X

เปิดใจ“ทวีรัตน์ เลาหทัยชนก” ผู้นำยุคใหม่ภายใต้แนวคิด“เปิด ปรับ เปลี่ยน มุ่ง สร้าง” นครตรัง

รุกพัฒนาเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว การศึกษา และคุณภาพชีวิต เปิดใจ “ทวีรัตน์ เลาหทัยชนก” ภายใต้แนวคิด “เปิด ปรับ เปลี่ยน มุ่ง สร้าง” นครตรังเมืองแห่งอาหารการกิน-การท่องเที่ยว ที่โดดเด่นจากอาหารขึ้นชื่อหมูย่าง เค้กตรัง วิถีวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น ผลักดันงานเทศกาลกินเจสู่วัฒนธรรมระดับโลก สร้างพลังทุกภาคส่วนร่วมพัฒนาด้านเศรษฐกิจเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบพักค้างคืนในเมืองตรัง ยกระดับให้ได้มาตรฐานสากล แต่คงไว้ซึ่ง“รากเหง้า” และ “อัตลักษณ์” เพื่อนำสู่การต่อยอดเชิงสร้างสรรค์หลากมิติ เติมเต็มการศึกษาตลอดชีวิต ดูแลคุณภาพชีวิตทุกวัย

ความมุ่งมั่นและความตั้งใจของ “วี” หรือ “ทวีรัตน์ เลาหทัยชนก ในฐานะลูกหลานเมืองตรังโดยกำเนิดด้วยความสำนึกรักษ์บ้านเกิดและมองเห็นโอกาสการพัฒนาเมืองตรังเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบัน “วันนี้ถึงเวลาพัฒนาเมืองตรังให้ก้าวทันยุคแห่งสังคมการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน เพราะตรังมีความโดดเด่นในเรื่องอาหารการกิน เมืองแห่งเรื่องราวเชิงวิถีประเพณีวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ เมืองที่มีของอร่อยขึ้นชื่ออย่าง หมูย่าง เค้กเมืองตรังและอีกมากมาย ใครมีโอกาสมาเที่ยว นอกจากสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติทั้งป่าเขาและทะเลที่สวยแล้ว ยังเห็นวิถีการกินอย่างมีความสุข ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ มีร้านอาหารและเมนูหลากหลาย อาหารอร่อยและมีเรื่องราวความเป็นมาที่งดงามซ้อนตัวอยู่ในชุมชนต่าง ๆ อย่างมีเสน่ห์และโดดเด่นน่าสนใจ นั่น คือ ทุนทางวัฒนธรรมในท้องถิ่นอันทรงคุณค่าที่ต้องขับเคลื่อนเพื่อต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มแบบยั่งยืน”

แนวคิดและบุคลิกการเป็นผู้นำที่มีความคิดริเริ่มและชอบทำสิ่งใหม่ๆ ภายใต้ “ทีม ต้นกล้า นครตรัง” “เปิด ปรับ เปลี่ยน มุ่ง สร้าง” ด้วยความรู้และประสบการณ์และติดตามข้อมูลใหม่ๆ อยู่เสมอ และที่สำคัญเป็นคนเรียบง่ายเป็นกันเอง ติดดิน มีน้ำใจ ช่างคิด ช่างทำ ใจถึง จริงจัง จริงใจ รับฟังผู้อื่น ใฝ่รู้  “วี” จึงมากด้วยเพื่อนพ้องหลากหลายอาชีพ และด้วยความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ประสบความสำเร็จในระดับแนวหน้า หากเอ่ยชื่อ “วี” ในแวดวงผู้รับเหมาก่อสร้างและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เมืองตรังหลายคนรู้จักเขาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะความเชี่ยวชาญระดับมืออาชีพ การบริหารจัดการธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่สามารถฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจในช่วงปี 2540 ยุคต้มยำกุ้งจนยืนหยัดอยู่ในแวดวงการทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างได้และดำเนินกิจการมาจนถึงปัจจุบัน เขาย้ำถึงเคล็ดลับความสำเร็จด้วยวิธีคิด คือการเปิดวิธีคิดบนฐานความรู้และประสบการณ์ตรงด้วยทักษะฝีมือและความมุ่งมั่นตั้งใจจริงเป็นเรื่องสำคัญ

ความรู้ความสามารถจากการศึกษาของ “วี” จากเบ้าหลอมด้านช่างก่อสร้างที่เขาสำเร็จการศึกษาในระดับ ปวส. จากโรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวายหรือ “สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตอุเทนถวายมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก”ในปัจจุบัน และต่อยอดองค์ความรู้จนสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต และความรู้ด้านรัฐศาสตร์จนสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และในวันนี้ได้ตัดสินใจศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกด้านนวัตกรรมการสื่อสารทางการเมืองและการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ด้วยหลักสำคัญคือ เรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อพัฒนาตนและพัฒนางาน

“นอกจากความรู้จากสถาบันการเรียนรู้จากการลงมือทำและเทคนิคต่าง ๆ เป็นเรื่องสำคัญเมื่อผมจบก็ทำงานทันทีผมมองว่าการเป็นลูกจ้างในกิจการผู้รับเหมาหรือหน่วยงานต่างชาติทำให้ได้ทักษะและวิธีคิดจากวัฒนธรรมองค์กรผมได้ประสบการณ์การทำงานรับเหมาก่อสร้าง 5 ปีทั้งจากการลงมือก่อสร้างเองและการควบคุมงานโดยเฉพาะช่วงปี 2530 ได้เรียนรู้การบริหารจัดการรับเหมาก่อสร้างจากบริษัทไทยโคโนอิเก๊ะซึ่งทำให้ผันและพัฒนาตัวเองจากลูกจ้างในองค์กรมาเป็นผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง สิ่งเหล่านี้ล้วนมาจากวิธีคิด จากการคิดสู่การลงมือทำ เห็นผลด้วยบททดสอบจากผลของการตัดสินใจและการวัดทักษะฝีมืออาชีพก่อสร้างตลอดจนการบริหารจัดการซึ่งสร้างจุดเปลี่ยนจากวิธีคิดของผม และเป็นคนเปิดมุมมองใหม่ ๆ ในการเรียนรู้ทุกสถานการณ์เสมอโดยเฉพาะการขันอาสาเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาถิ่นเกิดด้วยความมุ่งมั่นในเวลาต่อมา”

นอจากความสำเร็จในเส้นทางนักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมือวางอันดับต้นๆ ของเมืองตรังทว่าบทบาทและประสบการณ์ทางการเมืองท้องถิ่นในฐานะสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง เขต 3 อำเภอเมืองตรัง ในปี 2547 “สจ.วี” ยังเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะแวดวงด้านการเมืองทั้งในฐานะอยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลัง เพราะเขาคลุกคลีและรับรู้ปัญหาและความต้องการของประชาชนในชุมชนต่างๆ อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน แต่ปัญหาและความต้องการของเครือข่ายและกลุ่มผู้ประกอบการตลอดจนประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะปัญหาของประชาชนในพื้นที่เขตเทศบาลนครตรังกว่า 60 ชุมชนต้องเร่งขับเคลื่อนพัฒนาเพื่อเปิดรับโอกาสใหม่ ๆ โดยเฉพาะการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ การส่งเสริมการท่องเที่ยว พัฒนาการศึกษาตลอดชีวิตทุกช่วงวัย ที่ได้มาตรฐานสากล บนฐานความเข้มแข็งของทุนทางวัฒนธรรมในท้องถิ่นที่เป็นอัตลักษณ์สำคัญ และพัฒนาภาคการเกษตรแบบยั่งยืนเพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพและสร้างรายได้ แนวทางสำคัญต้องเร่งดำเนินการ รวมทั้งสร้างคุณภาพชีวิต สุขภาพอนามัยที่ดีให้คนนครตรังทุกคน

“ผมมุ่งมั่นและตั้งใจพัฒนาเพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ได้มาตรฐานสากลโดยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว และเพิ่มมูลค่าทุนทางวัฒนธรรมในท้องถิ่นและการแปรรูปภาคเกษตร สร้างความมั่นคงในอาชีพและรายได้ สร้างความเข้มแข็งของชุมชน บริหารจัดการทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้สมดุล แบบยั่งยืน และพัฒนาศักยภาพและการเรียนรู้ของบุคลากรรองรับการเปลี่ยนแปลง วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ตรังบ้านเราต้องเปิดโอกาสการพัฒนามิติใหม่เพื่อโยงกับพื้นที่ต่าง ๆ อย่างเป็นระบบและครอบคลุมกลุ่มจังหวัดฝั่งอันดามันทั้งกระบี่ พังงา ภูเก็ต ระนอง ผมมีประสบการณ์ รู้งานบริหาร งานบริการประชาชน รู้เท่าทันในงานก่อสร้าง ผมจะดูแลให้เงินของเทศบาลทุกเม็ดเกิดประโยชน์สูงสุด และธุรกิจครอบครัวของผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวประมูลงานก่อสร้างในเทศบาลเด็ดขาด เพราะผิดจริยธรรมการบริหารและผิดกฎหมาย ผมชัดเจนในเรื่องนี้”

ความมุ่งมั่นงานอย่างไม่ลดละ และเป็นบุคคลที่มากด้วยเครือข่ายเพื่อนพ้องจากทุกแวดวงทั้งเครือข่ายจิตอาสา ภาคการเมือง ภาคประชาชน ผู้ประกอบการท้องถิ่นทั้งรายใหญ่และเล็ก หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และความพร้อมในวันนี้ของ นายทวีรัตน์ เลาหทัยชนก “วี” ผู้ที่ “มีความรู้ คู่ประสบการณ์ มุ่งมั่นงาน ประสานรอบทิศ” ขออาสาผู้นำทีม “ต้นกล้านครตรัง” ขับเคลื่อนการพัฒนา นครตรัง ด้วยวิสัยทัศน์ “เปิด ปรับ เปลี่ยน มุ่ง สร้าง”

เปิด-เปิดนครตรังสู่เมืองอาหารและการท่องเที่ยว

ปรับ-ปรับทิศทางสู่ความเจริญอย่างมีอัตลักษณ์

เปลี่ยน-เปลี่ยนคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจชุมชน

มุ่ง-มุ่งมั่นยกระดับการศึกษา

สร้าง-สร้างการมีส่วนร่วมการพัฒนาเพื่อมวลประชามีสุข

หนึ่งจากหลายแนวคิดด้วยความมุ่งมั่นและความตั้งใจการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจเมืองตรังด้วยมิติการส่งเสริมการท่องเที่ยวก้าวสู่มาตรฐานสากลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันด้วยทุนทางวัฒนธรรมท้องถิ่น และภาคการเกษตรผ่านวิสัยทัศน์ของผู้นำยุคใหม่ใส่ใจบ้านเมืองอย่าง“ทวีรัตน์ เลาหทัยชนก” เพื่อนำไปต่อยอดเชิงสร้างสรรค์หลากมิติ เป็นผู้มีความรู้ คู่ประสบการณ์ มุ่งมั่นงานดูแลประชาชน และสามารถประสานรอบทิศ

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

korphai ริมภู

korphai ริมภู

* นักเขียนอิสระ * นักข่าวอิสระ