!อาลัย ด.ญ.วัย 14 ปี ผู้น่ารัก ‘เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย’ เหตุกลุ่มมือปืนกราดยิงถล่มบ้านหวังเอาชีวิตพ่อ

นครศรีธรรมราช:เสียชีวิตแล้ว ด.ญ.วัย 14 ปี เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย เหตุมือปืนทมิฬกราดยิงถล่มบ้านคนเลี้ยงกุ้งเมืองคอนจากกรณีเหตุการณ์กลุ่มมือปืนซึ่งเป็นชายฉกรรจ์จำนวน 4 คน ขับรถยนต์เก๋งสีขาวไม่ทราบยี่ห้อทะเบียน และรถจยย.อีก1คัน พร้อมอาวุธครบมือกราดยิงถล่มเข้าใส่กระท่อมบ้านไม้ชั้นเดียวเลขที่ 88/4 หมู่ 11 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (8 พ.ย.62) โดยหวังจะสังหารนายวิชัย ยี่สุ่นแซม อายุ 40 ปี เจ้าของกระท่อมบ้านไม้หลังดังกล่าว แต่ปรากฏว่าช่วงเวลาเกิดเหตุ นายวิชัย ไม่อยู่ภายในบ้าน มีเพียงภรรยาและลูกๆนอนพักอาศัยอยู่ภายใน ซึ่งห่ากระสุนจำนวนหลายสิบนัดที่ถูกกราดยิงจากภายนอกสาดเข้าใส่ในตัวบ้านเจาะทะลุผ่านฝาผนังไปถูก ด.ญ.ศศิประภาหรือน้องแตน ยี่สุ่นแซม อายุ 14 ปี บุตรสาวของนายวิชัยที่กำลังนอนดูทีวีอยู่บริเวณห้องโถงหน้าห้องนอนภายในบ้าน เข้าที่บริเวณศีรษะได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา รวมถึง ด.ช.ภัทรพงศ์ บุหงอ อายุ 4 ขวบที่นอนอยู่บนบ้านชั้น 2 อีกหลัง ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยถูกกระสุนปืนยิงเฉียดเข้าที่บริเวณหน้าท้อง หลังจากเกิดเหตุได้ถูกนำตัวไปรักษาที่ รพ.ท่าศาลา
จากการได้รับรายงานทราบว่ากลุ่มมือปืนที่ก่อเหตุดังกล่าวซึ่งเป็นชายฉกรรจ์มีด้วยกัน 4 คน มาพร้อมอาวุธครบมือ ทั้งปืนลูกซองสั้น ปืนขนาด 9 มม.และขนาด.38 โดยมีเป้าหมายเพื่อมาสังหารนายวิชัย ยี่สุ่นแซมเจ้าของบ้าน แต่ในช่วงเกิดเหตุ นายวิชัยได้ออกไปนอกบ้าน เหลือเพียงภรรยาและลูกๆพักอาศัยอยู่ภายใน ขณะที่กลุ่มคนร้ายได้ร้องตะโกนเรียกหานายวิชัยด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้คนที่อยู่ภายในเกิดความหวาดกลัวไม่กล้าที่จะเปิดประตูออกมา กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้ง 4 จึงใช้อาวุธที่นำมาระดมยิงจากภายนอกใส่เข้าไปในบ้านอย่างไม่ยั้ง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว นอกจากนี้กลุ่มคนร้ายยังได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้ายาริสสีขาว ทะเบียน กต-3671 พัทลุง ที่จอดอยู่จนได้รับความเสียหายทั้งคัน ก่อนที่จะหลับหนีไปเพียงไม่นานทางจนท.ตร.ชุดสืบสวน ได้เข้าจับกุมผู้ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นหนึ่งในผู้ก่อเหตุมาได้ 1 ราย ทราบชื่อคือ”นายอนุศักดิ์ หรือเท่ แดงเดช” อายุ 27 ปี บ้านอยู่หมู่ที่ 4 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยจับได้พร้อมอาวุธปืนลุกซองยาว 1 กระบอก กระสุนอีก 1 นัด จึงนำตัวไปสอบสวน เบื้องต้นยังคงให้การปฏิเสธ ซึ่งทางตำรวจกำลังเร่งสอบสวนปากคำขยายผลอยู่ โดยเชื่อว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอนสำหรับเหตุอุกอาจที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ สร้างความสะเทือนใจอย่างมากต่อพี่น้องประชาชนที่ทราบข่าว เนื่องจากเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเป็นเด็กหญิงด้วยวัยเพียง 14 ปี ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แต่กลับต้องมาถูกลูกหลงรับเคราะห์กรรมจากการกระทำของกลุ่มมือปืนกลุ่มนี้ ซึ่งพี่น้องประชาชนที่ทราบข่าวต่างพากัน ประณามสาปแช่ง พร้อมวอนขอและให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ในการเร่งติดตามจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุมารับโทษให้ได้โดยเร็วที่สุดอย่างไรก็ตามหลังจากที่ทีมแพทย์ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ได้ให้การช่วยเหลืออาการบาดเจ็บ ด.ญ.ศศิประภา เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ที่เข้ามาพักรักษาตัวตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยทางทีมแพทย์ได้ใช้ความพยายามอย่างสุดกำลังความสามารถเพื่อยื้อชีวิตจนนาทีสุดท้าย ด.ญ.ผู้เคราะห์ร้ายได้เสียชีวิตลงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังเสียเลือดมากและทนพิษบาดแผลไม่ไหวเนื่องจากเกิดบาดแผลฉกรรจ์จากคมกระสุนเข้าที่บริเวณจุดสำคัญของสมอง หลังทราบข่าวนายวิชัย พร้อมด้วยนางทัดดาว ยี่สุ่นแซม และญาติๆของ ด.ญ.ศศิประภา ถึงกับร่ำไห้เป็นลมหมดสติ จนญาติๆต้องให้การปฐมพยาบาล ก่อนรีบเดินทางไปรับศพของลูกสาวที่ รพ.ด้วยบรรยากาศเศร้าโศกเสียใจ ส่วนอาการของ ด.ช.ภัทรพงศ์ บุหงอ อายุ 4 ปี ที่ถูกกระสุนเฉียดเข้าที่บริเวณหน้าท้องขณะนี้อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แพทย์ได้ทำบาดแผลและอนุญาตให้กลับบ้านได้ด้านพล.ต.ต.สนธิชัยอาวัฒนกุลเทพผบก.ภ.นครศรีธรรมราชพร้อมด้วยพ.ต.อ.เชาว์ศิลป์บุญประดิษฐ์รองผบก.ภ.นครศรีธรรมราชและกำลังตำรวจนปพ.และชุดสืบสวนสภ.เมืองนครศรีธรรมราชได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งโดยมีจนท.ตำรวจพิสูจน์หลักฐานนครศรีธรรมราชและตำรวจชุดสืบสวนกำลังลงพื้นที่หาข่าวเพื่อเร่งทำการสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมคนร้ายทมิฬแก๊งนี้อยู่โดยพล.ต.ต.สนธิชัยเผยว่าคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชนมากที่กลุ่มคนร้ายลงมือยิงถล่มบ้านอย่างโหดเหี้ยมจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ 2 รายโดยได้สั่งตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดตำรวจนปพ.ลงพื้นที่เร่งคลี่คลายคดีจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ซึ่งล่าสุดสามารถจับมาได้แล้ว 1 คนอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลอยู่คาดว่าอีกไม่นานจะสามาถจับกุมได้หมดยกแก๊งแน่นอนขอให้มั่นใจในฝีมือตำรวจ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราชกล่าวอย่างมั่นใจด้านนายวิชัย ยี่สุ่นแซม พ่อของ ดญ.ศศิประภา หรือน้องแตน เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ตนมีอาชีพเฝ้าบ่อนากุ้งให้กับนายทุนคนหนึ่ง ในหมู่บ้านคืนเกิดเหตุตนไม่นอนอยู่บ้านแต่ไปทำงานรับจ้างเฝ้าบ่อนากุ้ง จนมาเกิดเหตุคนร้ายจำนวน 4 คน บุกยิงถล่มบ้านของตนทำให้ลูกสาวของตนเสียชีวิตและหลานชายได้รับบาดเจ็บดังกล่าว“ตนไม่เคยมีเรื่องบาดหมางทะเลาะกับใครมาก่อน แต่เชื่อว่าน่าจะเกิดจากเหตุการณ์เมื่อเย็นวานนี้ (8 พ.ย.62)ขณะที่ตนกำลังนั่งดื่มน้ำหวานอยู่ที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง ได้มีนายเท่หรือนาย “อนุศักดิ์ แดงเดช” เพื่อนบ้านคนหนึ่งเดินเข้ามายกแก้วน้ำหวานเทให้สุนัขกินต่อหน้าต่อตาตนทำให้ตนโมโหกระโดดเตะนายเท่ไป 2-3 ครั้งและเกิดการชกต่อยกันขึ้นแต่มีผู้มาห้ามปรามแยกตนและนายเทห์ออกจากกันจากนั้นตนได้เดินทางกลับบ้านแล้วไปทำงานเฝ้าบ่อนากุ้งต่อในช่วงค่ำจนมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งตนปักใจเชื่อว่านายเท่หรืออนุศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้จะต้องมีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างแน่นอน แม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธก็ตาม” นายวิชัย กล่าว