องค์การเภสัชกรรม ขยายแหล่งเพาะปลูกขมิ้นชันคุณภาพเพิ่มสารสกัดใช้ทดแทนยาแผนปัจจุบัน ที่จังหวัดลพบุรี
ที่ ห้องเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ โรงแรมลพบุรี อินน์ รีสอร์ท นายแพทย์โสภณ เมฆธน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม พร้อมด้วย นายวีระชัย นาคมาศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานการลงนามสัญญาจะซื้อจะขายขมิ้นชันคุณภาพ กับกลุ่มเกษตรกร 3 จังหวัด ตามโครงการส่งเสริมการปลูกและการจัดหาวัตถุดิบที่มีคุณภาพเพื่อผลิตสารสกัดขมิ้นชัน องค์การเภสัชกรรมได้ทำการศึกษาวิจัยพบว่าสารสกัดขมิ้นชันแคปซูล สามารถใช้บรรเทาอาการปวดในโรคข้อเข่าเสื่อม โดยไม่มีผลข้างเคียงกับระบบทางเดินอาหาร ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นยาพัฒนาจากสมุนไพรแผนปัจจุบันรายการแรกของประเทศไทย และได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์สมุนไพรดีเด่นระดับชาติ ประจำปี 2561
องค์การเภสัชกรรมได้ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกและแปรรูปวัตถุดิบขมิ้นชันที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ จังหวัดตาก ยะลา และลพบุรี เน้นมาตรฐานการปลูกและการแปรรูป โดยมีการทำสัญญาจะซื้อจะขายขมิ้นชันล่วงหน้า เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจแก่เกษตรกร โดยจะรับซื้อขมิ้นชันคุณภาพที่มีสารสำคัญทางยา คือเคอร์คูมินอยด์สูงกว่าร้อยละ 9 ในราคาตันละ 120,000 บาท (กิโลกรัมละ 120 บาท) ในเบื้องต้นองค์การเภสัชกรมีความต้องการใช้ขมิ้นชันตากแห้งเพื่อนำไปผลิตเป็นสารสกัดขมิ้นชันและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ปีละประมาณ 90 ตัน
โดยในวันที่ (26 ก.ค.61) มีกลุ่มเกษตรกรจากจังหวัดยะลา ตาก และจังหวัดลพบุรี รวม 5 กลุ่ม ร่วมลงนามสัญญาฯ และรับมอบพันธุ์ขมิ้นชันจากองค์กรเภสัชกร กลุ่มละ 1,500 กิโลกรัม
สำหรับจังหวัดลพบุรี ได้รับการส่งเสริมให้ปลูกขมิ้นชันในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อำเภอพัฒนานิคม อำเภอลำสนธิ และอำเภอเมืองลพบุรี ขณะนี้มีพื้นที่ปลูกที่ไร่ทหารประสานประชา ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมืองลพบุรี ได้รับการรับรองให้เป็น “หมู่บ้านออแกนนิก” 1 ใน 8 แห่งของประเทศ
