X

กุศลครั้งใหญ่! “โงวฮก” มอบ 520 ล้าน สร้าง รพ.หัวใจบ้านแพ้ว

สมุทรสาคร – “โงวฮก” บริจาค 520 ล้านบาท สร้างอาคาร รพ.หัวใจบ้านแพ้ว 12 ชั้น ช่วยผู้ป่วยโรคหัวใจเข้าถึงการรักษา-ลดเวลาคอยผ่าตัด คาดแล้วเสร็จ 5 ปีข้างหน้า

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2566 พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) และบริษัท โงวฮก จำกัด เพื่อสร้างอาคารโรงพยาบาลหัวใจบ้านแพ้ว ณ ห้องประชุมเทพกาญจนา ชั้น 10 ตึกเฉลิมพระเกียรติฯ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี โรงพยาบาลบ้านแพ้วฯ จ.สมุทรสาคร โดยมี นพ.พรเทพ พงศ์ทวิกร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านแพ้วฯ ดร.นพ.พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ ประธานกรรมการโรงพยาบาลบ้านแพ้วฯ นายสุเมธ ตันธุวนิตย์ ประธานกรรมการ บริษัท โงวฮก จำกัด พร้อมด้วยนายพัชร์ เคียงศิริ กรรมการบริษัทฯ ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลง

สำหรับโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) เป็นโรงพยาบาลของรัฐ ประเภทโรงพยาบาลทั่วไปขนาด 350 เตียง มีภารกิจการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจในพื้นที่รับผิดชอบมานานกว่า 20 ปี และขยายบริการเป็นศูนย์หัวใจขนาดใหญ่ที่ให้บริการครบวงจร รับส่งต่อด้านการผ่าตัดหัวใจ และด้านการสวนหัวใจให้กับเขตบริการสุขภาพที่ 5 ใน 8 จังหวัด ขณะนั้นมีโรงพยาบาลรัฐที่รองรับได้เพียง 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลนครปฐม และโรงพยาบาลราชบุรี จากสถิติมีผู้ป่วยต้องได้รับการผ่าตัดหัวใจในเขตบริการสุขภาพที่ 5 สูงถึง 600 รายต่อปี มีระยะเวลารอคอยในการผ่าตัดประมาณ 1-4 เดือน ทำให้ผู้ป่วยหลายรายต้องรอคอยการผ่าตัด และบางรายอาจต้องเสียชีวิตไป โดยไม่ได้รับการผ่าตัดที่ทันท่วงที อัตราการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจของโรงพยาบาลบ้านแพ้วฯ ร้อยละ 7.7

คณะกรรมการโรงพยาบาลบ้านแพ้ว มีมติจากการประชุมครั้งที่ 7/2564 เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2564 ได้อนุมัติให้จัดตั้ง “ศูนย์ผ่าตัดหัวใจทรวงอกและหลอดเลือด” โดยตั้งเป้าที่จะช่วยลดระยะเวลาการรอคอยการผ่าตัด และช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลได้ทันท่วงทีลดการสูญเสียชีวิตหรือทุพพลภาพในระหว่างการรอผ่าตัด โดยจะให้มีการผ่าตัดทุกวัน และตั้งเป้าให้มีการผ่าตัดถึง 7 รายต่อสัปดาห์ ซึ่งหลังจากเปิดศูนย์ฯ มาได้เพียง 1 ปี ในช่วงปลายปี 2564 สามารถทำการผ่าตัดผู้ป่วยโรคหัวใจไปได้มากกว่า 400 ราย มีจำนวนการผ่าตัดหัวใจมากเป็นอันดับที่ 15 ของประเทศ และเป็นอันดับ 1 ในเขตบริการสุขภาพที่ 5 ศักยภาพของทีมแพทย์ บุคลากรด้านการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจมีการเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยพื้นที่จำกัดจึงทำให้ยังมีผู้ป่วยอีกจำนวนมากต้องอยู่ระหว่างการรอคอยรักษา

จากการที่ได้ติดตามการทำงานของโรงพยาบาลบ้านแพ้วฯ มาตลอด ทำให้ บริษัท โงวฮก จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินการด้านการขนส่งระหว่างประเทศ ได้ตัดสินใจบริจาคเงินเพื่อสร้างอาคารโรงพยาบาลหัวใจบ้านแพ้ว มูลค่า 520 ล้านบาท เป็นอาคารสูง 12 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 12,500 ตารางเมตร ซึ่งจะทำให้มีห้องผ่าตัดหัวใจที่ทันสมัย จำนวน 3 ห้อง ห้องสวนหัวใจคุณภาพสูงจำนวน 3 ห้อง หอผู้ป่วยวิกฤตหัวใจ และหอผู้ป่วยในโรคหัวใจ รวม 122 เตียง และคลินิกผู้ป่วยนอกที่มีห้องตรวจ 12 ห้องที่รองรับผู้ป่วยนอกได้ถึง 1,000 คน/วัน พร้อมระบบอาคารที่ออกแบบเพื่อรองรับภาวะฉุกเฉินต่างๆ ในผู้ป่วยโรคหัวใจ โดยคาดว่าจะรองรับผู้ป่วยสวนหัวใจ ได้ 1,500 รายต่อปี การผ่าตัด 10-12 ราย ต่อสัปดาห์ และการใช้เตียง CCU มากถึง 2,000 รายต่อปี

โครงการก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลหัวใจบ้านแพ้ว คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในอีก 5 ปีข้างหน้า อาคารหลังนี้จะเป็นอาคารที่เชี่ยวชาญการดูแลรักษาโรคหัวใจ ตั้งแต่การตรวจการวินิจฉัย การสวนหัวใจ การผ่าตัดหัวใจ โดยเป็นอาคารที่ให้บริการทั้งผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน ห้องผ่าตัด ห้องสวนหัวใจ หอผู้ป่วยวิกฤติ รวมถึงเป็นอาคารที่เป็นแหล่งฝึกฝนการเรียนรู้การวิจัยด้านหัวใจ ระดับเขตสุขภาพและระดับประเทศ (Training and research center) มีห้อง conference ในการใช้ประชุมวิชาการทั้งแพทย์ พยาบาล และสหวิชาชีพต่าง ๆ

ทั้งนี้ โรงพยาบาลบ้านแพ้ว ยังมีแผนการระดมทุนจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ มูลค่ารวม 249 ล้านบาท เพื่อโรงพยาบาลหัวใจบ้านแพ้ว ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้สามารถมีเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์พร้อมใช้ทันทีหลังการก่อสร้างแล้วเสร็จ ผู้สนใจสามารถร่วมบริจาค ผ่านบัญชีออมทรัพย์ ศูนย์ผ่าตัดหัวใจ โรงพยาบาลบ้านแพ้ว ธนาคารกรุงไทย สาขาบ้านแพ้ว เลขที่บัญชี 745-057961-8 (สามารถลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า)

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

กิตติกร นาคทอง

กิตติกร นาคทอง

กิตติกร นาคทอง จบการศึกษารัฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปัจจุบันเป็นผู้สื่อข่าวเว็บไซต์สาครออนไลน์ จังหวัดสมุทรสาคร เน้นนำเสนอความเคลื่อนไหวในท้องถิ่น และการพัฒนาเมืองในจังหวัดสมุทรสาครเป็นหลัก