X

เผาวอดตลาดร้อยปีบ้านแพ้ว สมุทรสาคร ชื่นชมชาวสวนนำเรือยนต์ช่วยดับไฟ

สมุทรสาคร – เพลิงไหม้ตลาดร้อยปีบ้านแพ้ว ริมคลองดำเนินสะดวก เสียหายกว่า 20 หลังคาเรือน ชื่นชมชาวสวนร่วมนำเรือยนต์พร้อมเครื่องฉีดน้ำช่วยดับไฟ

เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 31 ก.ค. 2564 ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ตลาดร้อยปีบ้านแพ้ว ริมคลองดำเนินสะดวก หมู่ 1 ต.บ้านแพ้ว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร มีลักษณะเป็นห้องแถวชั้นเดียวปลูกสร้างด้วยไม้ติดกันเรียงแนวยาวเกือบ 50 ห้อง โดยเพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากสภาพของห้องแถวเป็นไม้เก่าสร้างมานานกว่า 100 ปี อีกทั้งสภาพพื้นที่ค่อนข้างคับแคบ โดยมีการระดมรถน้ำดับเพลิงจากทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน จ.สมุทรสาคร และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 30 คัน เข้าระงับเหตุ

อีกทั้งยังมีเรือดับเพลิงของเทศบาลตำบลบ้านแพ้ว กับเทศบาลตำบลหลักห้า และเรือยนต์จากชาวบ้านที่นำทั้งเครื่องสูบน้ำ และเครื่องฉีดพ่นน้ำในสวน บรรทุกใส่เรือออกมาช่วยกันฉีดน้ำเข้าไปในกองเพลิง เป็นการระดมกำลังทุกทางเพื่อให้เพลิงอยู่ในวงจำกัด และไม่ลุกลามไปยังบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง รวมถึงสถานที่ราชการสำคัญ คือ สถานีตำรวจภูธรบ้านแพ้ว กับที่ว่าการอำเภอบ้านแพ้ว ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ถึง 300 เมตร ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงจะสามารถควบคุมเพลิงให้สงบลงได้

หนึ่งในผู้ที่พักอาศัยในตลาดร้อยปีบ้านแพ้ว เล่าว่า เห็นสายไฟที่อยู่ติดริมคลองใกล้ ๆ กับร้านขายโทรศัพท์บริเวณกึ่งกลางตลาดเกิดไหม้ขึ้น น่าจะไฟฟ้าลัดวงจร แล้วไฟก็ลุกลามไปตามสายไฟเข้ามาตรงบ้านร้านทอง ก่อนที่จะลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ผู้ที่ประสบภัยจากเหตุการณ์บางรายก็ขนย้ายข้าวของไปพักอาศัยอยู่บ้านญาติ บางรายนอนพักที่หอประชุมศาลาประชาคมอำเภอบ้านแพ้วไปก่อนชั่วคราว

ทางด้านนายวีระ​ศักดิ์ ​วิจิต​ร์​แสง​ศรี​ ผู้​ว่าราชการ​จังหวัด​สมุทรสาคร​ ได้มอบหมายให้ นาย​สุรศักดิ์ ​ผ​ลยัง​ส่ง​ รอง​ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายวุฒิพงษ์​ สุภัค​ว​นิช​ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร​ และประสานความอนุเคราะห์ ​นางชุติพร​ วิจิตร์​แสง​ศรี​ นายก​เหล่า​กาชาด​จังหวัด​สมุทรสาคร ​ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานการณ์​และอำนวยการช่วยประชาชนในเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ ความเสียหายในเบื้องต้นประมาณ 20 หลังคาเรือน โดยทางอำเภอบ้านแพ้วได้อำนวยการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว​ ณ​ อาคารอเนกประสงค์​ ที่ว่าการอำเภอบ้านแพ้ว​ และทางนายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ มอบที่นอน หมอน มุ้ง ยาฟ้าทะลายโจร และอุปกรณ์ยังชีพเบื้องต้นให้กับผู้ประสบภัยด้วย

ต่อมาเมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 1 ส.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เพลิงได้ดับลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชาวบ้านที่อาศัยภายในตลาดร้อยปีบ้านแพ้ว ได้เข้ามาขุดคุ้ยหาทรัพย์สินมีค่าที่น่าจะหลงเหลืออยู่ในกองเถ้าถ่าน สภาพของตลาดนั้นถูกเพลิงเผาไหม้จนแทบไม่เหลืออะไรเลย โดยนายพิศิษฐ์ ตั้งอิทธิศักดิ์ อายุ 54 ปี เจ้าของร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ดรายใหญ่ในตลาดร้อยปีบ้านแพ้ว บอกว่า ตอนเกิดเหตุตนนอนอยู่อีกบ้านหนึ่งที่อยู่ไม่ห่างออกไปมากนัก ส่วนร้านค้าที่ถูกไฟไหม้มีแม่นอนพักอาศัยอยู่ ซึ่งตอนเกิดไฟไหม้ไม่สามารถเอาอะไรออกไปได้เลย มีเพียงแม่เท่านั้นที่หนีรอดเอาชีวิตออกมาได้ นับเป็นความโชคดีมากที่สุดแล้ว

ส่วนความผูกพันที่มีกับตลาดร้อยปีนั้น ตนเองเกิดที่นี่ เรียนที่นี่ และอยู่ทำมาหากินที่นี่จึงมีความผูกพันเป็นอย่างมาก ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปู่ย่าตายาย โดยก่อนหน้านี้ก็เคยคิดเหมือนกันว่า อาจจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้เพราะว่าเคยเห็นข่าวตลาดเก่าหลาย ๆ แห่งที่เป็นตลาดไม้มักเกิดอัคคีภัย ส่วนปัญหาของตลาดแห่งนี้คือ ด้านหลังตลาดทำอะไรมากไม่ได้ รถเข้าถึงลำบาก ซึ่งเมื่อก่อนรถสามารถเข้าถึงได้ แต่พอมีการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยปิดทาง ก็เลยทำให้รถดับเพลิงเข้ามาไม่ถึง หรือเข้าถึงลำบากมากขึ้น

ขณะที่นางอรพรรณ ตั้งสุทธิวงษ์ อายุ 77 ปี เจ้าของร้านอรพรรณ ร้านขายของโชว์ห่วยรายใหญ่อีกรายในตลาดร้อยปีบ้านแพ้ว เล่าว่า ตอนเกิดเหตุไฟไหม้ตนเองกำลังนอนดูโทรทัศน์อยู่ภายในบ้าน แต่จู่ ๆ ไฟก็ดับพรึ่บไปเลย จากนั้นก็มีคนตะโกนว่าไฟไหม้ ตนพร้อมด้วยลูกหลานอีกเกือบ 10 คนที่พักอาศัยอยู่ด้วยกันจึงรีบหนีลงมา โดยไม่ได้หยิบอะไรติดมือมาเลย และไม่เคยคิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับพื้นที่ตลาดร้อยปี ที่ผ่านมาก็เคยเห็นแต่ในโทรทัศน์ แต่พอมาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับตนเองและคนรอบข้าง ก็พูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน แต่สิ่งหนึ่งที่นับเป็นความประทับใจจากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้คือ การที่ได้เห็นคนหลาย ๆ คนออกมาช่วยกันดับไฟ โดยเฉพาะชาวสวนบ้านแพ้ว ที่นำอุปกรณ์ทางการเกษตรจากในสวนออกมาช่วยดับไฟ

ซึ่งตัวเองและครอบครัวนั้น หลังจากที่เพลิงสงบลงแล้วก็ได้กลับเข้ามาที่บ้านอีกครั้ง แล้วก็มาช่วยกันขุดหาของมีค่าที่พอจะยังหลงเหลืออยู่บ้าง ซึ่งก็ได้เงินเก็บมาจำนวนหนึ่งสภาพถูกไฟไหม้ สำหรับความผูกพันที่มีต่อตลาดร้อยปีบ้านแพ้วนั้น ตนเองเกิดที่นี่ โตที่นี่ เรียนที่นี่ และทำมาค้าขาย พักอาศัยอยู่ที่ตลาดร้อยปีแห่งนี้มาตลอด จึงมีความผูกพันกับตลาดแห่งนี้มาก เพราะที่นี่สงบ ร่มเย็น ผู้คนก็มีอัธยาศัยดี อยู่กับแบบมิตรไมตรี  และมีน้ำใจต่อกัน เป็นวิถีชีวิตชาวบ้านที่อยู่มาอย่างยาวนานกว่าร้อยปีแล้ว

นายพิรุณโรจน์  นาคดนตรี นายอำเภอบ้านแพ้ว ก็บอกว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่วิทยาการจากกองพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้ามาตรวจสอบพื้นที่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้สรุปสาเหตุว่าเกิดจากอะไร อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ พร้อมกันนี้ทางสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร เข้ามามอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นด้วย โดยหลังจากนี้ทางอำเภอบ้านแพ้วพร้อมด้วยเทศบาลตำบลบ้านแพ้ว ก็ได้เปิดให้ประชาชนที่ได้รับความเสียหายโดยตรงจากเหตุการณ์ไฟไหม้ และผู้ที่มีส่วนได้รับผลกระทบมาลงทะเบียนเพื่อพิจารณารับการเยียวยาช่วยเหลือต่อไป ซึ่งจากการสำรวจเบื้องต้นมีบ้านเรือนที่เสียหายทั้งหลังโดยมีเจ้าของบ้านพักอาศัยตามเลขที่บ้านปรากฏจำนวน 18 ราย และเป็นผู้ที่มาขอเช่าเพื่อทำการค้าขายอีก 10 กว่าราย ส่วนบริเวณพื้นที่เกิดเหตุนั้นก็ได้ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการเคลียร์พื้นที่ ๆ ได้รับความเสียหายทั้งหมด ด้านผู้ที่ได้รับผลกระทบนั้นเมื่อคืนที่ผ่านมาบางส่วนก็ได้เข้าพักอาศัยที่หอประชุมอำเภอบ้านแพ้ว แต่บางส่วนก็ไปนอนพักที่บ้านญาติ หรือบ้านตนเองที่ปลูกสร้างไว้ที่อื่น นอกจากนี้ในวันจันทร์ (2 ส.ค. 2564) ก็จะได้เรียกผู้ประสบภัยโดยตรงกับผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดมาหารือและชี้แจงแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบต่อไป ส่วนเรื่องของการปรับพื้นที่ในอนาคตว่าจะมีการสร้างตลาดร้อยปีขึ้นใหม่หรือไม่นั้น คงต้องรอให้การปรับพื้นที่เสร็จสิ้นและหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

นายพิรุณโรจน์ ยังกล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทุกฝ่ายที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือปฏิบัติการระงับเหตุไม่ให้ลุกลามใหญ่โตไปมากกว่าที่เกิดขึ้น และอีกหนึ่งพลังที่ทำให้ชาวตลาดร้อยปีรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจเป็นอย่างมาก คือ พี่น้องชาวสวนของอำเภอบ้านแพ้วจำนวนมาก ที่ได้ขับเรือยนต์พร้อมอุปกรณ์ที่ใช้ในสวนเกษตร ทั้งเครื่องสูบน้ำ และเครื่องฉีดพ่นน้ำ ทุกขนาดเล็กใหญ่ออกมาช่วยกันระดมฉีดน้ำเข้ามาดับไฟ จนทำให้การดับเพลิงนั้นเป็นไปแบบรอบทิศทาง เกิดความเสียหายน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ หากไม่ได้กำลังจากพี่น้องชาวสวนเกษตรกรบ้านแพ้ว ก็อาจจะทำให้เกิดการลุกลามสร้างความเสียหายไปมากกว่านี้อย่างแน่นอน

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

กิตติกร นาคทอง

กิตติกร นาคทอง

กิตติกร นาคทอง จบการศึกษารัฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปัจจุบันเป็นผู้สื่อข่าวเว็บไซต์สาครออนไลน์ จังหวัดสมุทรสาคร เน้นนำเสนอความเคลื่อนไหวในท้องถิ่น และการพัฒนาเมืองในจังหวัดสมุทรสาครเป็นหลัก