กลุ่มชายฉกรรจ์ทำร้ายร่างกายเด็กปางตายมัดมือมัดตีน ขู่ฆ่ารีดเงินที่เฒ่าวัย 71 ปี ติดยาบ้างอมแงม ใช้ให้เด็กไปซื้อยาบ้า 1 พันบาท แต่เด็กหาซื้อให้ไม่ได้นำเงินไปใช้ และกลัวลูกหลานรู้ว่าตัวเองติดยา เบี่ยงบ่ายประเด็นว่าเด็กขโมยเงิน ไล่ล่าเด็กมาซ้อมจนน่วม เดชะบุญปู่มาช่วยไว้ทัน เด็กเกิดผวาจนกลัวหัวหด ใช้เสื้อกันหนาวผูกคอหวังฆ่าตัวตายในห้องน้ำโชคดีปู่ช่วยทันอีกครั้ง
วันที่ 12 พ.ย.62 ร.ต.อ.วรวัฒน์ ชลอปัญจศิลป์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เพนียด อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ได้รับแจ้งจากนายสมทรง บุญเกษม อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 242/4 หมู่ที่ 3 ต.เพนียด อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ว่า โดยก่อนหน้านี้หลานชาย ชื่อ นายไก่ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ได้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ และสาวใหญ่ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งได้ร่วมกันจับมัดมือมัดเท้า เตรียมจะลงมือทำร้ายต่อ จนนายสมทรงผู้เป็นปู่ทราบข่าวจากเพื่อนบ้านแจ้งว่าหลานชายถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนักที่บ้านเลขที่ 125/ หมู่ที่ 2 ต.เพนียด อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี จึงเดินทางมาถึงที่บ้านหลังดังกล่าวพบหลานนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดได้วิ่งเข้ามาให้การช่วยเหลือ
จากนั้นนายสมทรงได้เข้าไปแก้มัดช่วยเหลือแก้มัดหลานชายออกมาได้ แล้วบอกกับกลุ่มผู้ที่ทำร้ายว่าทำไมทำกับหลานของตนเช่นนี้ ขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้นหลานชายได้ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ จนเวลาร่วงเลยไปพักใหญ่ไม่เห็นว่าหลานชายออกมาสักที ปู่ได้เดินตามไปเรียกที่หน้าห้องน้ำได้ยินเสียงผิดปกติ เรียกก็ไม่ขานรับ ทำให้ต้องปีนขึ้นไปดูพบว่าหลานชายใช้เสื้อกันหนาวของตนเองผูกคอติดกับขื่อห้องน้ำ โดยกำลังดิ้นทุรนทุรายทำให้ต้องพังประตูเข้าไปให้การช่วยเหลือได้อย่างหวุดหวิด ก่อนทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้นรีบนำตัวส่ง รพ.โคกสำโรง อาการปลอดภัย
นายไก่ หลานชายได้กลับมายังบ้าน ปู่จึงเค้นสอบถามถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้น ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ทางหลานชายของตนได้นำเงินที่ นางนพรัตน์ หรือนก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 194/1 หมู่ที่ 2 ต.เพนียด อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี จำนวน 1 พันบาทฝากไปให้กับ นายสรวง อายุ 71 ปี (ขอสงวนนามสกุล) อยู่บ้านเลขที่ 125/3 หมู่ที่ 2 ต.เพนียด อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ผู้เป็นบิดา หลังจากที่นายไก่ (นามสมมุติ) ได้นำเงินมาให้นายสรวง แต่นายสรวงได้ใช้ให้นายไก่ (นามสมมุติ) นำเงินจำนวน 1 พันบาท ดังกล่าวไปซื้อยาบ้ามาให้นายตนเอง ซึ่งก่อนหน้านี้นายสรวงได้เคยใช้ให้นายไก่ (นามสมมุติ) ไปซื้อยาบ้ามาให้กับตนเองเป็นประจำ แต่ในครั้งนี้นายไก่ ไม่สามารถไปซื้อยาบ้ามาให้ได้ เพราะทางผู้ขายยาบ้าไม่ยอมขายให้นายไก่ นายไก่ก็เลยนำเงินจำนวน 1 พันบาท ดังกล่าวไปใช้โดยพลการ ทำให้นายสรวงวัย 71 ปีไม่พอใจ ขู่อาฆาต หากจับได้จะฆ่าให้ตาย
ด้านนางนพรัตน์ หรือนก บุตรสาวนายสรวงได้สอบถามพ่อ ว่าได้รับเงินจำนวน 1 พันบาทที่ฝากกับนายไก่มาแล้วหรือยัง แต่ตนเองบอกว่ายังไม่ได้รับเงินจำนวนดังกล่าวเลย โดยไม่ยอมบอกเหตุผลว่า ตนเองได้ให้นายไก่นำเงินดังกล่าวไปซื้อยาบ้า จึงทำให้บุตรสาวของตนเกิดความไม่พอใจนายไก่ และได้บอกกับสามีของนางนพรัตน์ หรือนก ขอให้ติดตามตัวนายไก่ ให้เอาเงินมาคืน แต่ก็ตามหาตัวนายไก่ไม่พบและได้ให้ญาติ ๆ กันช่วยติดตามตัวในหมู่บ้าน จนในเวลาต่อมานายเนศพิภพ หรือนุ้ย หายกิจ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 318 หมู่ 2 ต.เพนียด อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ได้มาพบตัวนายไก่ ที่กลับมานอนที่บ้านจึงได้ลากตัวขึ้นรถมายังบ้านหลังดังกล่าว ได้รุมทำร้ายร่างกายนายไก่ประกอบด้วย 1.นายสรวง 2.นางนพรัตน์ 3.นายมงคล และ 4.นายมานพ โดยทั้งหมดได้ร่วมกันลงมือตบ ชก เตะ และใช้ไม้ตีพริก (สากกะเบือ) ทุบไปที่ร่างกาย จนทำให้นายไก่ ได้รับบาดเจ็บไปทั้งตัวจากนั้นทั้งหมดได้นำเชือกปอมามัดมือกับเท้าติดกัน เพื่อเตรียมจะลงมือทำร้ายร่างกายอีก ก็พอดีมีชาวบ้านได้เห็นและได้ยินการทำร้ายนายไก่ จึงได้ไปแจ้งให้นายสมทรง ผู้เป็นปู่ทราบ ก่อนที่มาช่วยเหลือไว้ได้ทันเวลา จากนั้นได้พาตัวหลานชายไปพบกับแพทย์ทำการตรวจร่างกายที่ รพ.โคกสำโรง โดยพบว่าตามร่างกายบวมช้ำหลายแห่ง จากการถูกทำร้าย จึงได้นำตัวนายไก่ หลานชายมาแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เพนียด เพื่อให้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีดังกล่าวด้วย
ซึ่งในช่วงแรกนายไก่ ไม่ยอมให้รายละเอียดทั้งหมดเพราะยังอยู่ในอาการเกรงกลัวบุคลกลุ่มนี้ ที่เคยเห็นพฤติการณ์ และอาวุธปืน และได้มีการข่มขู่ว่าจะทำร้ายให้ถึงแก่ความตาย ซึ่งวันนี้ขอให้ผู้สื่อข่าวช่วยเหลือ จึงได้เดินทางมาแจ้งความเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำลงประจำวันเพิ่มเติมในเรื่องการให้เงินไปซื้อยาบ้า และข่มขู่ โดยในการให้การครั้งแรกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าใจว่าเป็นเรื่องของการทะเลาะวิวาทกันเท่านั้น แต่หลังจากที่นายสมทรง ได้แจ้งความเพิ่มเติมกรณีดังกล่าว ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องของการทำร้ายร่างกายธรรมดา แต่กลับมีในเรื่องของการข่มขู่ฆ่าและยาเสพติดมาเกี่ยวข้อง รวมทั้งตัวของนายไก่ (นามสมมุติ) มีอายุเพียง 16 ปี พนักงานสอบสวนจะได้สอบปากคำลงประจำวันเพิ่มเติมเพื่อประสานต่อเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ซึ่งประกอบด้วยอัยการ นักจิตวิทยา ตำรวจ เพื่อความเป็นธรรมกับผู้เสียหายต่อไป
