชุมชน และชาวบ้าน ตนเองไม่มีปัญญาที่จะไปต่อสู้กับใครบางคนเพียงเพื่อเอาชนะ แต่จะขอต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีของพระรูปหนึ่งซึ่งสร้างแต่คุณงามความดีมาโดยตลอดโดควบคู่ไปกับชาวบ้านทั้งตำบลบางงา ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจในการต่อสู้กับความโลภบุคคลเพียงไม่กี่คนที่อาศัยอำนาจ บารมีมาทำร้ายพระ และชาวบ้านที่เลื่อมใสในศาสนา

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน